วิธีการอ่าน price charts ตอน 3 – Price Rejection

วิธีการอ่าน price charts ตอน 3 – Price Rejection

               การอ่านชาร์ตเปล่าหรือ price chart อีกอย่างที่จำเป็นคือ price rejection เพราะทำให้เรารู้ว่าที่ไหนมี unfilled orders หรือ limit orders ที่มากพอที่จะหยุดราคาเพราะเมื่อราคาหยุดได้ที่นั้นๆ แสดงว่าที่ limit orders ที่นั้นๆ และมี market orders เข้ามาอาจมาจากการเปิดเทรดหรือการปิดทำกำไรก็ได้ต้องดูโครงสร้างประกอบ

               การเห็น price rejection สามารถบอกได้ว่ามีแนวรับแนวต้านเกิดที่ไหน เพราะหลักการทำงานออเดอร์อธิบายว่า ราคาขึ้นหรือลงเพราะ market orders ถ้าราคาวิ่งไปทางไหนแสดงว่า market orders เยอะและต่อเนื่อง ถ้าหยุดแสดงว่าเจอ limit orders ตรงข้ามที่มากพอที่จะหยุด market orders และราคาเด้งจากจุดนั้นๆ ที่หยุดราคาแสดงว่ามี market orders ฝั่งทาง limit orders เข้ามาหนุนเลยทำให้ราคา rejection ดังนั้นพื้นที่ๆ เกิด price rejection จึงบอกได้ว่าราคาเจอ suport/resistance ที่นั้นๆ

               องค์ประกอบที่จะพิจารณาเรื่อง price rejection มีดูว่าราคาวิ่งเข้าไปอย่างไรแล้วเกิด rejection ดูว่าราคาอยู่ตรงนั้นได้นานเปล่า ดูว่าราคาเด้งอย่างไร เด้งได้มากหรือน้อย ถ้าราคาเบรคเมื่อราคากลับมาอีก ดูว่าราคาเบรคอย่างไร  เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้บอก market sentiment ตอนนั้นๆ เป็นอย่างไร ช่วยให้เราต่อจิกซอว์อ่านปริบทที่เพิ่มเติมได้เพื่อดูภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น

               เริ่มที่เลข 1 จะเห็นว่าราคา rejection ที่พื้นที่สีเขียวหรือเลข 1 ราคาไม่สามารถเบรคลงได้ เห็น rejection ตลอด rejection ตรงนี้บอกถึงการตัดสินใจที่จะรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ไม่ให้ราคาเบรคลงมา บอกถึง buying pressure หรือมีการเข้าเทรดของขาใหญ่ หลังจากที่ราคาเอาชน พื้นที่ทางช้ายของเลข 1 แค่พอราคาดันขึ้นไป ราคา rejection ที่เลข 2 มองมาทางช้ายจะเห็นจุดอ้างอิงทำไมจึงมี sell limit orders เข้ามา สิ่งที่ต้องใส่ใจตามมาคืออการ rejection เป็นอย่างไร เพราะทุกครั้งที่เปิด rejection ออเดอร์ที่เป็น Limit orders พื้นที่นั้นๆ จะลดลงไป  ถ้าไม่มี market orders มาหนุนให้ไปต่อเมื่อราคากลับมาราคาจะผ่านได้ง่าย ดูลูกศรที่ชี้ที่บาร์มี rjection หางบาร์ แต่ดูบาร์ก่อนท่านจะเห็นว่าลักษณะที่ราคาวิ่งเข้าหาอีกรอบ แทบไม่มีหางบาร์ และราคาไม่ลงเกินกรอบเลข 2 ได้สุดท้ายราคาขึ้นไปไปเด้งที่เลข 3 แสดงว่ามี sell limit orders อยู่ตรงนี้ก็เลยกลายเป็น resistance ใหม่ไปในตัว ผ่านไปสักระยะราคาเบรคขึ้นไปอีกไปที่เลข 4 และราคาเด้งลงแสดงว่ามี sell limit ตรงนั้น และมา sell market orders เข้ามาจุดที่เบรคไปที่เลข 3 ก็กลายเป็นแนวรับไป

               ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องมองคือเมื่อราคาเด้งหรือ rejection ต้องมองทางซ้ายเสมอ ว่ามีร่องรอยอะไรหรือเปล่า เช่นเป็นแนวต้านเดิมที่เพิ่งโดนเบรคไปหรือเปล่า มองย้อนกลับมาที่เลข 2 ที่ราคาเด้งก่อนไปถึงเลข 4 ถ้ามองมาทางช้ายมือท่านก็จะเห็นว่ามีราคาเด้งมาก่อนตรงที่เลข 2 เลยถือว่าเป็น resistance เพราะหลักของการจะมองพื้นที่นั้นๆ เป็น resistance ได้ ราคาต้องมาพื้นที่แล้วเด้งอย่างน้อย 2 ครั้ง

               พอราคาเด้งลงจากเลข 4 เมื่อท่านประยุกต์มองช้ายมือเข้าไป ท่านจะเห็นว่าราคาเบรค resistance ตรงไหน ท่านก็จะเห็นที่เลข 3 เลขเป็นจุดอ้างอิงในการจะเด้งขึ้น rejection อีกรอบ เรื่อง higher highs ตามด้วย higher lows เกิดเพราะหลักการนี้

               คำถามน่าจะอยู่ที่ทำไมจึงเด้งที่ 3 ไปก่อนหรือไม่เด้งที่เลข 2 ต้องอธิบายการด้วยเรื่องออเดอร์การเทรดและการทำกำไรได้หรือเสีย  อย่างแรกตอนราคาเบรคที่เลข 3 มีเทรดเดอร์ที่เปิด short positons ดังนั้นด้วยที่ไม่ได้ตั้ง stop loss ราคาขึ้นไปที่เลข 4 เทรดเดอร์พวกนี้ติดลบพอราคาลงมาใจค่อยดีขึ้นมาหน่อย แต่ราคายังลงไม่ถึงจุดที่พวกเขาเทรด ไม่มี price action signals ที่บอกว่าจะไปต่อ ความกดดันไม่อยากติดลบอีกรอบที่ต้องแบกความกดดันแบบที่ขึ้นไป เลยทำให้เทรดเดอร์พวกนี้ต้องออกแถวนี้ทำให้ราคาเด้งขึ้น เพราะถ้าราคาลงเกินจุดที่เบรคอาจมี sell market orders เข้ามาอีกราคาก็จะลงไปที่เลข 2 ได้ก่อน ถ้าแบบนั้นขาใหญ่จะไม่สามารถสร้างความกดดันกับเทรดเดอร์พวกนี้ได้ ยิ่งถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่อยู่สถานการณ์เดียวกัน แต่เปิด short positions ที่เลข 2 ความเครียดก็จะหนักกว่าพวกเทรดเดอร์ที่เปิดที่เลข 3 นี่คือแหลงที่มา buy market orders ที่จะมาจาก trapped traders ทั้ง 2 จุดถ้าราคาเด้งที่ตรงนี้ ที่สำคัญออเดอร์พวกนี้เป็นประเภทที่จำต้องเปิดเพื่อจำกัดความเสี่ยง อีกกลุ่มออเดอร์จะมาจากเทรดเดอร์ที่รอเทรดตามเทรน เพราะราคาเบรคที่เลข 3 จุดที่ราคาน่าจะ rejection จะเป็นที่เลข 3 เพราะเป็นหลักการเทรดทั่วๆ ไปที่บอกว่าเมื่อแนวต้านกลายเป็นแนวรับพอราคากลับมาก็เปลี่ยนข้างเทรด ในที่นี้เทรดแดอร์ที่วิเคราะห์แบบนี้ก็จะเห็นเป็นจุดที่จะเข้าเทรดตามเทรน และยังเป็นจุดที่ขาใหญ่เข้าเทรดต่ออีก

               ดังนั้นเมื่อเห็น price rejection ตรงไหน สิ่งแรกที่ควรจะทำคือมองมาทางซ้ายมือก่อนเพื่อดูแหล่งที่มา ให้ถือจุดที่ใกล้สุดเป็นสำคัญก่อน สิ่งที่ต้องพิจารณเพิ่มเมื่อราคา rejection คือเป็นครั้งแรกหรือครั้งที่เท่าไร (เมื่อมองมาทางซ้ายมือ) ก่อนจะ rejection ราคาวิ่งอย่างไร (ดูลักษณะบาร์ประกอบ) การ rejection ไปได้มากหรือนิดหน่อยและบาร์ต่อมาเป็นอย่างไร สามารถเอาชนะจุดที่เบรคขึ้นมาหรือเบรคลงไปก่อนทำ new high/new low ได้หรือเปล่า

               เมื่อเข้าใจ price rejection ก็จะทำให้ท่านมองหาแนวรับแนวต้านเป็น จากแค่อ่านจาก price charts ไม่ต้องใช้อินดิเคเตอร์อะไร หาจุดเข้าเทรดต่อเป็น เช่นเรื่องการเทรด pullback ก็จะเป็นเรื่องง่าย เมื่อท่านใช้ Fibonacci Retracement ประกอบก็จะหาจุดเข้าเป็น

ทีมงาน : thaiforexbroker.com