รายละเอียดอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการเทรด Forex ก็คือการใช้ Timeframe มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ จะดูแบบไหนก็ได้ตามที่เราอยากจะเทรด แต่ความจริงแล้วมันมีข้อมูลที่เทรดเดอร์ไม่ควรจะมองข้ามซ่อนอยู่ในแต่ละ Timeframe ครับ
Highlight บทคัดย่อ
- Timeframe คือกรอบเวลาที่แสดงข้อมูลราคาของแท่งเทียนแต่ละแท่ง ใช้เพื่อเป็นตัวกรองสัญญาณ/กรองข้อมูล, ใช้สำหรับวางแผนการเทรด, หาจังหวะเข้า-ออก, และกำหนดรายละเอียดของออเดอร์
- Timeframe เล็กคือกรอบเวลาประมาณ 1-30 นาที กรอบนี้สะท้อนการซื้อขายรายย่อยและอารมณ์ตลาดระยะสั้น มีสัญญาณซื้อขายจำนวนมาก (รวมถึงสัญญาณหลอก) เหมาะสำหรับ Scalpers หรือ News Traders
- Timeframe กลางคือกรอบเวลาประมาณ 1-4 ชั่วโมง นิยมที่สุดเพราะความสมดุลและยืนหยุ่นสูง เหมาะสำหรับ Day Traders และ Swing Traders
- Timeframe ใหญ่คือกรอบเวลาตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะแสดงภาพรวมและแนวโน้มราคาในระยะยาวที่แท้จริง เหมาะสำหรับ Position Traders หรือ Carry Traders
- Multi-Timeframe Analysis คือการผสมผสานกรอบเวลา มีหลักเทคนิค 3 อย่างคือ
-
- ใช้ TF ใหญ่หาแนวโน้มที่แท้จริง
- ใช้ TF กลางในการวิเคราะห์เพื่อเข้าเทรด
- ใช้ TF เล็กหาจุดเข้าเทรดที่ชัดเจน
Time Frame คืออะไร? มีผลยังไงกับการเทรด
- Timeframe มันคือกรอบเวลาที่แสดงข้อมูลราคาในแต่ละแท่งเทียน ยกตัวอย่างให้ง่ายขึ้น เช่น Timeframe 1 ชั่วโมง หมายความว่า: แท่งเทียนหนึ่งแท่งจะแสดงราคาสูงสุด- ต่ำสุด, ราคาเปิด-ปิดในระยะเวลา 1 ชั่วโมง
- โดย Timeframe ในแพลตฟอร์ม Forex จะมีตั้ง 1 นาที ไปจนถึง 1 เดือน (เรียกว่า TF เล็ก-ใหญ่) ซึ่งเราจะคุยรายละเอียดของ Timeframe แต่ละแบบกันในหัวข้อถัดไปครับ
- ถ้าเปรียบเทียบการเทรดเหมือนการขับรถ การใช้ Timeframe เล็กก็เหมือนเรานั่งในรถและได้เห็นรายละเอียดรอบๆ ตัวเรา แต่ Timeframe ใหญ่เหมือนเราได้เห็นแผนที่และเส้นทาง+ถนนที่เราจะไปนั่นเองครับ
- Timeframe มีผลต่อการเทรดมากกว่าแค่เป็นกรอบเวลาสำหรับแท่งเทียนนะครับ เช่น
-
- เป็นตัวกรองความแม่นยำของข้อมูล: อย่างที่บอกไปว่า Timeframe ใหญ่ ยิ่งกรองสัญญาณได้ดี
- ใช้สร้างกลยุทธ์และวางผนเทรด: กำหนดกรอบการเทรดระยะสั้น-ยาว
- ใช้เป็น จิตวิทยาการเทรด: โดยการเลือก Time Frame ที่เหมาะสมกับนิสัยและสไตล์การทรด

Time Frame ยอดนิยมที่เทรดเดอร์ใช้กัน
โอเค เรามาพูดถึง Timeframe ในแต่ละแบบกัน โดยส่วนใหญ่เทรดเดอร์จะจำแนก Timeframe ตามระยะเวลาของมัน ซึ่งไม่ใช่ทุก Timeframe ที่เทรดเดอร์จะนิยมใช้นะครับ
Timeframe เล็ก
- Timeframe เล็กก็คือกรอบเวลาระยะสั้นตั้งแต่ 1 นาที – 30 นาที TF นี้มักจะแสดงความผันผวนของราคาแบบละเอียด มีแท่งเทียนเกิดใหม่บ่อยมากรวมถึงมีสัญญาณซื้อขายจำนวนมาก (ทั้งจริงและหลอก)
- Timeframe นี้มันจะบ่งบอกข้อมูลอะไรแก่เราบ้าง?
- การซื้อขายของเทรดเดอร์รายย่อยที่แสดงออกมาจากการแกว่งตัวของราคาสั้นๆ
- แน่นอนว่าใน TF เล็กมีสัญญาณซื้อขายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่หลายครั้งในนั้นก็มักจะเป็นสัญญาณหลอก ไม่ส่งผลต่อแนวโน้มหลักอะไร
- TF จะสะท้อนให้เห็นถึงสภาพคล่อง+อารมณ์ตลาดระยะสั้นที่ตอบสนองต่อข่าวหรือข้อมูลที่ไม่สำคัญมากนัก
- Timeframe เล็กเหมาะกับใครบ้าง?
-
- Scalpers: เทรดเดอร์ที่เน้นทำกำไรจากส่วนต่างราคาเล็กๆ น้อยๆ แต่บ่อยครั้ง เปิด-ปิดออเดอร์ในเวลาไม่กี่นาทีหรือวินาที
- News Trader: เทรดเดอร์ที่ชอบเทรดระว่างหรือหลังจากข่าวเศรษฐกิจประกาศข้อมูลออกมา เพื่อหวังทำกำไรจากความผันผวนแบบรวดเร็ว

Timeframe กลาง
- Timeframe นี้จะก้ำกึ่งระหว่างกรอบใหญ่และเล็ก เช่น 1ชั่วโมง – 4ชั่วโมง เป็น TF ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้เพราะมีความสมดุล+ยืดหยุ่นระหว่างความละเอียดและภาพรวม ลดสัญญาณหลอกไปได้เยอะแต่ก็ยังมีอยู่บ้าง
- Timeframe นี้มันจะบ่งบอกข้อมูลอะไรแก่เราบ้าง?
- TF กลางเริ่มจะมองเห็นระดับแนวรับแนวต้านที่ชัดเจนมากกว่ากรอบเล็ก ใช้อ้าอิงเป็นจุดเข้าออก ออเดอร์ได้แบบระยะสั้นถึงกลาง
- รวมถึงเห็นช่วงที่ราคากำลังรวมตัวหรือ พักฐาน ได้ชัดเจนขึ้น ก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
- อย่างที่บอกไปว่า TF นี้ได้รับความนิยมที่สุด มันสะท้อนการตัดสินใจของนักเทรดกลุ่ม Day Trader และ Swing Trader ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในตลาด
- Timeframe กลางเหมาะกับใครบ้าง?
-
- Day Traders: เทรดเดอร์ที่เปิดและปิดออเดอร์ภายในวันเดียวกัน เน้นจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาในระหว่างวัน
- Swing Traders: เทรดเดอร์ที่เทรดตามจุดลับตัวของแนวโน้ม ซึ่งมักจะกินระยะเวลาตั้งรายชั่วโมงไปจนถึงรายวัน (แต่ไม่หลายวัน)

Timeframe ใหญ่
- Timeframe ใหญ่ก็คือกรอบเวลาตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ที่จะเห็นแพลตฟอร์มเทรดก็เช่น D1 (1 วัน), W1 (1 สัปดาห์), MN (รายเดือน)
- Timeframe นี้มันจะบ่งบอกข้อมูลอะไรแก่เราบ้าง?
- ใช้เพื่อดูภาพรวมของแนวโน้มราคาในระยะยาว ซึ่งมันคือแนวโน้มที่แท้จริงของคู่สกุลเงินนั้น
- แนวรับแนวต้านที่เห็นใน Time Frame ใหญ่ เป็นระดับที่สำคัญมากและมักจะแข็งแกร่ง สังเกตจากการกลับตัวของราคาที่รุนแรงในระดับนี้
- Time Frame ใหญ่ มักจะสะท้อนผลกระทบจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจด้วยและส่งผลต่อการเข้าออกออเดอร์ของนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนขนาดใหญ่ (รายใหญ่นั่นเอง)
- Timeframe ใหญ่เหมาะกับใครบ้าง?
-
- Position Traders: เทรดเดอร์ที่เน้นถือออเดอร์ยาวข้ามสัปดาห์หรือข้ามเดือน เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มใหญ่ของตลาดเป็นหลัก
- Carry Traders: เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์เทรดแบบทำกำไรจากค่า Swap เป็นดอกเบี้ยสำหรับถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งแน่นอนว่าต้องถือระยะยาวและเน้น TF ใหญ่เป็นหลัก

เทคนิคการใช้ Multi-Timeframe
เพื่อให้การใช้ Timeframe เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แน่นอนว่าเทรดจะไม่ใช้แค่ TF เดียวในการวิเคราะห์เข้าเทรด นั่นก็เพราะการใช้ Multi-Timeframe Analysis คือกุญแจสำคัญที่ทำให้มองเห็นภาพรวมตลาด ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นและหาจุดเข้าออกที่คุ้มค่าที่สุด เทคนิคการใช้ Multi-Timeframe มี ง่ายๆ 3 ข้อด้วยกัน
1. เริ่มจาก Time Frame ที่ใหญ่ที่สุด (ภาพรวมของตลาด)
- เริ่มต้นเทรดเดอร์ควรจะเริ่มจาก TF ใหญ่ใช้เพื่อระบุ แนวโน้มหลักของคู่เงินที่เราวิเคราะห์อยู่ อาจจะเริ่มที่ TF 1 วัน หรือขยายไป 1สัปดาห์ เพื่อเอาให้ชัวร์
- เทรดเดอร์มือใหม่ต้องระวัง! ก็คือ ไม่ควรเทรดสวนแนวโน้มใหญ่ แม้ TF เล็กจะมีสัญญาณเข้าก็ตาม ส่วนมืออาชีพหากมีระบบเทรดที่รับรองสถานการณ์หลายๆ แบบแล้ว ก็ไม่ว่ากันครับ

2. ขยับมาที่ Time Frame กลาง (สัญญาณการเทรดปกติ)
- กรอบ TF นี้แหละที่เทรดดอร์บางส่วนมักจะเข้าเทรดแล้ว ถ้าเจอสัญญาณ แต่ส่วนใหญ่เอาไว้วางแผนเทรดตามแนวโน้มที่เห็นจาก Time Frame ใหญ่
- TF กลางให้เริ่มหา แนวรับ-แนวต้าน หรือตีเส้น Trendline รวมถึงใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ก็ได้ครับ เพราะมันมักจะมีสัญญาญเข้าเทรดที่ชัดเจนแล้ว

3. ซูมไปที่ Time Frame เล็กที่สุด (จุดเข้า-ออกที่แม่นยำ)
- TF นี้เราจะได้จุดเข้า-ออกออเดอร์ที่ชัดเจนมากที่สุด เอาไว้กำหนดรายละเอียดคำสั่งเทรด เช่น TP/SL
- ไม่ต้องตกใจถ้าเจอกราฟวิ่งแรงๆ ให้เทรดตามแนวโน้มและระดับที่เรา Mark ไว้ TF ใหญ่กลาง จำไว้ว่า TF เล็กมีสัญญาณหลอกล่อใจเยอะ ให้เอาไว้หาจุดเข้าเทรดก็พอ

วิดีโอเกี่ยวกับ Multi-Timeframes
เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพการเทรดแบบ Multi-Timeframes ได้ชัดเจนมากขึ้น ทางทีมงาน Thai Forex Broker จึงไปหาคลิปนี้มาแชร์ให้ผู้อ่านทุกท่าน เป็นคลิปสอนหลักการ Multi-Timeframe Analysis (การวิเคราะห์หลายกรอบเวลา) เพื่อหาโอกาสในการเทรด
- Focus นาทีที่ 00:34 ภาพรวมการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา
- Focus นาทีที่ 00:49 แบ่ง Time Frame เป็น 3 ประเภท Higher Time Frames/ Analysis Time Frames/ Entry Time Frames
- Focus นาทีที่ 04:27 Smart Money Concepts และการหาโอกาส
- Focus นาทีที่ 08:08 ตัวอย่างการเทรด
- Focus นาทีที่ 12:57 การจัดการความเสี่ยง
สรุป
Timeframes ถือว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งในปัจจัยของ Confluence ของสัญญาญเทรดได้ แต่ละ Timeframe ถูกออกแบบมาเพื่อบอกข้อมูลบางอย่างแก่เทรดเดอร์ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้ข้อมูลนั้นได้อย่างแม่นยำเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องประกอบไปด้วยเครื่องมือ+ข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ จะยิ่งทำให้การใช้ Timeframes เพิ่มประสิทธิภาพการเทรดของเราได้
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะไขความกระจ่างแก่เทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมือเก่าทุกคนในการใช้งานและเข้าใจ Timeframes ในแต่ละระยะเวลามากขึ้น
ทีมงาน: thaiforexbroker.com