The Trend is your friend
คำพูดที่จะได้ยินประจำเมื่อเทรดคือ “The trend is your friend” เพราะเมื่อราคาทำเทรนได้ ราคาก็จะวิ่งไปทางนั้นเป็นหลักจนกว่าเทรนหยุดและเปลี่ยนเทรน ท่านก็หาโอกาสเทรดตามเทรนอีก ประเด็นคือราคาไม่ได้ทำเทรนตลอด เช่นเมื่อดูเป็นชาร์ตวันจะเห็นว่าบางวันทำเทรน หลายวันทำ consolidation หลายวันทำ corrective move แล้วแต่ชาร์ตที่เกิดขึ้นเปลี่ยนไป แม้ว่าการเทรดตามเทรนเป็นเรื่องที่ดีเมื่อเข้าได้ถูกจุด แต่ยากตรงที่จะเจอเพื่อน (เทรน) ตอนไหนเมื่อจะเทรดตามเทรน
คำพูดดังกล่าวค่อนข้างจะมีอิทธิพลต่อการเทรดเยอะโดยเฉพาะรายย่อย เพราะเมื่อดูราคาหรือ price chart ที่เปิดเผยและยังบอกถึงพฤติกรรมของเทรดเดอร์ที่เข้าเทรด ท่านดูกรอบสีแดงท่านจะเห็นว่าหลังจากที่ราคาทำเทรนหรือมีการเบรค high ขึ้นมาเป็นการยืนยันว่าเทรนจะไปต่อ จะเห็นว่าราคาวิ่งค่อนข้างจะแรงเพราะมี buy market orders เข้ามาเยอะ เพราะความรู้เรื่องเทรนจะทำให้เทรดเดอร์ส่วนมากจะเทรดไปทางนั้นๆ หรือถ้าเทรดเดอร์ที่ถือ positions อยู่ในตลาดกรณีแบบเทรดสวนเทรน เมื่อเห็นเทรนไปต่อด้วยการเบรคก็จะออกด้วยการปิดเองหรือ stop loss และ breakout traders ด้วยก็จะโดดเข้าตามเทรนทันทีเมื่อเห็นเทรนกลับมา จะเห็นว่า 2 กลุ่มนี้เทรดตามเทรนเมื่อราคากลับมาเบรค high แล้วไปต่อตามเทรนที่ทำเทรนมา (กรณีที่ยกเป็นการทำเทรนขาขึ้น)
อีกกลุ่มเทรดเมื่อเทรนทำการทดสอบหรือ corrective move เทรดเดอร์กลุ่มนี้จะเข้าเทรดเมื่อเห็นเทรนเปิดเผยก่อน ค่อยจะหาโอกาสเทรด กลุ่มนี้จะเข้าเทรดเมื่อเห็น impulsive move ก่อนเป็นสำคัญว่าเป็นผลจากการเข้าเทรดจริงของขาใหญ่ และเทียบ risk:reward ต้องได้ตามที่ต้องการขึ้นต่ำขึ้นเช่น 1:3 ถึงจะเข้าเทรด และสำคัญจะเน้นเทรดช่วงแรกๆ ของเทรนเป็นหลัก
ข้อดีและข้อเสียของ 2 กลุ่มเทรดเดอร์ที่เทรดตามเทรนที่ยกมาประกอบ จะต่างกัน ถ้าเป็นกลุ่มแรกที่เทรดตอนราคาเบรค High ก็จะเทรดง่ายแค่มองเทรนเป็นด้วยการดูการพัฒนา swings เช่นถ้าเทรดขึ้นราคาก็จะทำ higher highs ตามด้วย higher lows จนกว่า Higher lows โดนเบรค แต่ข้อเสียคือราคามักจะวิ่งไปแล้ว risk เพิ่มขึ้นส่วน reward ลดน้อยลง แล้วแต่โครงสร้างช่วงเทรนที่เข้าเทรดด้วย แต่ที่แน่ๆ คือ risk เพิ่มขึ้นและ reward ลดลง และเมื่อมองจากชาร์ตที่ยกมาประกอบจะเห็นว่ามักมีส่วนร่วมในการเร่งราคาเพื่อให้ขาใหญ่จัดการออเดอร์ คือปิดทำกำไรจากที่เปิดเทรดที่ราคาต่ำกว่าหรือ เปิดโอกาสให้ขาใหญ่เปิดเทรดสวนเทรน เพราะความรู้เรื่องเทรนและเมื่อเห็นราคาเบรคด้วยก็จะทำให้เทรดเดอร์รายย่อยหันมาเทรดทางที่ราคาเบรคและคิดว่าราคาจะไปตามเทรนต่อเป็นหลัก เป็นแหล่งออเดอร์ตรงข้ามที่ขาใหญ่คาดได้ว่าออเดอร์ตรงข้ามพวกเขาจะเกิดเมื่อไรและที่ไหน
ส่วนเทรดเดอร์ที่เทรดตามเทรนกลุ่มที่สอง เปิดเทรดตอนราคาย่อตัวหรือเทสหรือ pullback หรือ corrective move กลุ่มนี้จะได้เปรียบเรื่อง risk:reward ถ้าหาจุดที่เข้าเทรดเป็นก็จะเทรดแบบที่เรียกว่า buy low หรือ sell high ได้ตลอด แต่ที่ยากคือว่าจะหาที่เป็นกำหนดว่าเทรนขึ้นหรือ impulsive move เป็นหรือเปล่า เพราะถ้าเป็น impulsive move ที่แข็งอย่างแรกโอกาสที่เทรนไปต่อมีความเป็นไปได้สูง อย่างที่สองเรื่อง Risk:Reward ยังดีด้วย
จากตัวอย่างที่ยกมาท่านจะเห็นว่า impulsive move มีการเอาชนะพื้นที่ตรงข้ามให้เห็นและราคาเบรคขึ้นไปอย่างแรงด้วย เพราะราคาเอาชนะพื้นที่ตรงข้ามที่เป็น supply หรือที่เป็น high ก่อนที่ราคาจะลงไป high ตรงนั้นก็ถือเป็นพื้นที่ supply เหมือนกันเพราะราคา rejection ตรงนั้น ลักษณะที่ราคาวิ่งเข้าหา ราคาเบรค และราคาปิดอย่างไรแต่ละพื้นที่ ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญมากที่ตลาดบอกสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับจุดที่ถือว่ามีผลต่อการพัฒนาเทรน เพราะตราบใดที่ราคายังเบรค high ได้เรื่อยๆ ก็แสดงว่ายังมี buy market orders อย่างแรงและต่อเนื่องอยู่แสดงว่าเทรนขาขึ้นยังไปต่อได้อีก
ดังนั้นการเทรดตามเทรนจังหวะการเข้าเป็นเรื่องสำคัญว่าจะเข้าตรงไหน แต่ต้องมาจากการเข้าใจว่าเทรนเกิดขึ้นและพัฒนาอย่างไรเพราะแม้ราคาทำเทรนขึ้น ไม่ได้หมายความว่าราคาวิ่งขึ้นเป็นเส้นตรงอย่างเดียว เพราะออเดอร์ที่มาจากการเทรดของเทรดเดอร์เป็นกำหนดรูปแบบการพัฒนาการของเทรน การเทรดแล้วปิดทำกำไรแล้วมีการย่อตัวเพื่อล่อรายย่อยให้เข้ามาใหม่อีกแล้วเข้าเทรดต่อ และใช้ประโยชน์จากที่ที่ราคาทำเทรนก่อนหรือ high/low ก่อนและราคาเบรคไปต่อทำเทรนต่อ เพราะจุดที่เป็น high/low ก่อนของการทำเทรนจะกลายเป็นจุดที่มี stop orders ประกอบที่มาจากเทรดเดอร์ที่เทรดตอนราคาสวนเทรนตอนที่ขาใหญ่ปิดทำกำไรและ buy/sell stop orders จากกลุ่มที่เป็น breakout traders ด้วย ขาใหญ่ก็จะเข้าเทรดอีกรอบได้ตอนราคาย่อตัวหรือทำ corrective move ก็จะดันราคากลับมาเพื่อใช้ประโยชนจากตรงนี้ให้ได้ เพราะมีออเดอร์ที่พร้อมจะเร่งราคาให้ไปต่ออย่างรวดเร็ว
The Trend is your friend ก็ต่อเมื่อท่านเข้าใจว่าตลาดทำงานอย่างไร ออเดอร์ทำงานอย่างไร ความรู้และพฤติกรรมของเทรดเดอร์โดยเฉพาะรายย่อยที่มีต่อเรื่องเทรน เมื่อท่านคิดและมองตลาดแบบขาใหญ่เป็น
ทีมงาน : thaiforexbroker.com