มือใหม่ต้องรู้! ปัจจัยกระทบค่าเงินและวิธีเลือกคู่เงิน Forex

รู้มั๊ย? การจะเริ่มต้นเป็นเทรดเดอร์ไม่ว่าจะแบบ Part-time หรือมืออาชีพก็ตาม มันมีสิ่งหนึ่งที่เป็นความรู้/ความเข้าใจที่เทรดเดอร์จะต้องมีเอาไว้ติดตัว ก็คือ “ความเข้าใจเกี่ยวกับคู่เงิน” ทั้งเรื่องการจับคู่, การเลือกเทรดคู่เงิน, ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงิน สิ่งเหล่านี้พร้อมนำเสนอในบทความนี้แล้วครับ


Highlight บทคัดย่อ

  • ปัจจัยที่กระทบต่อค่าเงินมีดังนี้ 1. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน มันคือตัวแปรสำคัญที่นักลงทุนเสพจากข่าวและตัดสินใจ ซื้อ/ขาย สกุลเงิน 2. คืออัตราดอกเบี้ย เป็นข้อมูลอันดับแรกที่นักลงทุนจะใช้วิเคราะห์สกุลเงินนั้น
  • ข้อ 3 คือข่าว Forex และตัวเลขเศรษฐกิจรวมถึงคำแถลงการณ์จากธนาคารกลาง ก็จะส่งผลต่ภาพรวมเศรษฐกิจด้วย ส่วนข้อ 4 คือ สถานการณ์โลก เช่น สงครามที่เพิ่งเกิดขึ้นส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบของสินทรัพย์จนส่งผลต่อค่าเงินด้วย
  • ส่วนการเลือกเทรดคู่เงิน แนะนำให้เลือกคู่เงินหลัก (Major Pairs) ก่อนเพราะมีสภาพคล่องสูง, ค่าสเปรดต่ำ และหาข้อมูลวิเคราะห์ได้ง่าย
  • นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างคู่เงิน และ Trading Session ก็เป็นอีกปัจจัยในการขับเคลื่อนหลักของแต่ละสกุลเงินด้วย

รู้จักโลกของคู่เงิน Forex

  • ในการเทรด Forex เราจะเห็นสัญลักษณ์คู่เงิน 2 สกุลเงินจับคู่กันใช่ไหมครับ…ซึ่งมันก็คือคือการแสดงมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง เช่น
  • EUR/USD ตอนนี้กราฟราคาคือ 1.1150 = ต้องใช้เงิน 1.1150 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อ 1 ยูโร
  • สกุลเงินที่อยู่ด้านหน้า (ในตัวอย่างคือ EUR) จะถือว่าเป็น สกุลเงินหลัก ส่วนสกุลเงินด้านหลังคือสกุลเงินอ้างอิง(USD) หลักการทำงานของการเทรดคู่เงินก็คือ
    • เมื่อคุณ Buy คู่เงินหนึ่ง = คุณกำลังซื้อ (Buy) สกุลเงินหลัก และขายสกุลเงินอ้างอิงไปพร้อมกัน เพราะวิเคราะห์แล้วว่าสกุลเงินหลักจะแข็งค่ากว่าสกุลอ้างอิง
    • กลับกันเมื่อคุณ Sell คู่เงินหนึ่ง = คุณกำลังขาย (Sell) สกุลเงินหลักและซื้อสกุลเงินอ้างอิงไปพร้อมกัน เพราะคาดว่าสกุลเงินหลักจะอ่อนค่ากว่าสกุลอ้างอิง
ประเภทของคู่เงินในตลาด Forex
คู่สกุลเงินสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ คู่สกุลหลัก – เหล่าสกุลเงินด้านบน จับคู่กับ USD, คู่สกุลรอง – เหล่าสกุลเงินด้านบนจับคู่กันเอง ไม่จับ USD, สกุลแปลกใหม่ – เหล่าสกุลเงินหลักรวม USD จับคู่กับสกุลเงินประเทศตลาดเกิดใหม่

ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน

เรารู้จักคู่เงินในโลกของ Forex ค่อนข้างลึกพอสมควรแล้ว ทีนี้เข้าสู่ประเด็นหลักกันบ้างว่า ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้สกุลเงินหนึ่งแข็งค่า/อ่อนค่าได้?

1. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน

  • ขอสปอยล์ก่อนเลยว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุน สำคัญกว่าข่าว Forex เสียอีก! …เหตุผลก็เพราะข่าวเป็นเพียงข้อมูล แต่ความเชื่อมั่นคือนำข้อมูลนั้นมาตีความและตัดสินใจเทรดนั่นเองครับ
  • กราฟ Forex จะเคลื่อนที่ได้ จนเกิดเป็นโครงสร้าง Price Action หรือระดับราคาต่างๆ ได้ก็ต้องเกิดจากการซื้อ/ขาย ของผู้เล่นในตลาดและบางครั้งข่าวดีก็ไม่ทำให้ค่าเงินแข็งเสมอไป หากนักลงทุนไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจตอนนั้น
  • ดังนั้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนนี่แหละคือปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดแรงซื้อ/ขาย ที่สะท้อนค่าเงินออกมาบนกราฟ ซึ่งข่าวเศรษฐกิจและตัวเลขก็จะเป็นปัจจัยถัดมาครับ
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและอารมณ์ตลาด
Risk-on/Risk-Off Meter จากเว็บ Babypips เป็นเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ Market Sentiment (อารมณ์ของตลาด) ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ถ้า Risk-on = นักลงทุนเชื่อมั่นและมองว่าการเทคความเสี่ยงมันคุ้มค่ากว่าจึงทยอยเข้าเทรดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง

2. อัตราดอกเบี้ย

  • มาพูดถึงข่าวหรือข้อมูลเศรษฐกิจกันบ้างครับ ตัวแรกคงหนีไม่พ้นอัตราดอกเบี้ยที่ ธนาคารกลาง แต่ละประเทศประกาศออกมา ตัวนี้แหละส่งผลต่อความเชื่อมั่นมากเพราะ
    • ถ้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย = ผลตอบแทนจากการฝากเงินหรือลงทุนสูง = ความต้องการสกุลเงินสูง เงินแข็งค่าเพราะคนแห่ Buy
    • ถ้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย = เงินทุนจะไหลออก คนแห่กัน Sell สกุลเงินนั้นทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
  • แต่ไม่ได้หมายความว่าปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วจะส่งผลดีเสมอไปนะครับ เพราะผลกระทบมันมี 2 ด้าน เช่น หากค่าเงินแข็งคนลงทุนเยอะก็จริงแต่กระทบการส่งออก(ของแพง) ด้วย
  • สิ่งที่มาคู่กับตัวเลขดอกเบี้ยคือคำแถลงการณ์จากประธาณธนาคารกลางด้วยครับ ว่ามีเหตุผลอะไรที่ปรับดอกเบี้ยหรือมีนโยบายเศรษฐกิจยังไง มันส่งผลต่อความเชื่อมั่นและค่าเงินด้วยเช่นกัน
ผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยต่อค่าเงิน
ตารางนี้แสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของแต่ละคู่สกุลเงิน โดยดูจากสกุลเงินหลักทางซ้ายเทียบกับสกุลเงินอ้างอิงที่อยู่ด้านบน จะเห็นว่าเมื่อ FED ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ทำให้ USD อ่อนค่าลงเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

3. ตัวเลขเศรษฐกิจ

  • ตัวเลขเศรษฐกิจก็คือพวก ข่าว ที่บอกตัวเลข GDP, ตัวเลข Non-Farm ซึ่งตัวเลขเหล่านี้มันสะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นแข็งแรงหรือไม่?
  • ถ้าเศรษฐกิจแข็งแรงก็ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้+หนุนให้สกุลเงินนั้นแข็งค่าขึ้น ถ้าตัวเลขแย่ ภาพลักษณ์เศรษฐกิจดูไม่เติบโต นักลงทุนไม่กล้าเสี่ยง+ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนค่าลง

4. สถานการณ์โลก

  • บางครั้งนอกเหนือจากข่าวเศรษฐกิจแล้วก็มีข่าวสถานการณ์โลกนี่แหละครับ ที่เป็นปัจจัยกระทบให้ค่าเงิน/สินทรัพย์ เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงได้ เช่น สงคราม, ภัยพิบัติ
  • ยกตัวอย่างสงครามที่เพิ่งเกิดเลย อิสราเอล-อิหร่าน ส่งผลให้ราคา น้ำมันดิบ พุ่งก่อนจะลดลงเมื่อประกาศหยุดยิง ค่าเงินบางสกุลพุ่งสูง (เช่น GBP) ทองปรับเล็กน้อยเพราะหลายคนอ่านเกมออกว่าสงครามจะไม่ยืดเยื้อ!
ผลกระทบของสถานการณ์โลกต่อค่าเงิน
ตัวอย่างเหตุการณ์ของสำคัญของโลกที่เพิ่งเกิดขึ้นไปคือการตกลงหยุดยิงระหว่าง อิสราเอล-อิหร่าน ส่งผลให้ค่าเงิน GBP พุ่งทยานสูงสุดในรอบ 3 ปี เทียบกับ USD ที่เพิ่งจะคงดอเบี้ย+ FED เองก็ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยจึงเป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

มือใหม่ควรเลือกคู่เงินยังไงดี?

โอเค เมื่อเรารู้แล้วว่าปัจจัยไหนบ้างที่ส่งผลต่อค่าเงินได้ เรามาดูกันบ้างว่า เราจะเลือกเทรดคู่เงินไหนดี โดยเฉพาะมือใหม่อาจจะยังเลือกไม่ถูก เรามาดูคำแนะนำกันครับ

เริ่มต้นด้วยคู่เงินหลัก

  • เชื่อเถอะว่าเริ่มต้นเทรดใหม่ๆ อย่าเพิ่งไปลองคู่เงินแปลกเลยดีกว่า เจอค่าสเปรดก็หนาวแล้ว…เลือกคู่เงินยอดฮิตอย่างคู่เงินหลักไปก่อน ค่อยๆ ฝึก เพราะคู่เงินหลักสภาพคล่องสูง แถม Volume เทรดก็สูงด้วย
  • รวมถึงคู่เงินหลักขึ้นชื่อว่าหลักก็เพราะคนเทรดเยอะ ดังนั้นการหาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ก็ทำได้ง่ายกว่า เป็นการเริ่มต้นที่ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของตลาดได้เร็วขึ้น

ศึกษาความสัมพันธ์ของคู่เงิน

  • ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างคู่เงินก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับ เพราะคู่เงินบางคู่เคลื่อนไหวคล้ายกันหรือสวนทางกันก็มี เช่น EUR/USD เคลื่อนไหวตรงข้ามกับ USD/CHF (ตำแหน่งสกุลหลักสลับกัน) หรือแม้แต่ทองคำกับ USD ที่เคลื่อนไหวสวนทางกัน
  • นอกจากนี้ก็ควรเช็คด้วยว่า Trading Session ของแต่ละสกุลเงินมันใกล้กันหรือห่างกัน เพื่อจะได้รู้ว่าเวลาไหนที่ตลาดผันผวนแรง เวลาไหนที่ตลาดเงียบ จะได้จัดสรรเวลาเข้าเทรดได้

เข้าใจปัจจัยขับเคลื่อนคู่เงินนั้น

  • สุดท้ายก่อนจะเลือกสกุลเงินเทรดต้องเข้าใจปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนสกุลเงินนั้นเป็นพิเศษ เช่น USD ขึ้นลงตามดอกเบี้ยของ FED, AUD ขึ้นลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
how-beginners-choose-forex-pairs
เมื่อเรารู้ปัจจัยที่ขับเคลื่อนสกุลเงินแต่ละสกุลแล้วมันก็จะง่ายต่อการเลือกสกุลเงินเพื่อเอาไว้เทรด และอย่างลืมที่จะศึกษาความสัมพันธ์ของคู่สกุลเงินรวมถึงเลือกเทรดคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงก่อนเพื่อเลี่ยง Slippage

วิดีโอเกี่ยวกับปัจจัยค่าเงิน

 

ทีมงาน Thai Forex Broker ขอแนะนำวิดีโอนี้ครับ ในคลิปจะอธิบายว่า ทำไมสกุลเงินถึงมีมูลค่าต่างกัน และทำไมอัตราแลกเปลี่ยนถึงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในคลิปพรีเซนต์ออกมาโดยใช้การ์ตูนเข้าใจง่ายๆ โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

  • Focus นาทีที่ 02:12 มูลค่าของเงินเฟียตขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน
  • Focus นาทีที่ 02:37 ปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าสกุลเงิน ทั้งเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย
  • Focus นาทีที่ 06:56 สถานการณ์ของประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศ (ต่อ)
  • Focus นาทีที่ 09:54 การตรึงค่าเงิน (Fixed Value)
  • Focus นาทีที่ 11:08 คำถามน่าสนใจที่ว่าทำไมไม่ใช้สกุลเงินเดียวกันทั่วโลก?
  • Focus นาทีที่ 12:17 สกุลเงินแข็งค่าดีจริงหรอ?

สรุป

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่การเข้าใจภาพรวมว่า เรากำลังถือสกุลเงินไหน? ซื้อ/ขายสกุลเงินไหน? ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในระดับหนึ่งแล้ว แต่ถ้าสาม ารถเข้าใจภาพรวมได้ ว่า “อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินขึ้นหรือลง?” จะทำให้ก้าวเหนือคำว่ามือใหม่ไปได้อย่างมากเลยครับ แนะนำว่า ควรเริ่มต้นศึกษาจากคู่เงินที่มีข้อมูลเยอะ สภาพคล่องสูง อย่าง Major Pairs – สกุลเงินหลักก่อนจะดีกว่า

เมื่อเริ่มจับจังหวะและเข้าใจพื้นฐานของตลาดได้ดีขึ้น ค่อย ๆ ขยับไปยังคู่เงินรองหรือคู่ที่ผันผวนมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรแต่ต้องไม่ลืมว่าหัวใจของการเทรดคือ “เข้าใจว่าตลาดขับเคลื่อนด้วยความคาดหวังของผู้คน” ซึ่งสะท้อนออกมาในกราฟราคานั่นเอง

ทีมงานthaiforexbroker.com

 

สารบัญ