เลิกกลัวตกรถ! เทคนิคเอาชนะ FOMO เทรดอย่างมีสติ ไม่ใช้อารมณ์

หลายครั้งเวลาเราเทรดแม้ในใจของเราอยากจะเป็นคนคุมเกม แต่ดันโดน “เกมคุม” ซะงั้นอาการเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับทักษะการเทรดของเราหรอกครับมันเกี่ยวกับอาการทางจิตใจและอาการที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น “FOMO” เชื่อว่าเทรดเดอร์ทุกคนต้องเคยผ่านมันมาก่อน ในบทความนี้มีเทคนิคในการเอาชนะมันครับ!


Highlight บทคัดย่อ

  • FOMO คือความกลัวที่จะพลาดโอกาสในการเทรดและคิดว่าต้องเข้าเทรดทันที ซึ่งต่างจากการเข้าเทรดตามการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน เพราะเกิดจากอารมณ์นำไป
  • มีเทคนิคในการเอาชนะ FOMO แบบเป็นรูปธรรมได้แก่
    1. สร้างระบบเทรดของตัวเองแบบละเอียด/ชัดเจนมากเท่าไหร่ยิ่งดี ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มเทรดจนจบ
    2. บันทึกอารมณ์ใน Trading Journal ช่วยให้เข้าใจต้นตอของ FOMO และแก้ไขได้ตรงจุด
    3. การใช้การแจ้งเตือนจากเครื่องมือเทรดช่วยให้เราไม่ต้องเฝ้าจอหรือดูกราฟวิ่งแรงๆ จนเกิดอาการ FOMO
    4. แทนที่จะไล่ราคาหรือเข้าเทรดตามอารมณ์ การใช้ Pending Order ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ล่วงหน้า
  • แต่ถ้าเราพลาดเข้าเทรดด้วยอาการ FOMO มันมีวิธีรับมือคือ ต้องประเมินสถานการณ์ด้วยสติ, หาจุด Cut Loss อย่างมีเหตุผลและอย่าเทรดไล่ราคาเพื่อเอาคืนเด็ดขาด!

FOMO คืออะไร? รู้ให้ทันก่อนจะพังแบบไม่รู้ตัว

  • FOMO ย่อมาจาก Fear of Missing Out แปลว่าความกลัวที่จะพลาดโอกาส ในบริบทของการเทรด Forex ก็คือเทรดเดอร์กลัวจะพลาดโอกาสในการเข้าเทรด ณ จุดนี้ไปและคิดไปเองว่า “จำเป็นต้องเข้าเทรดทันที”
  • คำว่า “จำเป็นต้องเข้าเทรดทันที” มันแบ่งเป็น 2 กรณีนะครับ คือ
    1. จำเป็นต้องเข้าเทรดทันที เพราะตอนนี้เรามองเห็นโอกาสจากการวิเคราะห์ที่ถี่ถ้วนแล้ว
    2. จำเป็นต้องเข้าเทรดทันที เพราะคิดว่าจุดนี้น่าจะขึ้น/ลง+ไม่อยากเป็นคนเดียวที่ไม่ได้กำไร+ทำตามคนอื่น
  • จะบอกว่า 2 ข้อด้านบน มีการกระทำเหมือนกันคือ เข้าเทรดทันที แต่ผลลัพธ์มันต่างกันมากนะครับ เพราะข้อ 1 เข้าด้วยเหตุผลรองรับ ข้อ2 เข้าเพราะอารมณ์และคาดหวังไปเอง ตรงนี้แหละที่เราต้องแยกแยะให้ได้!
 เช็กลิสต์ตรวจสอบอาการ FOMO ในการเทรด
ลองทำ Checklist นี้เพื่อทดสอบว่าเรามีอาการ FOMO มากแค่ไหน ถ้าเช็คแล้วมีคำตอบว่า “ใช่” เกิน 2 ข้อ แสดงว่าเราเริ่ม FOMO ขั้นหนัก เป็นข้อเตือนใจว่าการเทรดของเราเริ่มอันตรายแล้ว

เทคนิคการเอาชนะ FOMO

เทรดเดอร์ทุกคนไม่ต้องกลัวไป…อาการ FOMO แบบนี้มันมีทางแก้อยู่ครับ ถ้าจะพูดตรงๆ มันต้องเริ่มแก้ที่ทัศนคติและวินัยการเทรดของเราตั้งแต่ต้นเลย

1. สร้างระบบเทรดของตัวเอง

หัวใจสำคัญของการเอาชนะ FOMO คือการมี Trading Plan หรือแผนการเทรดที่ละเอียด/ชัดเจน ถ้าครอบคลุมได้ตั้งแต่เริ่มเทรดจนจบเทรดจะดีมากๆ เช่น

  1. เลือกสินทรัพย์ที่จะเทรดและ Timeframe: เลือกว่าเราจะเทรดอะไร? เข้าใจกลไกตลาดของมันมากแค่ไหน? จะเทรดสั้น-ยาว?
  2. การวิเคราะห์: เลือกเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่เราชำนาญและเข้าใจถ่องแท้ รวมถึงหาแหล่งข้อมูลข่าวพื้นฐานที่น่าเชื่อถือ
  3. เงื่อนไขการเข้าเทรด: ทำลิสต์ Confluence ออกมาให้ครบ ภายใน Confluence ต้องประกอบด้วยเครื่องมือหรือปัจจัยที่เราเข้าใจอย่างดี เพื่อเช็คสัญญาณได้ถูกต้องและต้องมีสัญญาณยืนยันอย่างน้อย 2-3 อย่างก่อนเข้าเทรด
  4. การตั้ง SL/TP: กำหนดจุด SL/TP ที่ชัดเจนและเป็นไปตามหลักการบริหารความเสี่ยงเช่น ใต้แนวรับ, เหนือแนวต้าน หรือใช้ Trailing Stop ก็ได้
  5. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management): กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในการเทรดแต่ละครั้ง เช่น การใช้ RR
การสร้าง Trading Plan เพื่อเอาชนะ FOMO
ตัวอย่าง Trading Plan จากเว็บไซต์ tradersunion สำหรับใช้จดบันทึกแผนการเทรดอย่างละเอียดตั้งแต่เป้าหมายการเทรดไปจนถึงผลลัพธ์สุดท้าย ซึ่งภายในแผนจะมีให้จดบันทึกอารมณ์ระหว่างเทรดด้วย อีกทั้ง Plan มีสำหรับเทรดเดอร์หลายสไตล์การเทรด

2. เขียน Trading Journal

  • Trading Journal ก็คือการบันทึกรายละเอียดการเทรดให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่เราเทรดอะไร? กำไร/ขาดทุนเท่าไหร่? แต่บันทึกอารมณ์ความรู้สึกของคุณในขณะที่เทรดด้วย
  • เพราะการบันทึกอารมณ์จะช่วยให้คุณย้อนกลับไปวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณเกิดอาการ FOMO เช่น มักจะเกิด FOMO เมื่อเห็นราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงแม้จะยังไม่มีสัญญาณให้เข้าเทรดก็ตาม = เรารู้ตัวแล้วว่าทนมองกราฟวิ่งแรงไม่ได้ ก็หาตัวช่วยในการแจ้งเตือนแทนการจ้องกราฟอย่าง Autochartist

3. ตั้ง Alert แทนการนั่งเฝ้า

  • ส่วนใหญ่อาการ FOMO มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราเห็นกราฟวิ่งแรง อยากจะเข้าเทรดหวังว่ากราฟจะวิ่งไปต่อและส่วนมากก็พังเพราะสาเหตุนี้เลยครับ
  • ดังนั้นการแก้ไขที่ต้นเหตุของมันคือไม่ต้องนั่งเฝ้าจอครับ เน้นการแจ้งเตือนจากเครื่องมือต่างๆ แทน เช่น MT4/MT5 จะมีฟังก์ชันการตั้งค่า Alert ที่สามารถกำหนดให้แจ้งเตือนได้เมื่อราคาถึงระดับที่เราต้องการ
  • และนี่ก็คือเครื่องมือยอดนิยมที่มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนสำหรับการเข้าเทรด/หรือเทรดแทนเราไปเลย จะได้ไม่ต้องจ้องกราฟให้ FOMO บ่อยๆ
  1. MT4/MT5: แพลตฟอร์มหลักของเทรดเดอร์ มีระบบแจ้งเตือน Price Alert (แนวรับ/แนวต้าน), Indicator Alert (สัญญาณจากอินดิเคเตอร์)
  2. Expert Advisors (EA): ตัวนี้นอกจากจะสามารถเทรดได้โดยอัตโนมัติแล้ว EA หลายตัวยังถูกตั้งโปรแกรมให้ส่งสัญญาณหรือแจ้งเตือนเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้ด้วย
  3. Autochartist: โปรแกรมสำหรับตรวจจับและสแกนหาโอกาสเข้าเทรดแบบอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อเจอสัญญาณเข้าเทรดที่ตรงเงื่อนไข
  4. TradingView: แพลตฟอร์มเทรดที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง สามารถตั้งค่า Alert ได้จากอินดิเคเตอร์เกือบทุกชนิด, รูปแบบกราฟที่วาดเอง, หรือเมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ
การใช้ TradingView Alert เพื่อลดอาการ FOMO
TradingView หนึ่งแพลตฟอร์มเทรดที่มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนสามารถปรับรูปแบบการแจ้งเตือนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตัดกันของอินดิเคเตอร์, การเคลื่อนที่ขึ้น-ลงของราคา หรือจะจำกัดในกรอบราคาก็ได้ โดยเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเฝ้าดูตลอดเวลา

4. ใช้ Pending Order ตามกลยุทธ์

  • หรือถ้าใครเทรดมือไม่ค่อยชอบตั้งการแจ้งเตือน ก็มีวิธีเอาชนะ FOMO ได้ก็คือการใช้ Pending Order แทนที่จะรอให้ราคาเคลื่อนไหวแล้วค่อยเข้าเทรด
  • โดยเรากำหนดจุดเข้า/ออก ตามกลยุทธ์เทรดของเรา เช่น แนวรับ/แนวต้าน, ระดับ Fibonacci, จุด Breakout ที่ยืนยันแล้ว ระดับเหล่านี้ถือว่ามีความน่าเชื่อถือ+เป็นโอกาสเข้าเทรดที่ดีกว่า
  • เมื่อเราตั้ง Pending Order พร้อมกับกำหนด Stop Loss และ Take Profit ตามการวิเคราะห์และแผนของเรา จากนั้นก็ปล่อยให้ราคาเป็นตัวเฉลยผลลัพธ์เอง ไม่ต้องจ้องกราฟ นั่งลุ้นให้ตัวเอง FOMO ครับ
การใช้ Pending Order เพื่อหลีกเลี่ยงการเทรดด้วยอารมณ์
พื้นฐานการใช้ Pending Order เริ่มจากฝั่ง Sell Limit ใช้เมื่อราคาขึ้นไปสูงกว่าปัจจุบันแล้วค่อยเข้าเทรด ส่วน Sell Stop ใช้เมื่อราคาทะลุลงไปเลย ส่วน Buy Limit ใช้เมื่อราคาย่อตัวลงมาก่อนค่อยเข้าเทรด Buy Stop ใช้เมื่อราคาพุ่งขึ้นไปเลย

ถ้า Fomo ไปแล้ว ทำยังไงดี?

  • อันดับแรกประเมินสถานการณ์ด้วยสติ ว่าออเดอร์ของเราอยู่ในจุดที่สามารถทำกำไรได้หรือไม่? ถ้าไม่…เราต้องกำหนดจุด Cut Loss ที่สมเหตุสมผล เช่น ถ้าหลุดจากแนวรับ/ต้านนี้ไป ต้อง Cut เพราะราคามีโอกาสไปต่อแน่นอน
  • การเทรดเพื่อ “เอาคืน” มักลงเอยด้วยการเสียมากกว่าเดิม อย่าเปิดไม้ใหม่ทันทีหลังขาดทุนเพราะอารมณ์ยังไม่นิ่งและเรายังไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ที่ถี่ถ้วนพอ
  • รีเซ็ตอารมณ์ตัวเองด่วนๆ หากพลาด FOMO เข้าเทรดไปแล้วหาวิธีขจัดอารมณ์ออกไปให้มากที่สุด + ปรับแผนการเทรดเพื่อไม่ให้ซ้ำรอย
วิธีแก้ไขเมื่อเข้าเทรดด้วยอาการ FOMO ไปแล้ว
หากเราเข้าเทรดด้วยอาการ FOMO ไปแล้ว…สิ่งที่ควรทำคือต้องประเมินสถานการณ์โดยตัดอารมณ์ออกไปให้มากที่สุด หากประเมินแล้วว่าไม่สามารถทำกำไรได้ให้หาจุด Cut Loss ที่คุ้มและเหมาะสมที่สุด

วิดีโอเกี่ยวกับ FOMO

 

วิดีโอนี้จะอธิบายเจาะลึกถึง FOMO ในการเทรดและนำเสนอแนวทางในการสร้างแผนการเทรดเพื่อป้องกันความรู้สึกนี้ โดยเปรียบเทียบพฤติกรรมระหว่างเทรดเดอร์ที่มี FOMO กับเทรดเดอร์ที่มีแผนอย่างชัดเจน

  • Focus นาทีที่ 00:20 FOMO ในการเทรดคืออะไร?
  • Focus นาทีที่ 01:19 ลักษณะของเทรดเดอร์ที่มี FOMO
  • Focus นาทีที่ 01:44 ความแตกต่างระหว่างเทรดเดอร์ที่มีแผน vs. เทรดเดอร์ที่มี FOMO
  • Focus นาทีที่ 02:29 ตัวอย่างการเทรดจริงของเทรดเดอร์ทั้ง 2 ประเภท

สรุป

เทรดเดอร์ทุกคนควรจะต้องสำรวจตัวเองว่าเรามีอาการ FOMO ระหว่างเทรดมากน้อยแค่ไหน จะได้เตรียมตัวหาทางแก้ไขไม่ให้กระทบกับการเทรดของเรา แต่อย่าไปกลัวการ FOMO จนไม่กล้าทำอะไรเลยเพราะนั่นก็คือความเสี่ยงอย่างหนึ่งเช่นกัน เราควรจะเรียนรู้และหาทางป้องกันอย่างถูกวิธีจะดีกว่า

สุดท้ายนี้อย่าไปกลัวเมื่อต้องเจอกับอาการ FOMO จำไว้เสมอว่าปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยแก้ปัญหาในการเทรดที่หลากหลายและ FOMO ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เราสามารถแก้ไขมันได้

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

สารบัญ