เทรดเดอร์ Forex มีหลายสไตล์การเทรด เช่น Scalper, Swing Trade เป็นต้น แต่มีเทรดเดอร์อยู่แบบหนึ่ง เชื่อว่าหลายคนไม่อยากเป็นแน่นอน นั่นคือ “Trapped Traders” สงสัยใช่ไหมล่ะครับว่าทำไมไม่มีใครอยากเป็น บทความนี้มีคำตอบ
Highlight บทคัดย่อ
- Trapped Traders เป็นกลุ่มเทรดเดอร์รายย่อยที่เข้าซื้อขายผิดจังหวะ โดยตกเป็นเหยื่อของกับดักที่รายใหญ่สร้างขึ้น
- รายใหญ่ต้องการคำสั่งเทรดของ Trapped Traders ก็เพราะ…
-
- สร้างสภาพคล่อง (Liquidity) ให้กับออเดอร์ของตัวเอง
- ทำกำไรเมื่อรายย่อย Cut Loss ดันราคาไปในทิศทางที่รายใหญ่ต้องการ
- วิธีการสร้างกับดักของรายใหญ่ยอดนิยมได้แก่ False Breakout (การทะลุหลอก), Stop Hunting (การล่า Stop Loss) และ News Manipulation (การใช้ข่าวเป็นกับดัก)
- วิธีรับมือเมื่อเรากลายเป็น Trapped Traders อันดับแรก ควรยอมรับความผิดพลาดและใช้ Stop Loss ตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่แรกและควรเรียนรู้ที่จะเทรดตามรายใหญ่โดยการรอสัญญาณยืนยัน+มองโซนราคา
Trapped Traders คือใคร?
- Trapped Traders ไม่ใช่สไตล์การเทรดแต่คือกลุ่มเทรดเดอร์ที่ออกคำสั่งซื้อขายผิดจังหวะ เช่น เปิด Buy แต่ตลาดกลับดิ่งลงสวนทางออเดอร์อย่างแรง
- สถานการณ์ที่ทำให้เกิด Trapped Traders มักจะเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์รายย่อยหลายๆ คน ตัดสินใจเข้าเทรดตามสัญญาณที่ดูเหมือนชัดเจน แต่กลับกลายเป็นกับดักที่ตั้งขึ้นโดย “รายใหญ่”
- สาเหตุที่คนกลายเป็น Trapped Traders ก็มาจาก…
- กลัวพลาดโอกาส (FOMO) รีบเข้าตลาดโดยไม่รอคอนเฟิร์ม
- วิเคราะห์ไม่รอบคอบ แถมเชื่อสัญญาณหรือปัจจัยเพียงเล็กน้อย
- ไม่รู้จัก “รายใหญ่” มากพอ ว่าพวกเขาสามารถดันให้ราคาดูเหมือนจะไปต่อได้

ทำไมรายใหญ่ถึงต้องการ Trapped Traders
รายใหญ่หรือที่หลายคนเรียกว่า Market Maker, Smart Money ต้องการให้เกิด Trapped Traders เพราะมันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำกำไรของพวกเขา ยังไงน่ะหรอ?
1. สร้างสภาพคล่อง (Liquidity)
- พวกรายใหญ่ต้องการออเดอร์ “ฝั่งตรงข้าม” จำนวนมากเพื่อจับคู่คำสั่งซื้อขายปริมาณเยอะโคตรๆ ของพวกเขา ตรงนี้แหละคือกับดัก(Trap) เราเลยเรียกเทรดเดอร์ที่ติดกับดักว่า Trapped Trader
- ตัวอย่าง: ดันราคาทะลุแนวต้านเพื่อให้รายย่อยแห่ Buy → รายใหญ่ค่อยเทขาย
- รายใหญ่สามารถรู้ได้ว่า ปริมาณออเดอร์และเงินทุนของพวกเขามากพอที่จะชนะรายย่อยในการดันราคาสวนกลับ แต่รายย่อยก็เคยชนะได้เหมือนกันแต่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
2. ทำกำไรจาก Trapped Trader
- เมื่อรายย่อยติดกับดักพวกเขามักจะ Cut Loss หรือโดน Stop Loss จุดนี้จะเป็นเหมือนแรงที่ช่วยดันราคาไปในทิศทางที่รายใหญ่ถืออยู่
- เมื่อแรงฝั่งเดียวกับรายใหญ่มีเยอะขึ้นราคาก็พุ่งไป รายใหญ่ก็รอเก็บกำไรในตอนท้าย พอรายใหญ่ปิดทำกำไรแล้ว ราคาก็วิ่งสวนทางสร้าง Trapped Traders กลุ่มต่อไปที่เข้าออเดอร์ช้า วนเป็นวงจรเกมของรายใหญ่ในตลาด

วิธีการที่รายใหญ่ใช้สร้างกับดัก
วิธีการที่รายใหญ่ใช้สร้างกับดักมีเป้าหมายคือทำให้รายย่อยเข้าเทรดผิดทาง วิธีการส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้
1. False Breakout
- นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่พบบ่อยที่สุด มันคือการ Breakout หลอกโดยรายใหญ่จะดันราคาให้ทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เทรดเดอร์รายย่อยเห็นว่าราคาทะลุไปได้และรีบเข้าตามราคา
- หลังมีคนเข้ามามากพอ ราคากลับตัวสวนทันที ทำให้ Trapped Traders ที่เข้าไปนั้นติดดอยทั้งบนหรือล่าง ตรงนี้ถ้าใครทุนไม่มากพอก็ต้อง Cut Loss ดันราคาตามรายใหญ่ไปอีก วนไปเหมือนที่กล่าวไปตอนต้น
2. Stop Hunting
- รายใหญ่มือเครื่องมือ+ข้อมูลที่รู้ว่ารายย่อยตั้ง Stop Loss ไว้ตรงไหน(อาจเดาจากพฤติกรรมของรายย่อยก็ได้) รายใหญ่จะดันราคาไปในทิศทางนั้น เมื่อราคาไปแตะ Stop Loss ของรายย่อย
- ทีนี้มันก็จะสร้างสภาพคล่องจำนวนมากดันให้รายใหญ่เปิดสถานะในทิศตรงข้ามแบบก้อนใหญ่กว่าตอนดันราคา ราคาจึงวิ่งสวนทางแบบโหดร้ายมาก
3. News Manipulation
- วิธีนี้รายใหญ่จะใช้ข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญมากเป็นเครื่องมือ เช่น สมมติว่ามีการประกาศตัวเลขข่าว Non-Farm ซึ่งตัวเลขออกมาดี รายย่อยที่เทรดชนข่าวก็เชื่อว่า USD จะแข็ง จึงรีบเข้า Sell คู่ EURUSD
- เมื่อราคาถึงระดับที่รายใหญ่มองว่าควรเข้าซื้อ EUR บ้าง เพราะพวกเขารู้ว่าแรงขายที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปฏิกิริยาชั่วคราวที่ไม่มีรากฐานที่แข็งแกร่งพอ
- พอรายใหญ่ซื้อ EURUSD ด้วยปริมาณมหาศาลดันให้ราคากลับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลับไปที่ระดับเดิมหรืออาจจะสูงกว่าด้วย รายย่อยที่รู้ทันก่อนก็ปิดออเดอร์ Sell ทำกำไรกลายเป็น หนุนให้ราคาพุ่งขึ้นไปอีก คนที่ออกไม่ทัน ยังถืออยู่ก็กลายเป็น Trapped Traders เลยจ้า

การเทรดตามรายใหญ่เมื่อเจอ Trapped Traders
ทีนี้รายย่อยอย่างเรา จะเทรดในตลาดสุดโหดแบบนี้ยังไงดี คำแนะนำแบบกว้างๆ ก็คืออย่าไปคิดสู้กับรายใหญ่ดีกว่า เน้นการเกาะกระแสตามรายใหญ่ดีกว่า…
รอคอนเฟิร์มการกลับตัว
- ตระหนักไว้เสมอว่ารายใหญ่สร้างกับดักและดันราคาวิ่งสวนทางกับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ สิ่งสำคัญคือการ ไม่รีบเข้าตาม แต่ให้รอสัญญาณยืนยันการกลับตัวของราคาที่ชัดเจนเสียก่อน
- ที่นิยมกันเลยคือการสังเกต Price Action ให้สังเกตพฤติกรรมราคาเมื่อแท่งเทียนปิด เช่น รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัว เช่น Pin Bar, Engulfing, หรือ แท่ง Breakout ที่ Fail ไปแล้ว
- ต่อมาพิจารณาปริมาณการซื้อขายควบคู่ไปด้วย หากการกลับตัวเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง นั่นหมายถึงมีแรงซื้อหรือแรงขายที่แท้จริงเข้ามาสนับสนุน
มองแบบรายใหญ่
- เทรดเดอร์รายย่อยมักจะมองแนวรับและแนวต้านเป็นเพียงเส้นที่ราคาเด้งกลับ แต่รายใหญ่จะมองเป็น “โซนหรือพื้นที่” ที่มีความสำคัญทางจิตวิทยา
- และจำไว้ว่ารายใหญ่ไม่ใช่มีแค่เจ้าเดียว บางครั้ง “รายใหญ่ก็สู้กันเอง” เราแค่ต้องตามฝ่ายที่กำลังชนะ เช่น…
- ถ้าเห็นว่าฝั่ง Buy เริ่มเอาชนะได้ เช่น ราคาดันขึ้นแล้ว Break แนวต้าน พร้อม Volume สูง = เทรดตามฝั่ง Buy
- ใช้หลักการ “อย่าสู้กับคนที่มีเงินมากกว่า” เพราะพวกเขามีทั้งทุนและเวลาที่จะบีบให้ฝั่งตรงข้ามแพ้ได้เสมอ รายย่อยต้องเน้นเอาตัวรอดไปกับฝั่งที่มีแนวโน้มชนะก็พอ

ถ้าเรากลายเป็น Trapped Traders ซะเองต้องทำยังไง?
- ยอมรับ+ตั้งสติให้เร็ว: เมื่อเราดูออกแล้ววาเราคือ Trapped Traders เราต้องไม่พยายามหลอกตัวเอง ให้ประเมินสถานการณ์อย่างมีสติ
- ใช้ Stop Loss ตามแผน: หากราคาถึงจุด SL ที่คาดไว้หรือตั้งล่วงหน้าไว้ก็ต้องยอมรับ ซึ่งเราต้องคำนวณความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตั้งแต่ก่อนเปิดออเดอร์แล้ว
- อย่า! เอาคืนตลาด: การเทรดไม่ใช่สนามอารมณ์ อย่าคิดว่าจะเทรดแก้แค้นเพื่อเอาทุนคืน นั่นคือการพนัน การเทรดต้องมองเหตุผลเป็นหลักในการเทรด
- แก้เกมเชิงเทคนิค: อันนี้สำหรับใครที่มีฝีมือจัดจ้านแล้ว สามารถแก้เกมได้ก็พิจารณา Hedging ออเดอร์ตรงข้ามเพื่อล็อกการขาดทุน เอาไว้ ถ้าคิดว่าราคาจะกลับมา (ข้อนี้สำหรับคนที่มีฝีมือและประสบการณ์จริงเพราะ Hedging ต้องใช้หลักการเข้าเทรดพอสมควร)

วิดีโอเกี่ยวกับ Trapped Trader
วิดีโอนี้จะอธิบายแนวคิดเรื่อง “เทรดเดอร์ที่ติดกับ” (Trapped Traders) และความสำคัญของ “ราคาปิดรายวัน” (Daily Close) ในการเทรด โดยเน้นว่าราคาปิดเป็นระดับสำคัญที่ช่วยให้ระบุได้ว่าเทรดเดอร์คนอื่นอาจติดกับดักและกลายเป็น Trapped Traders ได้อย่างไร
- Focus นาทีที่ 00:41 Trap Traders คืออะไร
- Focus นาทีที่ 02:29 ความสำคัญของราคาปิดรายวัน
- Focus นาทีที่ 03:11 แนวคิดหลักในการวิเคราะห์ว่าทำไมเทรดเดอร์ถึงติดกับดัก
- Focus นาทีที่ 03:35 ตัวอย่างการนำไปใช้ในการเทรด
- Focus นาทีที่ 05:00 แนะนำเครื่องมืออื่นๆ เช่น แนวรับ-แนวต้าน, โซน Imbalance และรูปแบบแท่งเทียน
- Focus นาทีที่ 15:27 ยกตัวอย่างวิธีการวางแผนการเทรดโดยใช้ “First Green Day”
สรุป
คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมไม่มีใครอยากกลายเป็น Trapped Traders ซึ่งในบทความนี้ทีมงาน Thai Forexbroker ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อขู่ให้ทุกคนกลัวแต่ต้องการให้เทรดเดอร์ทุกคนตระหนักไว้ว่าในตลาด Forex แห่งนี้มีวงจรของ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” ยังไง ถ้าเรามองเห็นกลไกของตลาดและใช้ประโยชน์จากมันอย่างชาญฉลาดเราก็จะอยู่รอด
สิ่งสำคัญคือการฝึกมองตลาดจากมุมมองของรายใหญ่และเข้าใจจิตวิทยาของรายย่อย แม้ว่าบางวันเราอาจจะตกเป็น Trapped Traders แต่เราจะไม่ตื่นตระหนกและหาทางออกได้เสมอครับ
ทีมงาน: thaiforexbroker.com

