และในวันนี้ก็มาถึงกับอินดิเคเตอร์ยอดนิยมอย่าง MACD จากครั้งที่แล้วเราก็ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน MACD แบบปกติมาบ้างแล้ว ดังนั้นในวันนี้เราจะไม่ขอพูดถึงเรื่องการใช้งาน MACD แบบเดิมๆ แต่เราจะมาพูดถึงอินดิเคเตอร์อีกหนึ่งตัวที่ได้รับการพัฒนามาจาก MACD นั้นก็คือ MACD 4C INDICATOR กับการใช้งานที่ง่ายกว่าและมีสีสันสวยงามพร้อมกับเทคนิคที่ MACD ธรรมดาไม่สามารถทำได้รวมไปถึงจะบอกถึงเคล็ดลับและตัวอย่างวิธีการนำไปใช้งานควบคู่กับอินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆซึ่งจะเป็นตัวไหนและมีเนื้อหาเข้มข้นเผ็ดมันเพียงใด…เราไปรับชมกันครับ
ความหมายของ MACD 4C คือ

ดังตัวอย่างรูปภาพด้านบนนี้จะเป็นภาพการแสดงถึงตัวอย่างการแสดงผลของ MACD-4C ที่ถูกพัฒนามาจาก MACD ครับโดยการต่อยอดจากอินดิเคเตอร์ชื่อดังอย่าง Moving Average มาใช้เพื่อพลอตออกมาเป็นการแสดงผลในรูปแบบของแท่ง Histogram และเนื่องจากค่าพารมิเตอร์ของ MACD กับ MACD-4C นั้นมีการตั้งค่าที่เหมือนกันทางเราจึงสามารถอนุมานได้ว่าสูตรและสมการของอินดิเคเตอร์ชนิดนี้มีรากฐานมาในแบบเดียวกัน ถึงแบบนั้นก็มีข้อแตกต่างกันพอสมควรครับและผมจะขอกล่าวอย่างละเอียดในหัวข้อถัดไป
และเนื่องจากทางเราได้ทำการอธิบายถึงหลักการของ MACD ในบทความครั้งก่อนอย่างละเอียดไปแล้ว ดังนั้นแล้วผมจึงขอสรุปถึงความเป็นมาแบบคร่าวๆให้ฟังได้แบบนี้ครับว่า Histogram ที่ปราฎขึ้นมายังหน้าต่างของอินดิเคเตอร์นั้นเกิดจากการที่เราใช้การคำนวนของเส้น EMA จำนวน 2 เส้นที่มีค่าความเร็วที่ต่างกันนำมาเปรียบเทียบหาความต่างกัน จึงกำเนิดเส้นใหม่ขึ้นมาเป็นเส้น MACD จากนั้นก็นำเส้น MACD ที่ได้ไปหาระยะห่างระหว่างเส้น Signal Line จึงได้ค่าใหม่ออกมาและแสดงผลออกมาเป็น MACD HISTOGRAM นั่นเองครับ
การเรียกใช้งานพร้อมวิธีตั้งค่า
อันดับแรกให้เข้าสู่โปรแกรม Metatrader4 จากนั้นก็ให้ทำการดาวน์โหลดอินดิเคเตอร์จากโดยความการคลิก >>>Download <<< จากข้อความตรงนี้ได้เลยครับ หลังจากนั้นก็ให้เราทำการแตกไฟล์ Zip ออกมาครับและทำการ Copy indicator file ในโฟลเดอร์นั้น จากนั้นเปิดหน้าต่างของ Metatrader4 ขึ้นมาแล้วคลิ๊กไปที่ File -> Open Folder Data -> จะปรากฎโฟลเดอร์ขึ้นมาให้เราไปที่โฟล์เดอร์ที่ชื่อ MQL4 -> Indicator -> แล้วทำการวาง indicator file เท่านี้ก็เป็นการลงอินดิเคเตอร์เป็นอันเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาก็ให้กลับมาเปิดหน้าต่างของ Metatrader4 อีกครั้งจากนั้นให้ทำการลากเมาส์ไปที่ Navigator window -> คลิ๊กขวาเพื่อกด Reflash -> ทำการดับเบิ้ลคลิกที่ MACD-4C เพื่อเปิดการใช้งานอินดิเตอร์ หลังจากนั้นเราก็จะสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ต่างๆได้ดังนี้

- InpFastEMA: ค่าของ EMA ประเภท Fast EMA
- InpSlowEMA: ค่าของ EMA ประเภท Slow EMA
- InpSignalEMA: ค่าของ EMA ประเภท Signal EMA
- InpWidth: ค่าความหนาของ histogram
- Colors : สีของ histogram
พื้นฐานการใช้งาน MACD-4C Indicator

จากรูปภาพด้านบนก็จะเป็นตัวอย่างข้อแตกต่างระหว่าง MACDกับ แมคดี MACD-4C โดยผมจะทำการเปิดอินดิเคเตอร์ทั้งสองเปรียบเทียบกันให้เห็นภาพแบบตรงไปตรงมาว่าการแสดงผลของ Histogram นั้นมีความใกล้เคียงกันแทบจะร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งจะสามารถสังเกตได้ว่าค่าพารามิเตอร์นั้นเหมือนกันทุกประการครับ แตกต่างเพียงการแสดงผลของ MACD-4C จะถูกแสดงผลในรูปแบบสีสันที่สวยงาม เพียงแต่ว่า MACD-4C จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ของประเภทของราคาได้อีกทั้งยังไม่มีการแสดงผลของ Signal line ให้ได้เห็น ดังนั้นสิ่งนี้ถือเป็นข้อจำกัดของมันนั่นเองครับ

ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมอยากให้โฟกัสก็คือสีของมันครับซึ่งเป็นข้อดีที่ผมอยากจะมานำเสนอในวันนี้โดยผมอย่างให้ดูถึงหลักการใช้งานนั้นใช้งานง่ายกว่า Macd ธรรมดาสำหรับคนที่ใช้ Histogram ในการวิเคราะห์เท่านั้นครับ จะเห็นได้ว่าหาก Histogram มีลักษณะเป็นสีที่สว่างไม่ว่าจะอยู่เหนือหรือใต้ระดับ 0 จะเป็นการบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้ ครับ ในขณะเดียวกันหาก Histogram มีลักษณะเป็นสีในโทนที่เข้มจะเป็นการบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงนั่นเองครับ
ซึ่งแตกต่างจาก MACD ธรรมดาที่แสดงออกเป็น Histogram สีเดียวกันทั้งหมดจึงทำให้ยากต่อการพิจารณาโดยระยะยาวดังนั้น MACD-4C สามารถใช้งานได้ดีว่าในเรื่องของการมองแนวโน้มและยังส่งผลต่ออารมณ์ของนักเทรดได้เป็นอย่างดีครับ ทั้งนี้ยังสามารถใช้สีของ Histogram ในการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเทรนด์ได้อีกด้วยยกตัวอย่างเช่น หากมีการเปลี่ยนจากสีโทนสว่างเป็นสีโทนเข้มนั้นอาจจะหมายถึงเทรนด์ในขาขึ้นกำลังอ่อนตัวลงหรือมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเทรนด์ได้ด้วยนั่นเองครับ
ตัวอย่างการใช้งาน MACD-4C ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ
ตัวอย่างการใช้งานนี้จะเป็นการใช้งานอินดิเคเตอร์ MACD-4C ร่วมกับการใช้อินดิเตอร์ BB หรือ Bollinger Bands บนคู่เงิน XAUUSD H1
เงื่อนไขการออกออเดอร์ Buy

- รอกราฟทำ Breakout หรือมีการชนกับ Lower Band
- พิจารณา Histogram MACD-4C ต้องอยู่ใต้ระดับ 0 และ ณ ขณะนั้นต้องมีการเปลี่ยนจากสีแดงเข้มเป็นสีแดงสว่าง เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเทรนด์เป็นเทรนด์ขาขึ้น จึงทำการ เปิดออเดอร์ Buy
- ทำการตั้ง SL และ TP ไว้ที่ตำแหน่งของ Middle Band
เงื่อนไขการออกออเดอร์ Sell

- รอกราฟทำ Breakout หรือมีการชนกับ Upper Band
- พิจารณา Histogram MACD-4C ต้องอยู่เหนือระดับ 0 และ ณ ขณะนั้นต้องมีการเปลี่ยนจากสีเขียวสว่างเป็นสีเขียวเข้ม เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเทรนด์เป็นเทรนด์ขาลง จึงทำการ เปิดออเดอร์ Sell
- ทำการตั้ง SL และ TP ไว้ที่ตำแหน่งของ Middle Band
สรุป
MACD-4C เป็นอินดิเคเตอร์ที่มีความสามารถเหมือน MACD ทุกประการครับเพียงแต่เพิ่มข้อดีมาหนึ่งอย่างคือมีสีสันที่สวยงามเข้ามาช่วยบ่งบอกถึงความแข็งแรงของ Histogram ณ ขณะนั้นจึงทำให้สามารถวิเคราะห์เทรนด์หรือจุดกลับตัวที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า MACD ธรรมดา เพียงแต่ว่าข้อจำกัดการใช้งานคือ จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ของประเภทของราคาได้อีกทั้งยังไม่มีการแสดงผลของ Signal line ให้ได้เห็นนั่นเองครับ