ถ้าพูดถึงอินดิเคเตอร์ยอดฮิตในไทยอันดับต้นๆอันดับแรกที่นึกออกคือ Bollinger Band หรือ ที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า BB บีบี!! นั่นเองครับ นั้นก็เป็นเพราะว่าอินดิเคเตอร์ตัวนี้เป็นอินดิเคเตอร์เพียงไม่กี่ตัวที่ใช้งานได้ค่อนข้างง่ายและยังแม่นยำ
“เป็นธรรมดาที่ช่วงหนึ่งเราจะรู้สึกแย่ แต่ขออย่ายอมแพ้ เพราะวันนึงจะต้องเป็นวันของเรา”
ความเป็นมาของ Bollinger Bands
Bollinger Band (BB) คือ อินดิเคเตอร์ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในการวิเคราห์ตลาดฟอเร็ก (Forex) หรือตลาดทางด้านการเงิน โดยจะจัดอยู่ในอินดิเคเตอร์ประเภท เทรน (TREND) หรือ ใช้สำหรับตลาดที่มีแนวโน้มไปทางใดทางหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันก็มีการพลิกแพลงเทคนิคต่างๆขึ้นมามากมายจนสามาถนำไปใช้ได้กับทุกสภาวะตลาดเลยนั่นเอง

โดยลักษณะของอินดิเคเตอร์ตัวนี้นั้นจะประกอบไปด้วยเส้น 3 เส้นหลักๆซึ่งจะใช้ค่า SD หรือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือจะเรียกอีกอย่างว่าค่าความผันผวนมาเป็นตัวแปรหลักในการเก็บสถิติความน่าจะเป็น แล้วพลอตออกมาเป็นเส้นต่างๆ ซึ่งจะกล่าวถึงสูตรอย่างละเอียดในหัวข้อถัดไปครับ
วิธีคำนวณสูตร Bollinger Bands
สูตรและการคำนวนของ Bollinger Bands หรือ bb นั้นจะมีตัวแปรอยู่ไม่กี่ตัว ก็คือค่า SD (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และ ค่า SMA (ค่าเฉลี่ย) เป็นหัวใจหลักซึ่งตัวแปร 2 ตัวจะมีสูตร ดังนี้
- SD (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน) = SQR ( Sigma (x-xbar)^2 / n-1 )
- SMA (ค่าเฉลี่ยมาตรฐานแบบปกติ) = Sigma x(n) / n
เมื่อทราบสูตรการคำนวนตัวแปรที่จะใช้แล้วก็จะขออธิบายเกี่ยวกับสูตรการคำนวน Bollinger Bands ทั้ง 3 เส้นกันเลยครับมาดูกันว่าแต่ละเส้นนั้นมีสมการคำนวนอย่างไรโดยให้ดูรูปภาพด้านล่างประกอบไปด้วยนะครับ

- เส้นที่ 1 Upper Band = SMA(20) + (SD x 2)
- เส้นที่ 2 Middle Band = SMA(20)
- เส้นที่ 3 Lower Band = SMA(20) – (SD x 2)
โดยที่ค่า SMA(20) หมายถึงการใช้ค่าข้อมูลของค่าเฉลี่ยย้อนหลังไป 20 วันนั่นเองครับทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการใช้ของแต่ละคนครับว่าจะนำอินดิเคเตอร์ไปปรับใช้กับเทคนิคการเทรดหรือปรับใช้กับอินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆอย่างไร ทั้งนี้ก็ต้องดูความเหมาะสมอีกหลายประการเช่น ทามเฟรม(TF) และ คู่เงินนั้นๆด้วยครับ..นั้นหมายความว่าการใช้ SMA(20) ในแต่ละคู่เงินแต่ละทามเฟรม(TF) จะให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เหมือนกันนั่นเองครับ
ระบบเทรด Bollinger Band ที่แนะนำ
ระบบการเทรดของ Bollinger Bands นั้นถือว่าค่อนข้างหลากหลายเลยล่ะครับโดยวันนี้ผมก็จะมาพูดถึงวิธีการเทรด BB ที่ค่อนข้างจะ Easy to Succeed หรือก็คือใช้งานง่ายและแม่นยำนั่นเองครับแต่ก่อนอื่นเรามาพูดคุยถึงการใช้งานเบื้องต้นกันก่อนครับว่า BB นั้นสามารถใช้ได้ในหลายกรณีครับ ไม่ว่าจะเป็นการบอกการกลับตัวหรือว่าจะเป็นการ Breakout ก็จัดว่าสามารถทำได้เช่นกันครับ
แต่ในกรณีที่เห็นมากที่สุดที่เคยเจอมาคือการใช้ BB ในการบอกการกลับตัวและจะเล่นในทรามเฟรม(TF) ที่ค่อนข้างสั้นครับจึงเหมาะสำหรับคนที่ทำการเทรดจบภายใน 1 วันอีกทั้งนิสัยของคนไทยส่วนใหญ่มักจะเป็นคนใจร้อนครับดังนั้นอินดิเคเตอร์ตัวนี้จึงเป็นที่นิยมและแพร่หลายกันมากในประเทศไทย ซึ่งการใช้งานขั้นพื้นฐานในการเล่นจังหวะกลับตัวค่อนข้างง่ายครับโดยให้ดูรูปภาพด้านล่างประกอบการอธิบาย

จะสังเกตรูปด้านบนจะพบว่าเมื่อกราฟวิ่งไปชน Upper Band หรือ Lower Band ก็มักจะมีการกลับตัวโดยเสมอครับ…ถึงแม้นจะมองว่าง่ายต่อการใช้งานแต่บางครั้งมันก็มักจะเกิดสัญญาณหลอกได้บ่อยครั้งครับดังนั้นควรจะใช้ควบคู่ไปกับ indicator ตัวอื่นประกอบด้วยนั่นเอง
โดยทั้งนี้ผู้เขียนก็จะมาขอนำเสนอเทคนิคการใช้งาน Bollinger Bands ที่จะเพิ่มความมั่นใจในการออกออเดอร์และเพิ่มอัตราการชนะให้มากขึ้นคือการนำ อินดิเคเตอร์ RSI หรือ Relative Strength Index มาใช้ประกอบการตัดสินใจเพิ่มครับซึ่งไปดูวิธีการตั้งค่าได้ในหัวข้อถัดไปได้เลยครับ
วิธีตั้งค่า Bollinger Band indicator พื้นฐาน + RSI
วิธีตั้งค่า BB พื้นฐานทั่วไป
อันดับแรกเริ่มจากการเรียกใช้ Indicator ผ่าน MT4 ก่อนครับเริ่มจากให้สังเกตุมุมซ้ายบนเลือก Insert > Trend > Bollinger Bands โดยดูรูปภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างนะครับ

วิธีการตั้งค่านั้นผมจะใช้ค่าตามมาตราฐานของอินดิเคเตอร์นะครับ คือ Period 20 และใช้ข้อมูลแบบราคาปิด (Close )ดังรูปภาพด้านล่าง หลังจากนั้นให้คลิก “OK”

วิธีตั้งค่า การตั้งค่า RSI หรือ Relative Strength Index ใช่ร่วมกับ BB
เมื่อทำการเลือกอินดิเคเตอร์ BB เป็นที่เรียบร้อยแล้วผมจะทำการเลือก RSI ต่อโดย สังเกตุมุมซ้ายบนเลือก Insert > Oscillators > Relative Strength Index ดูตัวอย่างรูปด้านล่างนะครับ

วิธีการตั้งค่าผมก็จะใช้ค่ายอดนิยมครับคือ Period 14 และใช้ข้อมูลแบบราคาปิด (Close)ดังรูปภาพด้านล่าง หลังจากนั้นให้คลิก “OK”

เงื่อนไขการ Buys
ตัวอย่างวิธีการเข้าไม้ขา Buy นั้นผมจะขอสรุปง่ายๆโดยให้ทำการดูรูปภาพด้านล่างประกอบนะครับโดยผมจะเลือกใช้เล่นใน ทามเฟรม(TF) 1H นะครับโดยเริ่มดังนี้
- รอ RSI เกิดการ OVERSOLD หรือ เส้นกราฟมีราคาที่น้อยกว่า 30 แล้วรอจนกว่าราคาจะทำการตัดขึ้นเหนือเส้น 30
- ในจังหวะเดียวกันนั้นจะรอจนกว่ากราฟแท่งเทียนทะลุเส้น Lower Band และทำการตัดกลับมาอีกรอบหนึ่ง จึงจะทำการเปิดไม้ Buy
- เมื่อมีการเปิดไม้ Buy เรียบร้อยแล้วก็จะทำการปิดไม้เมื่อกราฟราคาไปชนกับเส้น Middle Band นั้นเองครับ

เงื่อนไขการ Sells
ตัวอย่างวิธีการเข้าไม้ขา Sell ก็จะตรงข้ามกับขา Buy ครับนั้นคือ
1.รอ RSI เกิดการ OVERBOUGHT หรือ เส้นกราฟมีราคาที่มากกว่า 70 แล้วรอจนกว่าราคาจะทำการตัดลงใต้เส้น 70
2.ในจังหวะเดียวกันนั้นจะรอจนกว่ากราฟแท่งเทียนทะลุเส้น Upper Band และทำการตัดกลับมาอีกรอบหนึ่ง จึงจะทำการเปิดไม้ Sell
3.เมื่อมีการเปิดไม้ Sell เรียบร้อยแล้วก็จะทำการปิดไม้เมื่อกราฟราคาไปชนกับเส้น Middle Band

ข้อควรระวังในการใช้ Bollinger Bands
ถึงแม้ว่า Bollinger Bands จะง่ายต่อการใช้งานก็จริงนะครับแต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในหลายๆครั้งก็มักจะเกิดสัญญาณหลอกเช่นกราฟวิ่งไปชน Upper Band หรือ Lower Band ก็จะไม่เกิดการกลับตัวแต่กลับดันราคาพุ่งไปต่อดังรูปภาพด้านล่าง

จากรูปภาพด้านบนนั้นจะเป็นการอธิบายสัญญาณหลอกของ Bollinger Bands ได้ดีทีเดียวครับดังนั้นแล้วเราจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มเทคนิคในการคอนเฟิร์มสัญญาณให้แม่นยำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำอินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆ หรือ อาจจะนำไปใช้กับเทคนิคชาร์ทแพทเทิลก็สามารถทำได้ครับ
สรุป
วิธีการใช้งาน Bollinger Band เบื้องต้นนั้นก็คือการใช้งาน ในการดูจุดกลับตัวหรือการเบรคเอาท์เป็นส่วนใหญ่ครับแต่ทั้งนี้ BB มักจะเกิดสัญญาณหลอกในหลายๆครั้งเพราะฉะนั้นผู้เทรดควรนำเทคนิคอื่นๆมาเพิ่มเพื่อประกอบการตัดสินใจให้สัญญาณการเทรดของเรานั้นแม่นยำยิ่งขึ้นไปครับซึ่งทางผู้เขียนก็แนะนำให้ใช้ RSI เป็นตัวช่วยในการออกออเดอร์หรือใครจะสามารถทำเทคนิคอื่นๆผสมเข้าไปได้ครับไม่ผิดกติกาอย่างใด
อ้างอิง