การประยุกต์ใช้ระบบที่ไม่มี Stop loss ตอนที่ 1

การประยุกต์ใช้ระบบที่ไม่มี Stop loss ตอนที่ 1

การประยุกต์ใช้ระบบที่ไม่มี Stop loss ตอนที่ 1

แม้ว่าระบบที่ไม่มี Stop loss จะเป็นระบบที่เป็นการพนันเป็นพื้นฐานแต่ว่าเราก็สามารถลดความเสี่ยงของการพนันได้ ด้วยหลาย ๆ วิธี ในวันนี้จะนำเสนอการลดความเสี่ยงของระบบที่ไม่มี Stop loss วิธีหนึ่ง โดยที่เรายังสามารถเทรดได้โดยที่ไม่ต้องใช้ Stop loss อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนท่านผู้อ่านก่อนว่า การลดความเสี่ยงลงก็ทำให้ผลตอบแทนลดลงด้วย และที่สำคัญไม่ได้รับประกันว่ามันจะไม่ล้างพอร์ทเพียงแค่ลดความเสี่ยงที่มีโอกาสสูงที่จะล้างพอร์ทเท่านั้นเอง

ธรรมชาติของการเทรด Forex

จากบทความก่อนหน้าเรื่องของการลดความเสี่ยงของการเทรดเกี่ยวกับระบบที่มี Stop loss เราจะพบว่า เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการ ลด Leverage เพิ่มความน่าจะเป็นจากการอ่านกราฟ เช่นเดียวกันธรรมชาติของการเทรด Forex ความเสี่ยงของมันเพิ่มขึ้นจากการใช้ Leverage การเทรดแบบไม่มี Stop loss ก็ต้องทำเช่นเดียวกัน คือ ลด Leverage และการจัดการความเสี่ยงด้วยการพยากรณ์ราคา และขนาดการเทรด 3 ปัจจัยนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะพูดถึงต่อไป

รูปที่ 1 แสดง leverage หรือคานเพื่อทุ่นแรง

การลดความเสี่ยงโดยการลด Leverage

การลดความเสี่ยงโดยการลด Leverage มีหลัก ๆ 2 วิธี คือ การปรับการตั้งค่า Leverage ของ Broker และ การปรับการคำนวณขนาดการลงทุน

ปรกติแล้วการใช้ Leverage นั้นทำให้เราใช้ Margin น้อยลงในการลงทุน เช่น ถ้าคุณซื้อไข่ ราคาฟองละ 10 บาท และคุณมีเงิน 10 บาท คุณสามารถซื้อได้ 1 ฟองเท่านั้น ด้วย Leverage 1:2 คุณสามารถซื้อไข่ได้ 2 ฟองโดยราคาฟองละ 10 บาทเท่ากัน เพราะ Leverage 1:2 หมายความว่าเพิ่มอำนาจซื้อให้คุณ 2 เท่านั้นคือ คุณมีเงินเท่ากับ 20 บาท ทั้งที่จริง ๆ แล้วมี 10 บาททำให้ซื้อได้ 2 ฟอง เวลาราคาไข่เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อฟอง คุณก็จะได้กำไร 2 บาทเพราะว่าคุณมี 2 ฟอง เช่นเดียวกัน เวลาคุณขาดทุน คุณก็จะขาดทุนทีละ 2 บาทเช่นเดียวกัน เป็นเหตุให้ เมื่อราคาไข่เปลี่ยนแปลงไป 5 บาท ทำให้คุณขาดทุนเท่ากับ 10 บาท ทางโบรคเกอร์จะไม่ยอมให้คุณขาดทุนเกินเงินลงทุนเดิมที่คุณมีคือ 10 บาท เขาก็จะปิด Position ลงทุนของคุณ ทำให้แม้ราคาจะลงไม่ถึง 0 บาทเขาก็เอาเงินของคุณไปแล้ว จะเห็นว่า Leverage มีทั้งข้อดีข้อเสียและเขากำลังเล่นกับความโลภของเรา

เราจึงสามารถปรับลดได้โดยการตั้งค่า Leverage ให้ต่ำเข้าไว้ตอนเปิดบัญชี MT4

นอกจากการปรับลด Leverage ในโปรแกรมแล้วเรายังสามารถใช้การปรับ Leverage โดยใช้ Lot ในการเทรดด้วยได้ โดยการคำนวณหาจุดที่จะล้างพอร์ทดังต่อไปนี้

สมมุติว่า เราเปิดบัญชี Standard ซึ่ง 1 Lot ใน MT4 เท่ากับ 100,000 Lot ราคา EURUSD เท่ากับ 1.14513  เราใช้ Leverage 100 ซึ่งเราจะขออธิบายตัวอย่างปกติก่อน ถ้าเราไม่ใช้ Leverage เลย หรือ Leverage เท่ากับ 1:1 เราจะต้องใช้เงิน USD เท่าไหร่ในการซื้อค่าเงิน 1 EUR นั่นคือ ใช้ 100,000 x 1.14513 หรือก็คือ ใช้เงิน 114,513 USD ในการส่งคำสั่งใน MT4 บัญชี Standard ได้เท่ากับ 1 Lot และ ณ จุดนี้เปิดได้ 1 Lot และไม่มีการล้างพอร์ทเลย เพราะว่าต่อให้ราคาเป็น 0 ก็สามารถือไว้จนกว่าโบรคเกอร์จะเจ๊ง แล้วถ้าเราเปิด 0.10 Lot บัญชี Standard หล่ะใช้เงินเท่าไหร่ ก็เท่ากับ 11,453 USD ต่อ 1 ออเดอร์หน่ะสิ ใครจะไปมีเงินเยอะขนาดนั้น เขาถึงมี Leverage มาล่อเราไง นั่นคือ ถ้าใช้ Leverage 1:10 ก็ใช้เงิน 1,1451.3 USD ต่อ Lot 0.1 Lot โดยที่จุดล้างพอร์ทก็เอา 10 (Leverage) หาร แล้วลบออกจากราคาปัจจุบัน นั่นคือ 1.14513 – (1.14513/10) เท่ากับ 1.030617 คือจุดล้างพอร์ทของเรา เมื่อ Leverage เท่ากับ 1:10 และเทรด Lot รวมเท่ากับ 0.10 Lot ซึ่งถ้าหากเราใช้ Leverage สูงเท่าไหร่ ทำให้จุดล้างพอร์ทของเราก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จุดที่คุณจะล้างพอร์ท

เมื่อเรารู้จุดล้างพอร์ทของเราแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือ การวิเคราะห์จุดเข้าเทรดของเราว่า มีความเป็นไปได้ไหมที่ ราคาจะไปชนจุดล้างพอร์ทของเรา

รูปที่ 2 แสดงการจุดล้างพอร์ทและราคาปัจจุบันคือจุดเข้าเทรด

จากการคำนวณ ถ้าเราใช้ Lot รวม 0.10 Lot ก็จะทำให้ทนการเคลื่อนไหวที่ฝืนทิศทางการเข้าเทรดได้ไปจนถึงเส้นแดง ซึ่งโอกาสในการชนก็เท่ากับ น้อยมาก เพราะในกราฟที่เห็นคือ กราฟรายเดือนนั่นเอง จะเห็นว่าในรอบเกือบ 20 ปี มีเพียง 1 เดือนเท่านั้นที่ชน แต่นั่นหมายความว่า Leverage 1: 10 นะ ถ้า Leverage 1:100 ก็ทำให้โอกาสชนมีสูงขึ้นั่นเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการใช้ Leverage สูงถึงล้างพอร์ทได้เร็ว

เราเราคำนวณราคาล้างพอร์ทได้ เราก็จะได้ Lot รวมที่เสี่ยงต่ำที่จะเกิดราคาชน ในกราฟ Time Frame ใหญ่สุด แต่ก็อย่างที่บอก จะมีใครรับประกันได้หล่ะว่ามันจะไม่ต่ำกว่าเดิมจริงไหม? โลกนี้มีอะไรแน่นอนบ้าง นั่นแหละปัญหา

ซึ่งวิธีการแก้ไขอีกวิธีคือ การเทรดสินทรัพย์ที่ราคาทำราคา Low อยู่ในกราฟ Time Frame ใหญ่ เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงเพิ่มเข้าไปอีกหน่อย อย่างไรก็ตามวิธีการที่กล่าวมา ไม่ได้เป็นการบอกว่าความเสี่ยงที่จะล้างพอร์ทจะหายไปอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังต้องเผชิญกับความโลภของตัวเองที่จะพลาดใช้ Lot เกินจากที่คำนวณ 0.10 Lot นอกจากนี้ และที่สำคัญที่เรากล่าวไว้ตั้งแต่แรก คำถามคือ อัตรากำไรคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ได้รับ ซึ่งอาจจะน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่น ๆ ซึ่งบุคคลที่ใช้แบบจำลอง KZM ชื่อดังในตลาดหุ้นไทย ไม่รู้ข้อนี้แล้วเอามาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า ย่อมสร้างปัญหาให้กับพอร์ทและเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

Keywords: KZM กับ Forex, การกำหนด Leverage, การคำนวณจุดล้างพอร์ท

ทีมงาน : thaiforexbroker.com