อินดิเตอร์ขั้นพื้นฐาน RSI หรือที่มีชื่อเต็มว่า Relative Strength Index เป็นอีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่มีความนิยมมากในประเทศไทยด้วยความสามารถอันเหลือล้ำในการบอกถึงสภาวะการซื้อขายของสินทรัพย์ หุ้น หรือ สกุลเงิน ที่มากเกินไป อันเป็นผลทำให้เกิดความคิดที่ว่า…มันมากเกินไปแล้วนะและจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน…และจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่วันนี้ thaiforexbroker มีคำตอบครับ อีกทั้งยังให้ทริคเล็กๆน้อยจากพื้นฐานง่ายๆสู่ความเป็นมืออาชีพอีกด้วยไปรับชมกันครับ
“การเริ่มจาก 0 มันทำให้รู้ว่า 1 มีค่ามากแค่ไหน”
ความเป็นมาของ RSI
Relative Strength Index หรือ RSI คือ อินดิเคเตอร์ชนิดหนึ่งที่เป็นเหมือนเครื่องมือใช้เทรดสำหรับผู้ที่ทำการซื้อขายในตลาดต่างๆไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น หรือ ตลาดฟอเร็กซ์ ก็นิยมชมชอบกันทั้งสิ้นครับด้วยความสามารถของอินดิเตอร์นี้ นอกจากจะใช้บอกสภาวะการซื้อ/การขายที่มากเกินไปของสินทรัพย์นั้นๆแล้ว ยังมีความสามารถในการบอกแนวโน้มได้อีกด้วยครับไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่าง Bullish หรือ แนวโน้มขาลงอย่าง Bearish ก็ทำได้ไม่ยากเลยครับ

อินดิเคเตอร์ตัวนี้นั้น ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี โดยบุคคลที่มีนามว่า J. Welles Wilder ในช่วงราวๆปี 1978 โดยประวัติของบุคคลนี่คร่าวๆซึ่งผมได้ทำการอ้างอิงจากเว็บไซต์ Wikipedia ได้ว่าเป็น บุคคลนี้เป็นวิศวกรเครื่องกลชาวอเมริกันที่ได้ผันตัวมาเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังมีอินดิเคเตอร์อีกหลากหลายตัวที่ Wilder ได้เป็นผู้พัฒนาซึ่งผมจะยกตัวอย่างอินดี้ที่คุ้นหูคุ้นตาให้ฟังอย่างเช่น Average True Range (ATR) และ Parabolic SAR ก็จัดอยู่ในอินดี้ที่บุคคลนี้เป็นผู้พัฒนาด้วยนั่นเองแหละครับ
วิธีคำนวณ สูตร RSI
สมการ RSI = 100-( 100/(1+( Average gain / Average loss) ) )
โดยที่ Average gain คือ ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่เป็นบวกย้อนหลัง (n)แท่งเทียน
Average loss คือ ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่เป็นลบย้อนหลัง (n) แท่งเทียน
n คือ จำนวนวันหรือแท่งเทียนที่ต้องการให้อินดิเคเตอร์คำนวนเก็บค่าย้อนหลัง
ความหมาย คือ ใช้สำหรับการหาค่าเฉลี่ยย้อนหลังโดยเทียบกับอัตราผลตอบแทนทั้งผลตอบแทนที่เป็นบวกและผลตอบแทนที่เป็นลบครับซึ่งเมื่อค่าออกมาเกิน 70 ก็จะถูกมองว่าอยู่ในสภาวะการซื้อที่มากเกินไปและในทางกลับกับเมื่อค่าออกมาน้อยกว่า 30 ก็จะถูกมองกว่าอยู่ในสภาวะขายมากเกินไปนั่นเองครับ
ระบบเทรด RSI ที่แนะนำ
ผมขอเริ่มจากการแนะนำและอธิบายการใช้ RSI ขั้นพื้นฐานก่อนนะครับซึ่งแน่นอนว่ามันสำคัญมากในการใช้งานเพื่อที่จะต่อยอดต่อไป…จากที่กล่าวไปแล้วข้างต้นจากสมการ RSI นั้นจะแสดงออกมาเป็นเส้นสมการที่มีค่าตั้งแต่ 0 – 100 โดยปกติส่วนใหญ่แล้วผู้เทรดมักจะกำหนดค่า RSI เพื่อนำมาวิเคราะห์ดังนี้

- เมื่อ RSI > 70 จะถูกเรียกว่า Over bought ความหมายคือ ราคาสินทรัพย์หรือสกุลเงิน มีสภาวะซื้อมากเกินไป จึงทำให้มีโอกาสที่ราคานั้นมีแนวโน้มจะกลับตัวลง
- เมื่อ RSI < 30 จะถูกเรียกว่า Over sold ความหมายคือ ราคาสินทรัพย์หรือสกุลเงิน มีสภาวะขายมากเกินไป จึงทำให้มีโอกาสที่ราคานั้นมีแนวโน้มจะกลับตัวขึ้น
โดยผมจะขอยกตัวอย่างดังรูปภาพที่ 2 นะครับ จะสังเกตุว่าเมื่อใดก็ตามที่ RSI > 70 ก็มักจะมีการกลับตัวของราคาในเทรนด์ขาขึ้นเป็นขาลง และ ในขณะเดียวกันเมื่อ RSI < 30 ก็มักจะมีการกลับตัวของราคาในการเทรนด์ขาลงเป็นขาขึ้นนั่นเองครับ
วิธีตั้งค่า RSI พื้นฐาน + 2 EMA
วิธีตั้งค่า RSI พื้นฐานทั่วไป
เริ่มจากการเรียกใช้งานอินดิเตอร์พื้นฐานดังนี้ เริ่มจากที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง MT4 Insert>Indicator>Oscillators> Relative Strength Index ดังรูปภาพด้านล่าง

หลังจากนั้นผมจะทำการตั้งค่าพารามิเตอร์โดยใช้ RSi ที่ Period 8 วันนะครับดังตัวอย่างรูปด้านล่าง

โดยค่าพารามิเตอร์นี้ทุกท่านสามารถตั้งค่าให้แตกต่างจากนี้ได้ตามอิสระนะครับโดยให้เหมาะสมกับกราฟของแต่ละคู่เงินหรือสินทรัพย์นั้นๆรวมไปถึงการให้ความสำคัญของทามเฟรมด้วยนะครับโดยผมจะเน้นย้ำในเรื่องนี้บ่อยมากเนื่องจากเราไม่สามารถที่จะตั้งค่าเหมือนกันและใช้กับทุกทามเฟรมได้นั่นเองครับ ส่วนจะต้องใช้และตั้งค่าเท่าไรให้เหมาะสม..นั้นขึ้นอยู่กับการทดลองและประสบการ์ณของแต่ละท่านด้วยนะครับ
วิธีตั้งค่า การตั้งค่า 2 EMA ใช่ร่วมกับ RSI
ให้ทำการเรียกใช้ EMA 2 เส้นโดยทำการเลือก เป็น EMA 50 และ EMA 100 ตามลำดับดังรูปภาพด้านล่างเลยครับ

เงื่อนไขการ Buys

- มีการ Crossover ของ EMA 50 ตัดขึ้นเหนือ EMA 100
- กราฟราคาอยู่เหนื่อ EMA ทั้ง 2
- รอจนกว่า RSI ตัดขึ้นเหนือระดับ 30
- กราฟทำราคาปิดอยู่ใต้เส้น EMA 50 แต่ไม่เกิน 100
- รอกราฟกลับไปทำราคาปิดอยูเหนือเส้น EMA 50 อีกรอบและทำการเปิด buy
- วาง SL ไว้ใต้ Swing Low ล่าสุด และทำ TP ไว้ที่ RR 1:1
เงื่อนไขการ Sells

- มีการ Crossover ของ EMA 50 ตัดลงใต้ EMA 100
- กราฟราคาอยู่ใต้ EMA ทั้ง 2
- รอจนกว่า RSI ตัดลงใต้ระดับ 70
- กราฟทำราคาปิดอยู่เหนือเส้น EMA 50 แต่ไม่เกิน 100
- รอกราฟกลับไปทำราคาปิดอยู่ใต้เส้น EMA 50 อีกรอบและทำการเปิด Sell
- วาง SL ไว้ใต้ Swing high ล่าสุด และทำ TP ไว้ที่ RR 1:1
ข้อควรระวังในการใช้ RSI
การใช้งาน RSI นั้นสามารถที่จะบอกจุดกลับตัวได้ก็จริงครับแต่มีหลายต่อหลายครั้งที่อินดิเคเตอร์ตัวนี้ก็ไม่ได้ทำราคากลับตัวจริงดังเทคนิคดังกล่าว เช่นเมื่อถึงการทำ OVER BOUGHT แต่ราคาก็ไม่ได้กลับตัวลงมาแต่กลับดันราคาพุ่งขึ้นไปอีกซะงั้น…จึงเกิดเป็นสัญญาณหลอกเกิดขึ้นดังรูปภาพด้านล่าง

ทั้งนี้จึงอยากเตือนให้นักเทรดให้ใช้งาน RSI อย่างระมัดระวังและควรทำการ Backtest กดยุทธิ์ตัวเองอย่างสม่ำเสมอและฝึกฝีมือก่อนทำการเทรดจริงทุกครั้งนะครับ
สรุป
อินดิเคเตอร์ RSI นั้นมีความสามารถในการบอกจุดกลับตัวที่แม่นยำ…หากใช้ได้ถูกต้องและเข้าใจอย่างแท้จริงนะครับเพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการทำกำไรคือสัญญาณหลอก…แต่ทั้งนี้สามารถแก้ไขได้โดยการนำอินดิเคเตอร์อื่นๆเข้ามาช่วยในการตัดสินใจและทำการศึกษาพฤติกรรมกราฟแต่ละประเภทก็จะสามารถช่วยด้วยได้มากเลยทีเดียวครับ
อ้างอิง
https://thaibrokerforex.com/relative-strength-index-rsi-คืออะไร/