เทรดทอง คืออะไร? แตกต่างจากการซื้อทองจริงอย่างไร?

รู้ไหม? ว่าการเทรด Forex อาจจะไม่ได้มีสินทรัพย์แค่คู่เงินเท่านั้น…ถ้าใครเทรดมานานจะรู้ดีว่าบางครั้งโบรกเกอร์ก็มีสินทรัพย์พวกโลหะอย่าง “ทองคำ” ให้เทรดด้วยเหมือนกัน ซึ่งในบทความนี้เราจะไปเจาะลึกทำความรู้จักกับการเทรดทองคำในหลายๆ รูปแบบกันครับ


Highlight บทคัดย่อ

  • การเทรดทองคำเป็นการลงทุนซื้อ/ขายทองคำออนไลน์ที่ไม่ได้ถือครองทองคำจริง มี 3 รูปแบบหลักคือ
    1. Gold Futures: สัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีวันหมดอายุ
    2. Gold CFD: เก็งกำไรจากส่วนต่างราคาคล้าย Forex ไม่มีระยะสัญญา
    3. Gold ETF: กองทุนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น ลงทุนในทองคำจริงหรือสัญญา ใช้ซื้อขายเหมือนหุ้น
  • ความแตกต่างหลักระหว่างการเทรดทองกับการซื้อทองจริง อยู่ที่…
    • เป้าหมายการลงทุน (เก็งกำไรระยะสั้น-กลาง vs. ออมระยะยาว)
    • ผลตอบแทน/ความเสี่ยง
    • ต้นทุน/ค่าธรรมเนียม
    • สภาพคล่องและความปลอดภัย
    • ความยืดหยุ่น
  • การเทรดทองจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการทำกำไรเร็ว รับความเสี่ยงได้สูง ขยันติดตามข่าวสาร ส่วนการซื้อทองจริงเหมาะกับผู้ที่ต้องการถือสินทรัพย์ระยะยาว เน้นความปลอดภัย
  • ส่วนกลยุทธ์การลงทุนทองคำแบบเทรดทองได้แก่ Day Trade, Scalping หรือเทรดชนข่าว ในขณะที่แผนการลงทุนทองจริงใช้แผนการซื้อสะสมระยะยาว เช่น DCA

เทรดทองคืออะไร? มีกี่แบบ?

ถ้าท่านได้ยินคำว่าเทรดทองมันหมายถึงการซื้อ/ขาย ลงทุนในทองคำแบบออนไลน์โดยไม่จำเป็นต้องถือทองคำจริงและจะอ้างอิงราคาทองคำตามตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มหรือแอพลิเคชั่นที่ท่านเลือกเทรดด้วย การเทรดทองคำผมขอยกตัวอย่างมาเสนอ 3 รูปแบบหลักๆ ดังนี้ครับ

Gold Futures

  • Gold Futures คือสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า การเทรดแบบนี้มีหลักการคือเทรดเดอร์ต้องคาดการณ์ราคาทองว่าจะ “ขึ้น” หรือ “ลง” ในอนาคต
  • หากคาดการณ์ได้ถูกต้องก็จะได้กำไรไป โดยการเทรด Future มีวันหมดอายุของสัญญานะ! ส่วนใหญ่จะมีอายุสัญญาเป็นรายเดือน (1-3 เดือน)
  • ในประเทศไทยสามารถเทรด Gold Futures ผ่านตลาด TFEX (Thailand Futures Exchange) ส่วนแอพพลิเคชั่นสากลก็ เช่น Streaming แอปของตลาดหลักทรัพย์ ใช้เทรดหุ้นและ TFEX ได้ครับ
การเทรด Gold Futures ผ่านตลาด TFEX ที่มีระยะสัญญาชัดเจน
หน้าเว็บไซต์ TFEX (Thailand Futures Exchange) ตลาด Future และ Options เบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย เทรดเดอร์ที่สนใจเทรดทองแบบ Future สามารถอ่านรายละเอียดที่หน้าเว็บไซต์เกี่ยวกับระยะของสัญญารวมถึงข้อมูลอื่นๆ

Gold CFD

  • Gold CFD หรือที่เราเทรดทองกันตามโบรกเกอร์ Forex ต่างๆ นี่แหละครับ มันคือการเก็งกำไรจากราคาทองคำกับคู่เงิน เช่น XAUUSD = เรากำลังคาดการณ์ราคาทองคำเทียบกับสกุลเงิน USD
  • หลักการซื้อ/ขายก็เหมือนเทรด Forex เลย มี Leverage สูง ไม่มีระยะสัญญา แค่เรามองทองคำเป็นสกุลเงินหนึ่งที่จับคู่กับสกุลเงินอื่น ขอยกตัวอย่างให้เคลียร์ไปเลย
    • เทรดทอง/ดอลล่า XAUUSD ถ้าเราคาดการ์ว่าทองคำจะแข็งค่าขึ้นหรือ USD จะอ่อนค่า ก็ Buy
    • กลับกันถ้ามองว่าทองคำจะอ่อนลงหรือUSD จะแข็งขึ้น ก็ Sell
  • โบรเกอร์ Forex ที่ให้บริการเทรด Gold CFD เช่น
    • Exness: ฝากแค่ 10$ ได้ Leverage ไม่จำกัด
    • XM: ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท ได้ Leverage 1:1000
การเทรด Gold CFD บนแพลตฟอร์ม Forex ที่มี Leverage และเทรดได้ทั้งขึ้นลง
การเทรดทองคำแบบ CFD มีหลักการเหมือนกับการเทรด Forex แถมยังใช้แพลตฟอร์มจากโบรกเกอร์เหมือนกันและยังใช้คำสั่งซื้อ-ขาย, เครื่องมือวิเคราะห์ เหมือนกันอีก

Gold ETF

  • Gold ETF จะมีลักษณะคล้ายกับ เทรดหุ้น เพราะมันคือกองทุนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งกองทุนนี้จะเน้นลงทุนไปที่ทองคำจริงหรือสัญญาทองคำล่วงหน้า แทนที่จะลงทุนในบริษัทต่างๆ เหมือนกองทุน/หุ้นทั่วไป
  • Gold ETF ทำกำไรได้เหมือนหุ้นเป๊ะ ๆ เลยครับ คือ “ซื้อถูก ขายแพง” โดยราคาหน่วยของ Gold ETF จะขึ้นลงตามราคาทองคำโลก
  • ตัวอย่าง Gold ETF ยอดนิยมในไทย เช่น GLD – SPDR Gold Shares (ซื้อขายในตลาดหุ้นอเมริกา), GOLD99 – ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย โดยบริษัท บลจ.วรรณ
  • Gold ETF เทรดที่ไหน? คำตอบคือเทรดในแอพลิเคชั่นเดียวกันกับหุ้นเลยครับ เช่น
    • Commodity ETFs ของค่าย Liberator
    • รายการ Gold ETFs ของ Dime น้องใหม่
    • หรือคลาสสิค ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
การเทรด Gold ETF ที่ซื้อขายเหมือนหุ้นในตลาดทุน
การเทรดทองแบบ ETF คล้ายกับการเทรดหุ้นเพราะเราจะซื้อกองทุนที่เอาเงินไปลงทุนในทองคำจริงและสัญญาทองคำล่วงหน้า เหมือนกับเราลงทุนทองคำทางอ้อมนั่นแหละ!

ความแตกต่างระหว่างการเทรดทองและซื้อทองจริง

นอกจากเรื่องการถือครองทองคำที่แตกต่างกันแล้ว (เทรดทอง-ไม่ถือทองจริง, ซื้อทองจากร้าน – ถือทองจริง) เรามาดูความแตกต่างในปัจจัยด้านอื่นๆ ระหว่างการเทรดทองคำกับการซื้อทองจริงกันบ้างครับ ตามตารางด้านล่างนี้

หัวข้อ

การเทรดทอง (Gold Futures, CFD, ETF)

การซื้อทองจริง (ทองคำแท่ง / ทองรูปพรรณ)

เป้าหมายการลงทุน เก็งกำไรระยะสั้น – กลาง หรือกระจายพอร์ต ออมสินทรัพย์ระยะยาว
ผลตอบแทน / ความเสี่ยง ผลตอบแทนสูง+เสี่ยงสูง (ใช้ Leverage ได้) ผลตอบแทนช้า แต่มั่นคงกว่า

ความเสี่ยงน้อยกว่า

ต้นทุน / ค่าธรรมเนียม มีค่าธรรมเนียมการเทรด (Spread, Commission) บางโบรกมีค่า Swap มีค่ากำเหน็จ, ค่าบล็อก, ค่า Premium

รวมถึงค่าขายคืนต่ำกว่าราคาตลาด

สภาพคล่อง ซื้อขายได้ทันที ผ่านแอป / โบรกเกอร์ ขายคืนร้านทองต้องตรวจสอบ, มีเวลาเปิด-ปิดร้าน
ความยืดหยุ่น เทรดได้ขึ้น-ลง (เปิด Short ได้), ใช้ Leverage ได้ ทำกำไรถ้าทองราคาขึ้นเท่านั้น!
ความปลอดภัย ขึ้นอยู่กับคุณภาพโบรกเกอร์หรือกองทุนที่เทรดด้วย ถือทองจริง มีความมั่นคง ไม่เสี่ยงระบบล่ม

ความแตกต่างในแง่มุมหลักๆ ของการเทรดทองคำและการซื้อทองจริงครอบคลุมทั้งเรื่อง ความเสี่ยง, ระยะทำกำไร, ค่าธรรมเนียม, ความยุ่งยากซับซ้อนในการซื้อขายและเรื่องความปลอดภัยในการถือครอง

ใครเหมาะกับอะไร?

  • เทรดทอง: เหมาะกับคนที่ต้องการทำกำไรเร็ว,เน้นผลตอบแทนคุ้มค่า, มีความรู้การเทรดหรือมีเวลาติดตามตลาดบ่อยๆ
  • ซื้อทองจริง: เหมาะกับคนที่อยากถือสินทรัพย์ไว้กับตัวจริงๆ แบบระยะยาว เน้นปลอดภัยและไม่ชอบความผันผวนระยะสั้นๆ

ตัวอย่างกลยุทธ์การลงทุนทองคำ

  • เทรดทอง: สายนี้จะเน้นทำกำไรจากความผันผวนระยะสั้น-กลางของราคาทองคำ กลยุทธ์เทรดก็เช่น
    • Day Trade: เน้นเปิด-ปิดออร์เดอร์ทองคำภายในวันเดียว
    • Scalping: เน้นเปิด-ปิดออเดอร์เพียงแค่กราฟวิ่งแบบแคบๆ ไม่กี่ pips ต่อครั้ง
    • เทรดชนข่าว: เน้นเทรดทำกำไรช่วงก่อน-ระหว่าง-หลังประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัอาศัยจังหวะผันผวนสั้นๆ
  • ซื้อทองจริง: สำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงมากหรือไม่มีเวลาติดตามตลาด จะเรียกว่ากลยุทธ์ก็ไม่เชิงแต่ออกแนวเป็นแผนการซื้อ เช่น
    • DCA: มันคือการทยอยซื้อทองคำทุกเดือนในปริมาณเท่า ๆ กัน ไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลง กลยุทธ์นี้ไม่เน้นกำไรเร็ว แต่เน้นการสะสมอย่างสม่ำเสมอและปลอดภัย
เปรียบเทียบกลยุทธ์การเทรดทองคำกับแผนการลงทุนทองจริง
การลงทุนทองคำแบบเทรดเหมาะกับคนที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น-กลาง รวมถึงต้องการสภาพคล่องสูงซื้อ-ขายง่าย ในขณะที่คนที่เน้นถือทองคำจริงก็ต้องการความมั่นคง ปลอดภัยในสินทรัพย์รวมถึงมองการลงทุนในรยะยาวมากกว่า

วิดีโอเกี่ยวกับการเทรดทองคำ

 

เห็นวิดีโอตัวหนึ่งมันเด้งมาชื่อว่า กลยุทธ์การเทรดทองคำที่สร้างรายได้ 1,000 ดอลลาร์ต่อวัน Winrate = 91% อ่านแล้วดูเว่อมาก! แต่มันก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกันในเมื่อเจ้าของคลิปอ้างแบบนี้ คงต้องมีอะไรน่าสนใจแน่นอน เผื่อใครกำลังหาระบบเทรดทองเจ๋งๆ ลองดูคลิปนี้ให้จบและเอาไปพิจารณาดูได้ครับ

  • Focus นาทีที่ 00:13 กลยุทธ์ที่ใช้เทรดทองคือ Supply/Demand
  • Focus นาทีที่ 01:38 2 เหตุผลที่กลยุทธ์นี้ทรงพลัง
  • Focus นาทีที่ 02:38 การเทรดในตลาด Sideways
  • Focus นาทีที่ 06:50 การเทรดในตลาดขาขึ้น
  • Focus นาทีที่ 09:15 การเทรดในตลาดขาลง

สรุป

การเทรดทองคำแน่นอนว่าต่างจากการซื้อทองจริงหลายแง่มุมทั้งการถือครองสินทรัพย์ รูปแบบการทำกำไร ความเสี่ยง ต้นทุน ต่างๆ มันสะท้อนให้เห็นว่า ในปัจจุบันสินทรัพย์ตัวเดียวกันใช้เรทราคาเดียวกันแต่มีวิธีการลงทุนหลากหลายวิธี ใครที่ศึกษาและมีข้อมูลในเชิงกว้างก็จะได้เปรียบในการลงทุนมากกว่า

แต่ก็อย่างว่าทุกการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์มันแบกมาพร้อมกับความเสี่ยงทั้งเรื่องความผันผวนและความไม่รู้ของคนเราเอง เทรดเดอร์ไม่ว่าจะสาย Forex หรือสายทองคำ ต้องไม่ประมาทในการทำความเข้าใจกับความเสี่ยงทุกรูปแบบ

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

สารบัญบทความ