รู้ทันอารมณ์ตลาด! ใช้ Market Sentiment Index วิเคราะห์ก่อนเริ่มเทรด

เรื่องอารมณ์ในการเทรด Forex เป็นสิ่งที่ไม่ควรเอามายุ่งเกี่ยวกันมากที่สุด…แต่จะเป็นยังไง ถ้าอารมณ์ในตลาด Forex บางครั้งมันอาจจะมีประโยชน์กับเรามากกว่าที่คิดก็ได้นะ เรากำลังพูดถึง “Market Sentiment Index” มันเกี่ยวข้องกับอารมณ์ยังไงไปหาคำตอบในบทความนี้กันครับ


Highlight บทคัดย่อ

  • Market Sentiment Index คือเครื่องมือวัด “อารมณ์” หรือมุมมองโดยรวมของนักลงทุนต่อทิศทางของตลาด Forex โดยบ่งชี้ว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะซื้อ (Bullish) หรือขาย (Bearish)
  • ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ Market Sentiment ใน Forex ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจ, นโยบายจากธนาคารกลาง, ข่าวสารและโซเชียลมีเดียที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการเคลื่อนไหวของกราฟราคา
  • หลักการใช้ Market Sentiment Index คือใช้เป็นเครื่องมือ “กรอง” การตัดสินใจเทรด โดยไม่เทรดตามทิศทางที่คนส่วนใหญ่เปิดออเดอร์แต่จะใช้ดูว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought หรือ Oversold เพื่อหาจังหวะที่ได้เปรียบกว่า
    • เช่น หากอินดิเคเตอร์ให้ Buy แต่ Sentiment Index บอก Overbought ควรรอ Sell
  • ข้อควรระวังในการเทรดตาม Market Sentiment
    1. หลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามอารมณ์ของตัวเอง
    2. ระวังสัญญาณหลอกทั้งจากตลาดและตัว Index
    3. ไม่ควรใช้ Sentiment Index เป็นเครื่องมือเดียวในการวิเคราะห์
    4. ตระหนักเสมอว่าข้อมูล Sentiment อาจมาจากกลุ่มเทรดเดอร์เฉพาะกลุ่มเท่านั้น

Market Sentiment Index คืออะไร?

  • Market Sentiment Index คือ ดัชนีที่ใช้วัด “อารมณ์หรือมุมมองของนักลงทุน” ต่อทิศทางของตลาดหรือสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งในช่วงเวลานั้น ว่ากำลังมองสินทรัพย์นั้นไปในทิศทาง Bullish(ขาขึ้น) หรือ Bearish(ขาลง)
  • ดัชนีนี้จะสะท้อนพฤติกรรมหมู่ เช่น การซื้อขายมากผิดปกติ, การเทขายเพราะข่าวลือหรือการเข้าซื้อเพราะกลัวตกรถ (FOMO) เป็นต้น
  • ส่วนในบริบทของ Forex คือเครื่องมือหรือตัวชี้วัดที่พยายามวัดความรู้สึกและความคิดเห็นโดยรวมของเทรดเดอร์ที่มีต่อคู่สกุลเงินหรือตลาด Forex เพื่อสำหรับประเมิณคำตอบว่าเทรดเดอร์มีแนวโน้มที่จะซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell)
ดัชนี SWFX Sentiment Index ของ Dukascopy ได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายจริงภายในเครือข่าย Swiss Forex Marketplace (SWFX) โดยวัดจากสัดส่วนของสถานะซื้อ (Long) และขาย (Short) ที่เปิดอยู่ในปัจจุบันของลูกค้า Dukascopy และผู้ให้บริการสภาพคล่อง

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ Market Sentiment

อย่างที่บอกไปว่า Market Sentiment เปรียบเสมือนความรู้สึกโดยรวมของนักลงทุนที่มีต่อตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการขึ้นลงของราคาหุ้นหรือค่าเงิน เราลองมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่สามารถ “ปั่น” อารมณ์ตลาดได้

1. ข้อมูลเศรษฐกิจ (Economic Data)

  • พวก ตัวเลขเศรษฐกิจ สำคัญๆ เช่น การเติบโตของประเทศ (GDP), ราคาสินค้าแพงขึ้นไหม (เงินเฟ้อ), คนมีงานทำมากน้อยแค่ไหน (การจ้างงาน)
  • ข้อมูลเหล่านี้จะบอกว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้สวยหรือกำลังมีปัญหา ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนและส่งต่อไปยังอารมณ์ของตลาดอีกที

2. นโยบายจากธนาคารกลาง

  • ธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเงิน การขึ้นหรือลงดอกเบี้ย รวมถึงการเปลี่ยนนโยบายการเงิน
  • ปัจจัยเหล่าล้วนมีผลต่อการกู้เงิน การลงทุนและการใช้จ่ายของคนในประเทศ ถ้านโยบายเปลี่ยน นักลงทุนก็จะปรับ “อารมณ์” ตามไปด้วย ส่งผลต่อ Market Sentiment แน่นอน

3. ข่าวและโซเชียลมีเดีย

  • ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าข้อมูลถถูกส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งข่าวสารต่างๆ บางครั้งอาจจะยังไม่รับการกลั่นกรองที่ดีก็มีผลต่ออารมณ์ของผู้รับข้อมลนั้นได้
  • การพาดหัวข่าวใหญ่ๆ หรือเหตุการณ์สำคัญที่ถูกแชร์กันอย่างรวดเร็ว สามารถเปลี่ยนความคิดของนักลงทุนได้ในพริบตา ส่งผลต่อ Market Sentiment ได้เช่นกัน

4. กราฟราคา

  • อาจจะดูเกินจริงไปสักนิดแต่เชื่อไหมว่าแค่เราดูกราฟราคาค่าเงินวิ่งขึ้นลงมันส่งผลต่ออารมณ์ขอองเทรดเดอร์ทุกๆ คนในตลาด
  • การเห็นจำนวน ปริมาณการซื้อขาย รูปแบบกราฟบางอย่างหรือสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ ทำให้เทรดเดอร์แสดงอารมณ์ออกมาจากคำสั่งซื้อขาย ซึ่งตัว Market Sentiment ก็จะวัดว่าตอนนี้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
ปัจจัยที่ทำให้ Market Sentiment เปลี่ยนแปลง แน่นอนหลักๆ คือความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์ที่สะท้อนออกมาผ่านคำสั่ง Buy และ Sell แต่ถ้าลงรายละเอียดกว่านั้นก็มีปัจจัย เช่น ข่าวสารเศรษฐกิจ, ตัวเลขดอกเบี้ยม กราฟราคาที่ทำให้หลายคนคิดไปในทางเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดอารมณืในตลาดของเทรดเดอร์ทั้งหมด

ตัวอย่างการใช้ Market Sentiment ช่วยวิเคราะห์ก่อนเทรด

จากรูปตัวอย่างการใช้ประโยชน์จาก Market Sentiment ในการวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD ซึ่งพบว่า ณ เวลาปัจจุบันเกิดสถานะ Overbought สำหรับคู่เงินนี้แล้ว ดังนั้นเทรดเดอร์สามารถรู้เท่าทันจากข้อมูล Market Sentiment นี้ได้ และมองว่าเล่น Sell จะมีโอกาสชนะมากกว่า

  • หลักการใช้ Market Sentiment Index คือเราไม่ได้เทรดตามที่ข้อมูลดัชนีบอกว่าฝั่งไหนเยอะ ให้เข้าเทรดตามนั้น แต่เราจะใช้เป็นเหมือนตัวช่วย “กรอง” ดูว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ในตลาดกำลังเปิดออเดอร์ไปในทิศทางใด
  • เช่นถ้าอินดิเคเตอร์หรือการวิเคราะห์ของเราบอกว่าให้ Buy คู่เงิน EURUSD แต่ Sentiment Index บอกว่า EURUSD มีสถานะ Overbought (คนส่วนใหญ่เปิด Buy มากเกินไป) เราก็ไม่ควรเล่น Buy รอหาจังหวะสวน Sell จะได้เปรียบกว่า
  • โอเคพูดถึงหลักการเส็จแล้วมาดูตัวอย่างจากกราฟ AUDUSD Sentiment Index บอกว่า มีคนเปิด Buy มากถึง 72.72% และเปิด Sell เพียง 27.28% ซึ่งหมายความว่า AUDUSD อยู่ในสถานะ Overbought
  • ตามหลักการนี้ เราจึงควรมองหาโอกาสในการ “Sell” เป็นหลัก
  • เหตุผลที่ทำไมถึงควรเล่น Sell คือ “รายใหญ่” (นักลงทุนรายใหญ่) มักจะเข้าเทรดสวนทางกับเทรดเดอร์รายย่อยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในโซน Supply ที่ทำเครื่องหมายไว้ (1, 2 หรือ 3)
  • เหตุผลที่เป็นไปได้อีกอย่างคือ สถานะ Overbought (ซื้อมากเกินไป) ในโซนเหล่านี้อาจมีเทรดเดอร์ที่ติดอยู่ในสถานะ Buy หรืออาจมีการ Stop Hunting ของคนที่เปิด Buy ก่อนที่ราคาจะปรับตัวลง

สิ่งที่เทรดเดอร์ควรระวัง!

การเทรดตามอารมณ์ของตลาดหรือ “Market Sentiment” อาจดูเหมือนง่าย แต่ก็มีอันตรายซ่อนอยู่! และนี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์ควรระวังเมื่อเทรดตามอารมณ์ของตลาด

  1. ใจสั่งมา มากกว่าเหตุผล: บางทีเราอาจตัดสินใจเทรดตามความรู้สึกอยากซื้อ อยากขาย มากกว่าที่จะวิเคราะห์ข้อมูลตามที่ได้รับเพราะกำลังเห็นว่าตลาดกำลังเคลื่อนที่รุนแรง
  2. สัญญาณหลอกเพียบ!: เครื่องมือวัดอารมณ์ตลาดไม่ได้กรองสัญญาณหลอกหรือ False Signal ให้เรา บางทีเข้าออเดอร์ผิดตามสัญญาณหลอกเล็กๆ ของตลาดได้ เทรดเดอร์ต้องเตียมรับมือให้ดี
  3. มองสั้น ลืมมองยาว: ถ้ามัวแต่ตามอารมณ์ตลาดระยะสั้น อาจจะทำให้เราละเลยแผนการเทรดระยะยาว แล้วพลาดโอกาสทำกำไรในช่วงตลาดปรับฐานได้!
  4. ไม่ควรใช้ Sentiment Index เพียงอย่างเดียว: Market Sentiment Index สามารถบอกภาพรวมของอารมณ์ได้เท่านั้นจะใช้เป็นบรรทัดฐานในการเทรดอย่างเดียวไม่ได้
  5. ข้อมูลบางดัชนีมาจากโบรกเกอร์เฉพาะกลุ่ม: จากที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นถึง Market Sentiment Index จาก Dukascopy ซึ่งเป็นการวัดจากเทรดเดอร์ภายในโบรกเกอร์นี้เท่านั้น ไม่ได้สะท้อนมุมมองของตลาดโดยรวม
แม้ว่าตัวดัชนี Market Sentiment จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมอารมณืของตลาดแล้วก็จริง แต่สิ่งที่ต้องะวังคือตัวเทรดเดอร์เองอย่างไปมีอารมณืร่วมกับตลาดเพราะในตลาดยังมีสัญญาณหลอกอีกมากมาย ให้ใช้ Market Sentiment เป็นเพียงตัววิเคราะห์เบื้องต้นจะดีกว่า

วิดีโอเกี่ยวกับการเทรด Sentiment

 

พูดถึงการเทรดโดยใช้ข้อมลจาก Market Sentiment Index จากบทความของเราได้ยกตัวอย่าง เครื่องมือ Index จาก Dukascaopy แต่วิดีโอตัวนี้จะใช้ของ Capital.com พร้อมอธิบายภาพรวมของการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาดเพื่อวิเคราะห์ตลาดและเพิ่มโอกาสในการซื้อขายที่ทำกำไร จะน่าสนใจแค่ไหนลองไปดูกันครับ

  • Focus นาทีที่ 02:05 การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นจากออเดอร์ของเทรดเดอร์ที่เปิดอยู่
  • Focus นาทีที่ 02:30 เหตุผลที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ขาดทุน
  • Focus นาทีที่ 03:33 ตัวอย่างการเทรด GBP/USD โดยใช้ Market Sentiment Index วิเคราะห์
  • Focus นาทีที่ 07:20 ตัวอย่างการเทรด EUR/USD
  • Focus นาทีที่ 11:52 บทสรุป

สรุป

จำไว้ว่าการเข้าใจอารมณ์ตลาดเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเทรดโดยใช้อารมณ์ตลาดอย่างเดียวอาจนำไปสู่ความเสียหายมากกว่าที่คิด ดังนั้นเทรดเดอร์ควรใช้อารมณ์ตลาดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคอื่นๆ เพื่อความแม่นยำจะดีที่สุดครับ

ก็หวังว่า บทความนี้จะทำให้เทรดเดอร์เข้าใจ Market Sentiment Index มากยิ่งขึ้นและหวังว่าจะใช้มันอย่างถูกวิธี เพื่อผลประโยชน์สูงสุดแก่ตัวเราเองนะครับ

อ้างอิง

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

สารบัญบทความ