วันนี้เรามาดูโบรกเกอร์ Forex สัญชาติอเมริกาอย่าง Webull กันบ้างครับ… เทรดเดอร์ชาวไทยอาจจะรู้จักกันน้อยแต่ต้องบอกว่าเป็นโบรกเกอร์สไตล์เดียวกับ eToro เลย แถมเขายังเป็นคู่แข่งกันด้วย หากใครเข้าไปหน้าเว็บไซต์ของเราก็คงจะ งง ๆ หน่อย เพราะ User Interface (UI) ของเขาค่อนข้างที่แตกต่างกับค่ายอื่น ๆ ครับ
ประวัติของโบรกเกอร์
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับว่า Webull เป็นบริษัทที่ก่อตั้งครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเขาตั้งอยู่ในนิวยอร์กก่อน จากนั้น Webull ก็ได้ไปสร้างสำนักงานในจีนต่อ ซึ่งทางโบรกเกอร์มีการบริการประมาณว่าให้สำนักงานที่จีนดูแลเรื่องระบบและเทคโนโลยีต่าง ๆ ส่วนเรื่องการบริการลูกค้าทางสำนักงานนิวยอร์กจะเป็นผู้จัดการเองครับ
ก่อตั้งปี
- Webull ก่อตั้งในช่วงราว ๆ ปี 2017 ครับ โดยเขามีอายุเพียง 6-7 ปีเท่านั้นเอง นับว่าน้อยมาก ๆ เลยสำหรับโบรกเกอร์ที่คิดจะสู้กับ eToro
จดทะเบียนที่ไหน
- จดทะเบียนที่นิวยอร์ก
สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่
- สำนักงานใหญ่ของ Webull ตั้งอยู่ที่ 44 Wall Street, New York
- สำนักงานแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ จีน
ความน่าเชื่อถือ
เป็นที่แน่นอนครับว่า เราจะต้องมาดูกันที่ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะคงไม่มีเทรดเดอร์ท่านใดอยากที่จะใช้งานโบรกเกอร์เถื่อนหรือกกลุ่มนักต้มตุ๋นหรอกใช่ไหมครับครับ
License
Webull นั้นได้จดทะเบียนบริษัทในนาม Webull Securities Limited และได้ขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่ประเทศ ฮ่องกง ภายใต้ License SFC หมายเลข CE No.: BNG700 โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
- Type 1 License สำหรับการทำ Dealing in Securities
- Type 2 License สำหรับการทำ Dealing in Futures Contracts
- Type 4 License สำหรับ Advising on Securities
นอกจากนี้ทาง Webull เองยังถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานอีก 2 หน่วยได้แก่ The Securities and Exchange Commission (SEC) and the Financial Industry Regulatory Authority (FINRA) อีกด้วยครับ
ประวัติการถูกร้องเรียน
หากจะพูดกันเรื่องร้องเรียนแล้ว ทาง Webull ก็โดนลูกค้าบ่นกันใช่ย่อยครับ โดยแต่ละรายที่เขาบ่นและตำหนิจะเป็นในเรื่องของการตุกติกการถอนเงินครับ บางคนโดนยึดเวลาไปกว่า 2 เดือนยังไม่ได้เงินก็มีนะครับ พอไปสอบถามทางผู้ออกใบอนุญาตให้ เขาก็ปัดเรื่องไปโดยการบอกให้รอเวลาก่อน อันนี้เรื่องใหญ่จริง ๆ ครับสำหรับการถอนเงิน
Trust pilot
ในส่วนของคะนน Trust pilot นั้นทาง Webull ได้คะแนนไปเพียง 1.0 คะแนนจากคะแนนเต็ม 5.0 คะแนนครับ ซึ่งนับว่าน้อยมาก ๆ แบบ กอ ไก่ ล้านตัว และตีไปได้เลยครับว่า “Bad” หรือ แย่ครับ เพราะ 88% ของผู้รีวิวให้ดาวไปเพียง 1 ดาวเท่านั้น โดยผู้รีวิวมีทั้งหมด 198 ท่านจากทั่วโลกครับ
การฝาก – ถอนเงิน
โดยปกติบัญชีของโบรกเกอร์ทั่วไปจะต้องมีเงินฝากเริ่มต้นขั้นต่ำ ซึ่งสามารถชำระได้หลายวิธี การถอนเงินมักจะทำได้ในลักษณะเดียวกัน แต่บางครั้งก็แตกต่างออกไปครับ ในกรณีของ Webull จำเป็นต้องมีวิธีการและเงินฝากขั้นต่ำดังต่อไปนี้:
เงินฝากขั้นต่ำ: Webull ไม่ได้กำหนดยอดคงเหลือในบัญชีขั้นต่ำครับ อย่างไรก็ตามเทรดเดอร์ที่ต้องการชอร์ตหุ้นจะต้องเปิดบัญชีมาร์จิ้นซึ่งต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 2,000 ดอลลาร์ครับผม ปัจจุบันทางโบกรเกอร์ยังไม่มีบัญชีรองรับสำหรับบัญชีอิสลาม แต่เทรดเดอร์สามารถฝากเงินผ่านคริปโทได้ครับ
ค่าธรรมเนียม: ทางโบรกเกอร์มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากหรือถอนเงินดังนี้ครับ
- มีค่าธรรมเนียมการฝาก $8 และค่าธรรมเนียมการถอน $25 สำหรับลูกค้าในประเทศ
- ค่าธรรมเนียมการฝาก $14 และค่าธรรมเนียมการถอน $45 สำหรับลูกค้าต่างประเทศครับ
ความเร็วในการฝาก-ถอนเงิน
เรื่องของความเร็วในการฝากถอน-ถอนเงินทางโบรกเกอร์ไม่มีการเคลมและไม่มีการแจ้งเอาไว้เลยครับว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ แต่จากรีวิวของ Trust pilot คงจะใช้เวลานานมากเลยทีเดียว
Platform ในการเทรด
เทรดเดอร์ท่านใดคิดจะใช้ Webull คงจะต้องบอกลา MetaTrader 4 (mt4) และ MetaTrader 5 (mt5) รวมไปถึง cTrader และ NinjaTrader ไปเลยครับ เพราะเขาโคตรจะอินดี้หันไปสร้างแพลตฟอร์มการเทรดส่วนตัวแบบฉบับของ Webull ขึ้นมาครับ
โดยทางโบรกเกอร์ได้แจ้งว่าเป็นแพตลฟอร์มที่เสมือนของขวัญชิ้นพิเศษที่เขาตั้งใจมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน เพราะเชื่อมั่นว่ามันคือหัวใจสำคัญของซอฟแวร์ของเขาเอง และยังเคลมอีกครับว่า API ของเขาทั้งมีความเสถียรและรวดเร็วกว่าแพลตฟอร์มอื่นเป็นไหน ๆ ซึ่งใช้ได้ทั้ง Window, Mac, Android, และ IOS เลยครับ
Webull เทรดอะไรได้บ้าง
สินค้าที่ทางโบรกเกอร์เปิดให้เทรดได้มีค่อนข้างน้อยกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ นะครับ โดยเขาจะมีให้เทรดประมาณ 6 ประเภทดังนี้ครับ
- Forex
- การเทรด Forex เราคงไม่ต้องพูดกันมากครับ เพราะมันคือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินซึ่งเทรดเดอร์ก็คงจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วในระดับหนึ่ง
- Commodities
- Commodities หรือ แปลเป็นไทยคือ สินค้าโภคภัณฑ์ มันก็คือ ผลิตภัณฑ์ หรือวัตถุดิบ ที่ถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของการผลิตสินค้าหรือบริการต่างๆ มีลักษณะจับต้องได้ สามารถซื้อขายได้ มีคุณสมบัติใช้แทนกันได้อย่างสมบูรณ์ครับ
- Indices
- Indices หรือ ดัชนี เป็นค่าตัวเลขของหุ้นต่าง ๆ ซึ่งนำมาวัดผลประกอบการของหุ้นตัวนั้น ๆ ได้ครับ ซึ่งดัชนีก็จะมีอยู่หลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ดัชนีเลขคณิต (Arithmetic index), ดัชนีค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ำหนัก (Weighted average index), และ ดัชนีค่าเฉลี่ยเรขาคณิต (Geometric average index) เป็นต้น ซึ่งยกตัวอย่างที่ง่าย ๆ ก็เห็นจะเป็นพวก S&P 500, FT 30, DJIA ครับ
- Precious metals
- Metals คือ พวกโลหะที่มีค่าทั้งหลายแหล่ครับ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ (XAUUSD) หรือพวกแร่เงิน ลิเทียมต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้มันยังรวมไปถึงพวกน้ำมันอีกด้วยนะครับ
- Energy
- กลุ่ม Energy จะเป็นพวก Gas หรือพวก LNG ครับ กลุ่มนี้จะมีความผันผวนสูงในช่วงฤดูหนาว
Leverage
การปรับ Leverage มีผลต่อการเทรดมากครับ เพราะยิ่งมี Leverage มากเท่าไหร่ การซื้อขายในปริมาณ Lot ใหญ่ ๆ จะทำได้มากขึ้นเท่านั้น คล้าย ๆ กับการยืมเงินคนอื่นมาลงทุนครับ ซึ่งแน่นอนว่ามันมีผลต่อ Margin ครับ
ทางโบรกเกอร์เขาจึงเสนอให้เทรดเดอร์เทรดด้วย Leverage ที่ต่ำเพื่อไม่ให้เป็นการ Overtrade ดังนั้น Leverage ที่ทางโบรกเกอร์ให้เราเลือกจึงอยู่ที่ 1:2 ถึง 1:4 ครับ (น้อยโคตร แบบนี้คนเทรดต้องทุนหนาจริง ๆ เท่านั้นจึงจะคุ้ม)
Spread และ Commission
เท่าที่หาข้อมูลมายังไม่พบการเปรียบเทียบค่า Spread และ ค่า Commission ที่ชัดเจนแบบโบรกเกอร์อื่น ๆ ครับ
ประเภทบัญชี
Webull เขามีบัญชีให้เทรดเดอร์เลือกใช้เพียงแค่ 2 ประเภทเท่านั้นได้แก่
- Cash Accounts
- Cash Accounts เป็นบัญชีเงินสดเป็นบัญชีซื้อขายปกติ และไม่อนุญาตให้เทรดเดอร์ใช้มาร์จิ้น (ใช้เงินสดเท่านั้นจ้า อารมณ์แบบเดียวกับการเทรดหุ้นเลยครับ)
- Margin Accounts
- Margin Accounts เป็นบัญชีมาร์จิ้นช่วยให้เทรดเดอร์สามารถยืมเงินเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีของตัวของเทรดเดอร์เองได้
ระบบ Copy Trade
เนื่องจาก Webull ค่อนข้างที่จะไปทาง Binary option ที่มี Forex เข้ามาเป็นส่วนเสริมจึงอาจจะยังไม่มีระบบการ Copy Trade หรือ Social trade ที่แน่ชัด
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
การซื้อขายไม่มีค่าธรรมเนียม | แพลตฟอร์มการเทรดยังใหม่ต่อเทรดเดอร์ทำให้อาจจะใช้ยากไปหน่อย |
สามารถใช้ Leverage 1:4 ได้ในขณะที่ eToro ให้เพียง 1:1 | หน้าเว็บไซต์สวยจริงแต่ใช้ยาก ข้อมูลบางอย่างไม่เปิดเผย |
โบนัสการลงทะเบียนที่ยอดเยี่ยมซึ่งรวมถึงหุ้นฟรีสูงสุดถึง $1,600 | ประเภทบัญชีถูกจำกัดไว้เฉพาะบุคคลเท่านั้น |
บัญชี Webull ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา |
สรุปความน่าใช้
ความน่าใช้งานของ Webull สำหรับผู้เขียนแล้วให้ไปที่ 5/10 คะแนนครับ เนื่องจากมันมีความใช้งานยากในตัวและมีแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งไม่เหมาะจริง ๆ กับมือใหม่ครับ นอกจากนี้ยังมีรีวิวในทางลบค่อนข้างที่จะเยอะเกี่ยวกับการถอนเงินครับ