พื้นฐานการใช้ Volume profile แบบจับมือทำ

รูปที่ 1 ตัวอย่างการแสดงผลของ Volume profile บนแพลตฟอร์ม Trading View

อินดิเคเตอร์ยอดนิยมของนักเทรดมืออาชีพขั้นกว่าของ อินดิเคเตอร์ Volume คือ Volume profile นั่นเองครับ และในวันนี้เราก็จะมาพูดถึงสุดยอดเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่ในช่วงนี้ถือว่าเป็นเครื่องยอดนิยมสุดฮิตในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ครับ ด้วยความสามารถในการบ่งบอกถึงปริมาณการซื้อขายของสินทรัพย์และสกุลเงินต่างๆได้แบบเรียลทาม ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเข้ามาช่วยให้ผู้เทรดตัวเล็กๆอย่างเราๆได้ทราบถึงการเคลื่อนไหวของยักษ์ใหญ่ในตลาดได้อย่างแม่นยำและนำไปสู่การทำกำไรได้อย่างถูกต้องนั่นเองแหละครับ


Volume profile คืออะไร

ก่อนที่ไปเริ่มต้นการใช้งานเราก็จะขอมาพูดถึง Volume profile คร่าวๆให้ได้ฟังก่อนกันครับ โดยที่อินดิเคเตอร์นี้มีประโยช์ในการช่วยให้เราสามารถทราบถึงข้อมูลปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นในตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ และด้วยการที่เราได้ทราบถึงปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นนั้นเราจึงสามารถอนุมานได้หลายๆอย่างได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เกิด Volume ที่มากผิดปกติเราก็สามารถคาดการ์ณและวิเคราะห์กันได้ต่อไปว่า ณ ขณะนั้นอาจจะมีการเทขายหรือเข้าซื้อในจำนวนมากและสิ่งที่ทำให้เกิดเหตุการ์ณเหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้ก็มักจะเกิดจากเจ้าใหญ่หรือยักษ์ใหญ่ของตลาดกำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่นั่นเองครับ

รูปที่ 1 ตัวอย่างการแสดงผลของ Volume profile บนแพลตฟอร์ม Trading View
รูปที่ 1 ตัวอย่างการแสดงผลของ Volume profile บนแพลตฟอร์ม Trading View

อย่างรูปภาพด้านบนก็จะเป็นตัวอย่างการแสดงผลของ Volume profile บนแพลตฟอร์ม Trading View นะครับ ซึ่งเพื่อนๆสามารถที่จะหาใช้งานกันได้ทั้ง Ninja Trader หรือ Metatrader 4/5 ก็มีให้ดาวน์โหลดเช่นกันครับ โดยผมจะทำการใช้อินดิเคเตอร์ผ่านทาง Trading View เหตุผลเพราะการทำงานของตัวอินดิเคเตอร์ค่อนข้างที่จะแม่นยำและใช้งานได้อิสระมากกว่า Metatrader 4/5 นั่นเองรวมไปถึงสามารถที่จะใช้งานในการอธิบายได้ค่อนข้างง่ายครับ…ทั้งนี้แน่นอนว่าอยู่ที่ความถนัดของแต่ละบุคคล ส่วนวิธีการใช้งานนั้นหากเข้าใจถึงหลักการก็สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกๆแพลตฟอร์มได้นั่นเอง

วิธีคำนวณ สูตร Volume profile

ปัจจุบันต้องตอบตามตรงว่ายังไม่สามารถทราบที่มาของสมการได้อย่างแท้จริงครับและไม่กล้ายืนยันว่าสมการที่ใช้จากแหล่งที่มาอื่นๆถูกต้องหรือเปล่าทั้งนี้หากมีการเปิดเผยสูตรและสมการจากผู้พัฒนาเมื่อไหร่ทางเราจะไม่พลาดนำมาอัพเดทให้เพื่อนๆได้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ

วิธีเรียกใช้งานและตั้งค่า Volume profile บน Trading View

ให้ทำการเปิดโปรแกรม Trading View ขึ้นมาครับหลังจากนั้นให้สังเกตุที่ช่องเครื่องมือตามตำแหน่งรูปภาพด้านล่างที่หมายเลขที่ 1 ครับให้ทำการคลิกเพื่อดูเครื่องมือเพิ่มเติมหลักจากนั้นให้เลือกเครื่องมือที่มีชื่อว่า Volume profile แบบ Fixed Range นะครับ

รูปที่ 2 วิธีเรียกใช้งาน VolumeProfile บน Trading View
รูปที่ 2 วิธีเรียกใช้งาน VolumeProfile บน Trading View

ต่อมาให้ทำการตั้งค่าข้อมูล(หมายเลข1) โดยจะทำการใช้ขนาดแถวอยู่ที่ 56 และ ปริมาณการซื้อขายบริเวณ Value Area เป็น 70 ครับหลังจากนั้นก็จะไปทำการตั้งค่าที่รูปแบบ(หมายเลข2) ให้ความกว่างของกล่องเป็น 45% ทั้งนี้สามารถปรับแต่งสีได้ตามใจชอบครับหลังจากนั้นก็ให้ทำการคลิก “ตกลง” เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

รูปที่ 3 วิธีเรียกตั้งค่าพารามิเตอร์ VolumeProfile บน Trading View
รูปที่ 3 วิธีเรียกตั้งค่าพารามิเตอร์ VolumeProfile บน Trading View

พื้นฐานการใช้ Volume profile ในการเทรด

ก่อนที่จะไปดูพื้นฐานการใช้งานผมก็ขอพูดถึงวิธีการใช้งานในภาพรวมให้ฟังกันก่อนนะครับโดยปกติแล้วอินดิเคเตอร์ VolumeProfile จะมีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลายครับรวมไปถึงวิธีการแสดงผลนั้นก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์มแต่ละเวอร์ชันของผู้พัฒนาแต่ละคน ซึ่งอินดิเคเตอร์ที่เรานำมาเสนอนี้ก็จะเป็นเวอร์ชันที่จะต้องทำการลากครอบกราฟเอาเองซึ่งจะไม่มีการแสดงผลเกิดขึ้นอัตโนมัติเหมือนอย่างอินดิเคเตอร์อื่นๆทั่วไปครับ

จึงทำให้การวิเคราห์ของเราขึ้นอยู่กับการเลือกช่วงเวลาในการวิเคราห์ด้วยนั้นเองครับจึงทำให้การใช้งานของเรามีความอิสระมากยิ่งขึ้นไปอีก และเมื่อเราทำการลากครอบช่วงเวลาที่ต้องการแล้วก็จะทำให้เรารับรู้ถึงปริมาณการซื้อขายที่แตกต่างกันไปในแต่ละสภาวะของตลาดครับ ซึ่งสามารถวิเราะห์ได้ตามลักษณะและรูปร่างที่เกิดขึ้นได้โดยพื้นฐานจะนิยมเรียกลักษณะที่เกิดขึ้นว่า D Profile , P Profile และ b Profile ทั้งนี้ผมก็จะขอธิบายงานการใช้งานในแต่ละลักษณะในหัวข้อถัดต่อจากนี้ครับ

ทำความรู้จักกับ POC และหลักการการใช้งาน

ก่อนจะไปรู้วิธีการใช้งานกันผมขอเสริมสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะมาพร้อมกับ VolumeProfile ทุกๆเวอร์ชันครับนั่นก็คือ POC หรือ ชื่อเต็มว่า Point of Control

รูปที่ 4 ตัวอย่างการแสดงผลของ POC หรือ Point of Control
รูปที่ 4 ตัวอย่างการแสดงผลของ POC หรือ Point of Control

POC หรือ Point of Control คือสิ่งที่แสดงถึงผลลัพธ์หรือแสดงตำแหน่งที่มีปริมาณการซื้อขายที่มากที่สุด โดยในที่นี้จะวัดจากการที่เราลากครอบอินดิเคเตอร์ในช่วงนั้นๆครับซึ่งสามารถอธิบายเพิ่มเติมได้ว่ามันเป็นการแสดง Action ของผู้เล่นรายใหญ่หรือเจ้าใหญ่ๆที่เข้ามามีบทบาทต่อกราฟราคา ณ ขณะนั้นนั่นหมายความว่าในตำแหน่งนั้น ทันทีที่กราฟไม่ว่าจะมีการขึ้นหรือลงก็มักจะมีการกลับตัวเข้ามาจุด POC ได้แบบบ่อยครั้ง…ถึงแม้บางครั้งจะใช้เวลานานหรือไม่กลับมาเลยก็ตามครับ(ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างในการวิเคราห์ด้วย)

วิธีการใช้งานเมื่อเกิด Volume ประเภท D Profile

รูปที่ 5 ตัวอย่างการแสดงผล Volume ประเภท D Profile
รูปที่ 5 ตัวอย่างการแสดงผล Volume ประเภท D Profile

หลังจากที่เราทำการครอบอินดิเคเตอร์แล้วเกิดรูปร่างการแสดงผลคล้ายกับตัว D ตัวรูปภาพที่เกิดขึ้นด้านบนโดยส่วนมาก Volume ประเภท D Profile มักจะเกิดขึ้นในสภาวะ Side Way เป็นส่วนใหญ่ครับโดยวิธีการใช้งานนั้นค่อนข้างง่ายคือให้ทำการสังเกตกระจุกบนและล่างที่ได้ทำการขีดเส้นประไว้ โดยที่จุดๆนั้นเราสามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านในการเข้าเทรดได้อย่างง่าย รวมไปถึงจุด POC ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราอาจจะใช้เป็นแรวรับ/ต้าน(ย่อย)อีกจุดในการเข้าเทรดได้เช่นกัน

วิธีการใช้งานเมื่อเกิด Volume ประเภท P Profile

รูปที่ 6 ตัวอย่างการแสดงผล Volume ประเภท P Profile
รูปที่ 6 ตัวอย่างการแสดงผล Volume ประเภท P Profile

ต่อมาก็เป็น Volume ประเภท P Profile โดยรูปร่างที่เกิดขึ้นนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับตัว P ซึ่งสามารถที่จะเข้าเทรดได้โดยใช้ POC เป็นแนวต้าน ในจุดแรก และจุดที่สองก็จะใช้ Volume ที่มีกระจุกตัวมากตรงตำแหน่งขาตัว P เป็นแนวรับ โดยส่วนมากเราจะใช้เทคนิคนี้ในการเข้าออเดอร์ในขาย Buy นั้นเอง ….หรือจะทำการ Sell ตรงแนวต้าน (POC) ก็ได้เช่นกันขึ้นอยู่กับเทคนิคแต่ละคนครับ

วิธีการใช้งานเมื่อเกิด Volume ประเภท b Profile

รูปที่ 7 ตัวอย่างการแสดงผล Volume ประเภท b Profile
รูปที่ 7 ตัวอย่างการแสดงผล Volume ประเภท b Profile

และสุดท้ายคือ Volume ประเภท b Profile รูปร่างที่เกิดขึ้นนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับตัว b และแน่นอนว่าวิธีการใช้งานนั้นจะตรงข้ามกับ P Profile โดยสามารถที่จะตั้งแนวรับได้ที่จุด POC และทำการตั้งแนวต้านไว้ที่กระจุกที่มีการเกิด Volume ที่หัวตัว b และแน่นอนว่าโดยส่วนมากคนจะนิยมใช้ในเข้าออเดอร์ในขา Sell ….หรือจะทำการ Buy ตรงแนวรับอย่าง (POC) ก็ได้เช่นกันครับ ทั้งนี้แน่นอนว่าเราสามารถกำหนดจุดแนวรับ/ต้านได้มากกว่า 1 จุดโดยให้ทำการสังเกตการกระจุกตัวของ Volume นั่นเอง

ข้อควรระวังในการใช้

  • การใช้งานเหมาะสำหรับคนที่พอมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดูแนวรับแนวต้านมาบ้างแล้ว
  • ลักษณะของ D , P และ B นั้นเป็นเพียงตัวอย่างการใช้งานได้ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า POC ในแต่ลักษณะจะเป็นแนวรับหรือแนวต้านอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่สามารถเป็นได้ทั้งสองทั้งนี้ต้องดูจากพฤติกรรมของกราฟเป็นสำคัญ

สรุป

Volume profile คืออินดิเคเตอร์ชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการบ่งบอกถึงปริมาณการซื้อและขายของสินทรัพย์และสกุลเงินต่างๆบนตลาดทำให้สามารถคาดการ์ณเกี่ยวกับการกระทำที่เกิดขึ้นของผู้เล่นรายใหญ่ที่เข้ามาทำการเทรดจึงสามารถนำไปวิเคราห์เหตุการ์ณและทิศทางของราคาในอนาคตได้อย่างสมเหตุสมผล ดังนั้นแล้วจึงเป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์นี่ผู้คนนิยมใช้และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้ใช้ควรมีพื้นฐานสำคัญในการสังเกตแนวรับแนวต้านด้วยจึงจะทำให้การใช้งานอินดิเคเตอร์นั่นก่อเกิดประโยชน์ได้สูงสุด

อ้างอิง

https://forexthai.in.th/volume-profile/