ทำไมต้องมี trapped traders ที่จะเปิดเทรดด้วยจึงดี
Trapped traders ถือว่าเป็นแหล่ง market orders หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ราคาไปทางใดทางหนึ่งเพราะเทรดเดอร์พวกนี้จำต้องทำอะไรด้วยเงื่อนไขตลาดที่เปลี่ยนไปตอนนั้นๆ จึงมักจะอยู่ในส่วนสำคัญของแผนการณ์ดันราคาของขาใหญ่เสมอเลยกลายเป็น trapped traders เพราะขาใหญ่ต้องการ liquidity จากพวกนี้ด้วยเงื่อนไขที่ง่ายแค่ดันราคาไปส่วนที่ทำให้เทรดเดอร์พวกนี้เดือดร้อน market orders ก็สามารถคาดหวังได้เลย
ไม่ว่าจะเป็น Stop hunting, หรือ False Breakout หรืออีกอย่างที่เรียกว่า Stop Cascade คือการที่ stop loss ทำให้แตะ stop loss อีกตัวไปอีกขณะที่ market orders เกิด limit orders ที่ไม่เพียงพอ ณ ราคานั้นๆ หลักการทำงานของตลาดราคาจะไปต่อก็ต่อเมื่อตราบใดที่ market orders ยังเกิน limit orders ฝั่งตรงข้ามที่ราคานั้นๆ ที่ market orders ไปถึงถ้า Limit orders ไม่พอกับ maket orders ที่เข้าไปราคาก็จะไปหา liquidity หรือ Limit orders ที่ราคาต่อไป
เมื่อเทรดเดอร์เปิดเทรดตามที่คาดว่าราคาจะไปทางใดทางหนึ่ง แต่ราคาไม่ได้ไปทางนั้นแต่ตรงกันข้ามราคาวิ่งสวนทางที่พวกเขาเทรด แต่พวกเขายังคงเชื่อว่าราคายังจะกลับมาทางที่พวกเขาเปิดเทรด สถานการณ์แบบนี้เทรดเดอร์พวกนี้เรียกว่า trapped traders เพราะติดอยู่ใน positions ที่กำลังเสีย โดยส่วนมากเทรดเดอร์พวกนี้จะไม่ตั้ง stop loss เพราะพวกเขาเทรดด้วยความั่นใจว่าตลาดจะไม่วิ่งสวนพวกเขา มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เทรดเดอร์พวกนี้ปิด positions ได้คือ เมื่อมีเหตุการณ์ (ข้อมูลหรือ price structure ที่เปลี่ยนไป) ที่ทำให้พวกเขาเชื่อว่าตลาดจะไม่มาทางที่พวกเขาเข้าเทรด พวกเขาค่อยจะออกเทรด เหตุการณ์ที่ว่าทำให้พวกเขาจำต้องออกหรือ liquidate เทรดที่กำลังเสียงอยู่เพื่อจำกัดความเสี่ยง
trapped traders
หางบาร์หรือ wicks มีส่วนช่วยหา trapped traders เกิดได้ 2 กรณีคือจากการปิดกำไรของขาใหญ่และการทำ false breakout หรือ stop run พื้นที่ที่เกิดเพื่อเรียกใช้ liquidity ที่เกิดจาก stop orders เพื่อการเข้าเทรดของขาใหญ่ จาก ลูกศรที่ชี้ 1 และ 2 ที่เป็นหางบาร์ยาวๆ จะบอกถึงพฤติกรรมเทรดเดอร์ที่มักจะมีการเปิดเทรดเยอะเมื่อเห็นบาร์ยาวๆ เคลื่อนไปทางใดทางหนึ่งแล้วก็จะเทรดตามนั้น เลข 1 เป็นหางบาร์หรือ wick ที่เป็นผลจากการปิดทำกำไรของขาใหญ่เป็นหลักไม่ใช่การเข้าเทรด ส่วนที่เลข 2 เป็นหางบาร์ที่เกิดจากการเข้าเทรดที่ทำให้เกิด trapped traders ที่กล่าวในที่นี้ จากเลข 1 ถ้าท่านเข้าเทรด short positions ตามเทรน หลังจากราคาเบรคลงมา แต่สุดท้ายราคาก็ลงไปต่อทางที่ท่านเทรดเมื่อถือรอท่านเป็นแค่ trapped trader ระยะสั้นสุดท้ายก็กลับมาเป็นทำกำไร แต่ที่เลข 2 ต่างกัน trapped traders ที่เข้าเทรด short positions ตรงนี้ราคาไม่ได้ลงไปต่อราคาดันขึ้นมาจะเห็นจุดที่ trapped traders ที่เลข 2 พวกนี้เดือดร้อนที่กรอบสีแดงราคาไม่ลงไปต่อ วิ่งอยู่ในกรอบได้ 3 บาร์ไม่ลงไปเลย นี่คือเหตุการณ์ที่ทำให้พวก trapped traders พวกนี้เชื่อว่าถ้าราคาเบรครอบนี้อีกกรอบราคาจะขึ้นไปอีก จะเห็นว่าเมื่อราคาเบรคแล้วมี 3 บาร์ที่ตามมาจะขึ้นเป็นหลักเพราะ buy market orders ที่มาจาก trapped traders พวกนั้นและอีกกลุ่มที่เทรดตามเทรนและ breakout traders
ดังนั้น wick หรือหางบาร์ที่เกิดหลังบาร์ยาวๆ แล้วกลายเป็น pin bar หรือ engulfing bar เมื่อมองใน timeframe เล็กลงไป ที่เราสนใจเรื่อง trapped traders ในที่นี้เพราะเมื่อหาว่า trapped traders อยู่ตรงไหน และเทรดตามขาใหญ่เป็น ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยกรอง trade setup เราได้เยอะ
ทำไมให้ความสำคัญกับ trapped traders
เพราะว่าราคาขึ้นหรือลงเพราะ market orders ที่เกิด limit orders ที่ราคานั้นๆ แต่ market orders ไม่ได้มาจากการเปิดเทรดเพื่อเข้าตลาดอย่างเดียว แต่ market orders มาจากการปิด positions ที่อยู่ในตลาดเพื่อออกด้วย เช่น ท่านเปิด เทรด buy ก็กลายเป็น Long position เช่น EURUSD ที่ 1.12000 ราคาขึ้นไป 1.12500 เป็นจุดที่ตั้ง take profit หรือปิดเองก็ได้ คำสั่งที่ท่านปิดเพื่อทำกำไรและออกจากตลาดคือคำสั่ง Sell market order ที่ราคาที่ท่านปิด ในทางกลับกันถ้าราคาลงไปสวนทางที่ท่านเปิดเทรด 1.11500 เจอ stop loss หรือปิดเสียเองที่ตรงนั้น ประเด็นสำหรับ trapped traders คือเมื่อราคาวิ่งสวนทางที่ท่านเปิดกรณีนี้จึงต้องปิดเพื่อจำกัดความเสี่ยง ดังนั้นพื้นที่ที่มี trapped traders มักจะเป็นเป้าของขาใหญ่เพราะพวกเขาคาดหวัง market orders ที่ต้องเกิดตรงนั้นได้เลย
อีกอย่างที่น่าสนใจพื้นที่ก่อนที่จะเห็น wick หรือหางบาร์ที่เปิดเผยว่า trapped traders ที่ขาใหญ่จะใช้ประโยนช์จาก Liquidation orders ที่จำต้องเกิดขึ้น มักจะเป็นพื้นที่ที่มีการสะสม positions เสมอ เพราะสะสมหรือ accumulation เกิดขึ้นช่วงที่ตลาดทำ consolidation หรือวิ่งอยู่ในกรอบ ยิ่งถ้าเป็นช่วง consolidation ของ timeframe ใหญ่เช่น H4 D1 หรือ W1 ก็บอกนัยว่ามี trapped traders เยอะโอกาสที่ market orders ที่ตามมาก็เยอะ หางบาร์ที่เกิดเป็นส่วนประกอบของ false breakout ก็บอกให้เรารู้ว่าขาใหญ่จะเทรดทางไหน ทำให้มองออกว่าเทรดเดอร์ที่ถือ long หรือ short positions ทางไหนจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนที่จำต้องออกจากตลาดเพื่อจำกัดความเสี่ยง
จะเห็นว่า trade setup ที่ราคาวิ่งไปทางนั้นเป็นหลักมักจะมี trapped traders ประกอบอยู่ในโครงสร้างเสมอ ยิ่งเป็น trapped traders ที่มาจาก timeframe ใหญ่ก็จะยิ่งดี
ทีมงาน : thaiforexbroker.com