Stop Hunting สิ่งที่ต้องเจอ
เมื่อท่านผ่านการเทรดมาสักระยะท่านอาจจะได้ยินคำว่า stop hunt ล่าstops ของโบรกบ้างของรายใหญ่บ้างซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะถ้าท่านเข้าใจการทำงานออเดอร์ประเภทStop ordersท่านจะรู้ว่ามันจำเป็นและเป็นประเภทออเดอร์ที่สามารถบังคับให้เกิดได้ถ้าท่านสามารถสร้างเงื่อนไขที่ทำให้ราคาวิ่งไปถึงจุดตั้งStop ordersพวกนี้ได้
ประเภทออเดอร์มีmarket orders,limit orders,และstop ordersถ้าเป็นคำสั่งในmetatrader4พวก Limit ordersก็คือpending ordersมีsell limitและbuy limitถ้าเป็นstop ordersก็จะเป็นstop lossและbuy stop/sell stop.หลักการออเดอร์ ออเดอร์ประกอบด้วยจำนวนเทรดหรือวอลลูมที่ราคานั้นๆเปิดเทรดหรือจัดการโดยเทรดเดอร์ถ้าเป็นlimit ordersก็จะเพิ่มliquidityเข้าไปราคานั้นๆmarket ordersที่เปิดเทรดราคาmarket price(best bid/best ask)ลดliquidityออกจากตลาด
ส่วนstop ordersนั้นทำ2อย่างพร้อมกันเพราะเมื่อstop ordersทำงานออเดอร์ก็นี้ก็จะกลายเป็น market orders ดังนั้นจึงบอกได้ว่าราคาเปลี่ยนแปลงเพราะออเดอร์เป็นตัวกำหนด ไม่ใช่เพราะ demand/supply,support/resistanceหรือtechnical analysisอื่นๆแต่จุดพวกนี้เป็นจุดที่ดึงliquidityเข้าตลาด การเปิดออเดอร์(placing trades)หรือจัดการหรือออกเช่นtaking profit/stop lossก็เลยเกิดขึ้นบนพื้นพวกนี้โดยปริยายขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทำให้เทรดเดอร์เปิดเทรด หรือจัดการออเดอร์ต่างกันไป
ต้องไม่ลืมว่าlimit ordersและmarket ordersมีผลต่อliquidityอย่างไรและstop ordersก็จะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีliquidityเยอะๆเช่นsupply/demand,support/resistance,round numbers,fibo retracements, จุดwaveเป็นต้นแล้วแต่วิธีการของtechnical analysis
ส่วนstop ordersนั้นมีที่มาจาก2ส่วน คือส่วนที่รอเข้าตลาดคือsell stopและbuy stopและออเดอร์ที่เกิดจากtradersที่เปิดออเดอร์ที่อยู่ในตลาดต้องการจะออกจากตลาดถ้าเป็นการออกกำไรก็จะเป็นtake profit และถ้าสูญเสียก็เป็นstop lossตรงส่วนเรื่องstop huntนั้นจะเน้นเรื่องstop lossเป็นหลักเพราะกลุ่มหลังจะโดนบังคับต้องจำกัดความเสี่ยงเลยไม่มีทางเลือก
อย่างแรกเมื่อเข้าใจการทำงานของ stop orders ทำงานอย่างไร นั่นคือ stop orders สามารถทำให้เกิด market orders ไป fill กับ limit orders ได้อย่างง่าย ทำให้เทรดเดอร์ที่ตั้ง limit order มั่นใจได้ว่าออเดอร์ของพวกเราจะได้เข้าตลาดและได้ราคาที่ดี แถม market orders ที่เข้ามามาจากประเภท บังคับทำงาน เช่น
ชาร์ตราคาลงมา ยืนยัน supply 1 และ supply 2 แล้วราคาเด้งกลับขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้ราคาล่าสุดอยู่ในกรอบสีแดงเลข 2 ไม่ไปไหนหลังจาก sideway มาสักระยะเป็นหลัก ตรงพื่นที่ sideway เลข 1 ก็จะมี open positions ทั้ง buy และ sell อยู่ในตลาด ความรู้ทั่วไปในการเทรดคือ จากจุดนี้ถ้าท่านเข้าใจตลาดและออเดอร์ทำงานอย่างไรและเทรดเดอร์ เทรดอย่างไร ท่านก็จะวิเคราะห์ได้ว่า
1. ถ้าเป็นพวกที่เปิดออเดอร์อยู่แล้วและติดลบ ก็จะตั้ง stop loss บนหรือล่างกรอบ อาจเป็นจุด high/low หรือนับ pips ก็ได้
2. ถ้าพวกที่รอเทรด breakout/breakdown เทรดเดอร์พวกนี้ก็จะ ตั้ง buy stop หรือ sell stops บนหรือล่างกรอบราคา สิ่งที่คนทั้ง 2 กลุ่มนี้ทำคือ ตั้ง stop orders ถ้าขาใหญ่จะเข้าเทรดบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่า liquidity จะพอเข้าเมื่อ sell หรือเปล่า เพราะด้วยที่เป็นขาใหญ่และเทรดด้วยจำนวนเยอะเลยต้องการออเดอร์ฝั่งตรงข้ามที่เยอะพอที่จะ fill sell orders ของพวกเขาแต่ที่พวกเขาเห็นแน่ๆ คือมี stop orders ที่อยู่เหนือและล่างกรอบ เขาต้องการจะ sell ก่อน เลยต้องไปโฟกัสที่ buy stops ถ้าพวกเขาสามารถดันราคาไปบนเพื่อให้ stops เหล่านี้ทำงาน buy market orders พวกนี้ก็จะเกิดขึ้นทันที พวกขาใหญ่ก็เลยไปวาง sell limit ไว้ด้านบนแถวพื้นที่ supply 1 ตรงจุดนี้อาจจะมองเป็นการปั่นราคา (price manipulation) ถ้าไม่เข้าใจเรื่องของออเดอร์ และการใช้จุดอ่อนของฝั่งตรงข้ามเพื่อเข้าเทรดตำแหน่งที่ดีกว่า
ผลที่ได้จากการทำให้ buy stops ทำงาน คือ
1. ขาใหญ่มั่นใจว่ามีออเดอร์ไปหา sell limit พวกเขา
2. ด้วย buy market orders พวกนี้มาจาก stops ออเดอรที่โดนเงื่อนไขบังคับเปิด ส่วนมากจะเป็นจุดที่ราคาสูงไปหรือต่ำไป
3. จำนวนLiquidityจำกัดเพราะmarket ordersพวกนี้มาจากการออกตลาดไม่ใช่เข้าตลาดความต่อเนื่องของออเดอร์เลยไม่ต่อเนื่องพอliquidityไม่มากพอก็จะทำให้sell market orders(หลังจากออเดอร์ที่พวกเขาfilledไปแล้ว)ทำให้ราคาลงง่ายผลที่เกิดคือขาใหญ่ได้จุดเข้าราคาที่ดีและราคาลงได้เร็วและง่ายพอลงมาราคาก็มาแตะ sell stopsที่ตั้งต่ำกว่าราคากรอบล่างก็จะปิดโอกาสให้ขาใหญ่ปิดทำกำไรsell positonsด้านบนบางส่วนได้ จนกว่ามีร่อยรอยว่าเปิดsellอีกรอบที่2บาร์สุดท้ายกรอบเลข4ราคาปิดต่ำกว่ากรอบเลข4 พวกขาใหญ่ก็ใช้ประโยชน์stopด้านล่างของกรอบเลข4 และจากกรอบเลข 2 อีกเลยทำให้ราคาลงได้ง่ายใต้เส้นเลข 5
Stop orders เป็นจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่จำเป็นต้องมีเสมอ เพราะมีส่วนช่วยในการปกปิดการเทรดด้วยจำนวนเยอะๆ ของขาใหญ่ เพราะการเทรดด้วยจำนวนที่เยอะแต่ถ้าจำนวนออเดอร์ตรงข้ามไม่พอ ราคาก็จะวิ่งไปหา liquidity ที่ราคาจุดถัดไปจะทำให้เกิด slippage (จุดคลาดเคลื่อนที่ต้องการเข้ากับจุดที่การเทรดเปิดให้) ก็จะทำให้การจัดการยากขึ้นไปด้วย
ทีมงาน : thaiforexbroker.com