วิธีใช้ Stochastic Oscillator ให้แม่นยำ เทรดตามโมเมนตัมตลาด

Stochastic Oscillator เป็นอินดิเคเตอร์ที่อยู่คู่กับตลาดการเงินการลงทุนมานาน และปัจจุบันก็มีให้ใช้ในโปรแกรมเทรดไม่ว่าจะเป็น MT4, MT5 และ Tradingview ผมจึงอยากพามาเจาะลึกเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ตัวนี้ ในมุมของการใช้งานอย่างไรให้มีความแม่นยำมากขึ้น


Highlight บทคัดย่อ

  • Stochastic Oscillator คิดค้น ในปี 1950
  • เป็นอินดิเคเตอร์ที่เหมาะกับการเทรดสั้น
  • สามารถใช้ดูโมเมนตัม คาดการณ์จุดกลับตัว และคอนเฟิร์มจุดเข้าเทรด
  • การเล่นร่วมกับ EMA  หรือ Key Level จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ

ประวัติ Stochastic Oscillator

  • Stochastic Oscillator คิดค้นโดย George Lane ในปี 1950

การทำงานของ Stochastic Oscillator 

  • Stochastic Oscillator เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้แสดงโมเมนตัมของตลาดในระยะสั้น
  • สามารถใช้ดูแรงซื้อแรงขาย 
  • ดูจุดที่ราคามีโอกาสที่จะเกิดการกลับตัวผ่านการเกิด Divergence

องค์ประกอบและสูตรการคำนวณของ Stochastic Oscillator 

ส่วนประกอบและสูตรคำนวณของ Stochastic Oscillator
ภาพอธิบายสูตรการคำนวณอินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator และองค์ประกอบ
  • เส้น %K = (ราคาปิดช่วงปัจจุบัน – ราคาต่ำสุดในช่วงที่คำนวณ) / (ราคาสูงสุดในช่วงที่คำนวณ – ราคาต่ำสุดในช่วงที่คำนวณ) x 100
  • เส้น %D = (เส้น SMA 3 วัน ของ %K)

โซน Overbought และ Oversold ของ Stochastic Oscillator 

  • โซน Overbought คือโซนที่มีค่ามากกว่า 80 เมื่อ %K และ %D วิ่งเข้าสู่โซนนี้ ในทางเทคนิคจะสะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีแรงซื้อเข้ามาเยอะ และมีโอกาสที่จะขึ้นต่อหรือกลับตัวลง
  • โซน Oversold คือโซนที่มีค่าน้อยกว่า 20 เมื่อ %K และ %D วิ่งเข้าสู่โซนนี้ ในทางเทคนิคจะสะท้อนให้เห็นว่าตลาดมีแรงขายเข้ามาเยอะ และมีโอกาสที่จะลงต่อหรือกลับตัวขึ้น

การเทรดด้วย Stochastic Oscillator 

การเทรดเบื้องต้น

การใช้สัญญาณ Buy จากโซน Oversold ของ Stochastic
ภาพวิธีการเทรด Buy โดยใช้ Stochastic Oscillator

 การเทรดขาขึ้น

  1. รอให้เส้น %K และ %D ลงไปอยู่ในโซน Oversold
  2. รอให้เส้น %K และ %D เกิดการตัดขึ้นจากโซน Oversold
  3. เปิด Buy
การใช้สัญญาณ Sell จากโซน Overbought ของ Stochastic
ภาพวิธีการเทรด Sell โดยใช้ Stochastic Oscillator

 การเทรดขาลง

  1. รอให้เส้น %K และ %D ลงไปอยู่ในโซน Overbought
  2. รอให้เส้น %K และ %D เกิดการตัดขึ้นจากโซน Oversold
  3. เปิด Sell

การเทรดโดยการดู Divergence

การใช้สัญญาณ Bullish Divergence ของ Stochastic เพื่อหาจุดซื้อ
ภาพวิธีการเทรด Buy โดยใช้ Stochastic Oscillator ในการหา Bullish Divergence

 การเทรดขาขึ้น

  1. รอ Stochastic เกิด Bullish Divergence ในโซน Oversold
  2. เปิด Buy
การใช้สัญญาณ Bearish Divergence ของ Stochastic เพื่อหาจุดขาย
ภาพวิธีการเทรด Sell โดยใช้ Stochastic Oscillator ในการหา Bearish Divergence

 การเทรดขาลง

  1. รอ Stochastic เกิด Bearish Divergence ในโซน Overbought
  2. เปิด Sell

ข้อดีข้อเสียของ Stochastic Oscillator 

ข้อดีและข้อเสียของอินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator
ภาพสรุปข้อดีและข้อเสียของ Stochastic Oscillator

ข้อดีของ Stochastic Oscillator 

  • จับจังหวะการเทรดในตลาด Side Way ได้ดี: ในตลาด Side Way ที่มีการแกว่งตัวในระยะสั้น Stochastic Oscillator สามารถจับจังหวะและให้สัญญาณเทรดได้บ่อยและมีประสิทธิภาพสูง
  • เหมาะกับการใช้เทรดในระยะสั้น: สำหรับสายเทรดสั้นทำรอบ Stochastic จะเป็นตัวให้จุดเข้าเทรดที่ดี เพราะให้สัญญาณบ่อยมากกว่าอินดิเคเตอร์ในประเภทเดียวกันตัวอื่น ๆ
  • สามารถใช้เป็นตัวคอนเฟิร์มการเทรดได้: Stochastic Oscillator สามารถใช้เป็นจุด Confirm การเทรดจากการตัดกันของเส้น %K และ %D ได้ ทำให้การเทรดมีจุดเข้าที่ชัดเจน

ข้อเสียของ Stochastic Oscillator 

  • มีสัญญาณหลอกเยอะ: หากตลาดเป็นเทรนด์ Stochastic จะให้สัญญาณหลอกที่มากผิดปกติ

เพิ่มความแม่นยำให้กับ Stochastic Oscillator 

หากได้ลองใช้งาน Stochastic Oscillator ก็จะรู้ได้เลยว่าอินดิเคเตอร์ตัวนี้ไม่เหมาะกับตลาดที่เป็นเทรนด์ เป็นสภาวะตลาดที่จะเจอกับ Draw Down ได้สูงมาก ๆ ครับ ผมจึงอยากมาแนะนำวิธีง่ายๆ ที่จะเพิ่มความแม่นยำให้กับ Stochastic ให้สามารถเล่นกับเทรนด์ได้

  • ใช้ Stochastic Oscillator กับ EMA 20, EMA 50 และ EMA  200

หลักการทำงาน

  • เราจะใช้ Stochastic Oscillator เป็นตัวคอนเฟิร์มการเทรดตามโมเมนตัมของเทรนด์
  • ใช้เส้น EMA 20  และ EMA 50 เป็นแนวรับและแนวต้านแบบ Dynamic
  • ใช้เส้น EMA 200 ในการดูแนวโน้มของตลาด

เมื่อมีหลักการเทรดดังนี้เราจะเทรดตามเทรนด์ และเราจะใช้สัญญาณการเทรดจาก Stochastic Oscillator แค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น ทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น ไปดูวิธีการเทรดกันเลยดีกว่าครับ

วิธีการเทรดขาขึ้น

ระบบเทรดขาขึ้นโดยใช้ Stochastic และ EMA
ภาพวิธีการใช้งาน Stochastic Oscillator ในการเทรดตามเทรนด์ขาขึ้นเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
  1. กราฟอยู่เหนือ EMA 200
  2. ราคาลงมาที่เส้น EMA 20 หรือ EMA 50 แต่ไม่ทะลุ EMA 200
  3. Stochastic Oscillator เกิดการตัดกันขึ้นที่โซน Oversold
  4. Stochastic Oscillator เริ่มมีค่ามากกว่า 20 (ออกจากโซน Oversold)
  5. ราคาสามารถวิ่งกลับไปยืนเหนือ EMA 20
  6. เปิด Buy
  7. ตั้ง Stop loss ที่ Swing Low ล่าสุด
  8. ตั้ง Take Profit 1:1.5

วิธีการเทรดขาขึ้น

 ระบบเทรดขาลงโดยใช้ Stochastic และ EMA
ภาพวิธีการใช้งาน Stochastic Oscillator ในการเทรดตามเทรนด์ขาลงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
  1. กราฟอยู่เหนือ EMA 200
  2. ราคาขึ้นมาที่เส้น EMA 20 หรือ EMA 50 แต่ไม่ทะลุ EMA 200
  3. Stochastic Oscillator เกิดการตัดกันลงที่โซน Overbought
  4. Stochastic Oscillator เริ่มมีค่าน้อยกว่า 80 (ออกจากโซน Overbought)
  5. ราคาสามารถวิ่งกลับลงไปต่ำกว่า EMA 20
  6. เปิด Sell
  7. ตั้ง Stop loss ที่ Swing High ล่าสุด
  8. ตั้ง Take Profit 1:1.5

หากเส้น EMA ไม่เรียงตัวกัน ไม่เข้าเทรด ถือว่าตลาดอยู่ในช่วง Side Way

และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ในการนำอินดิเคเตอร์อย่าง Stochastic Oscillator มาเพิ่มความแม่นยำในการเทรดให้มากขึ้นครับ ถ้าหากนำไปใช้แล้วได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจสามารถลองปรับค่า EMA 3 เส้น ใหม่ได้ เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมราคาของสินทรัพย์ที่เทรด นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกเช่น การเล่นร่วมกับ แนวรับแนวต้าน ที่เป็น Key Level  โดยใช้ Divergence ในการเทรด เป็นต้น


คลิปวีดีโออธิบายเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator

 

เพิ่มความเข้าใจผมจึงได้นำคลิปวีดีโอสั้นๆอธิบายเกี่ยวกับ Stochastic Oscillator มาให้ดูกัน

  • Focus นาทีที่ 0.33 เปรียบเทียบระหว่าง Stochastic กับ RSI 
  • Focus นาทีที่ 1.54 ข้อผิดพลาดในการใช้งาน Stochastic 
  • Focus นาทีที่ 2.59 เทคนิคการเทรด Stochastic กับ EMA 200 

สรุป

Stochastic Oscillator คิดค้นโดย George Lane ในปี 1950 เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการดูโมเมนตัมของตลาดในระยะสั้น นอกจากนี้ยังใช้ในการดูแรงซื้อแรงขาย และยังใช้ในการคอนเฟิร์มการเทรดได้อีกด้วยครับ

Stochastic จะเหมาะกับการเทรดตลาด Side Way แต่ในตลาดที่เป็นเทรนด์ระยะยาวไม่ว่าจะเป็นเทรนขาขึ้นหรือเทรนขาลง อินดิเคเตอร์ตัวนี้ต้องใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ตัวอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรด อย่างเช่น การใช้กับ EMA 200 ในการเทรดตามเทรนด์ หรือ เล่นกับ Key Level ในการหาจังหวะการเทรดกับตัวจากการดู Divergence เป็นต้น

ทีมงาน: thaiforexbroker.com

สารบัญบทความ