มุมมองรายย่อยกับขาใหญ่
มุมมองหรือการวิเคระห์ชาร์ตเพื่อหาจุดเข้าเทรดหรืออกจากเทรดเป็นผลมาจากการนำความรู้ ความเข้าใจตลาด เรื่องแรกเลยที่เห็นง่ายที่สุด อย่างเช่นการเปิดเทรดเพื่อเข้าตลาด มุมมองจากรายย่อย เนื่องรายย่อยเปิดเทรดด้วยจำนวนวอลลูมน้อย ถ้าไม่ได้พยายามศึกษาตลาดอย่างจริงจัง เพื่อความรู้และเข้าใจจะไม่เห็นความสำคัญของคำว่า liquidity เท่าไร เพราะเนื่องด้วยล็อตที่เปิดเทรด เมื่อเทียบกับขาใหญ่เทรดแล้วห่างกันไม่รู้เท่าไร รายย่อยเปิดเทรดตอนไหนๆ ก็มีออเดอร์ฝั่งตรงข้ามเสมอไม่เกิด slippage (ราคาที่อยากเปิดเทรดกับราคาที่ fill ออเดอร์ไม่ได้คลาดเคลื่อน เปิดตรงไหนก็ได้ตรงนั้นส่วนมากยกเว้นมีข่าวแรงๆ ) แต่ในทางกลับกัน ขาใหญ่ พวกสถาบันการเงินหรือเฮดฟันด์ เทรดด้วยทุนไม่รู้กี่เท่าเมื่อเทียบกับรายย่อย และมีหลายๆ ขาใหญ่ การเปิดเทรดของพวกนี้อย่างแรกที่พวกเขาต้องการคือ ออเดอร์ตรงข้ามที่จะมา fill ออเดอร์พวกเขาที่ต้องการ พวกเขาเลยต้องการ liquidity ที่มากพอตรงพื้นที่ๆ พวกเขาเปิดเทรดเพื่อจะไม่เกิด slippage และเพื่อจัดการกำไรและความเสี่ยงได้ง่ายที่พื้นที่เดียวกันด้วย
จากมุมมองแรกด้านบน ท่านจะเห็นว่ารายย่อยก็จะหาโอกาสเปิดเทรดเมื่อเห็นราคาขยับหรือ price action signal ประกอบเพราะต้องการเทรดตามเทรนหรือตาม trade setup ที่พวกเขากำหนด เพราะพวกรายย่อยไม่ต้องมากังวลออเดอร์ตรงข้ามว่ามากพอเปล่า แต่ตรงข้ามกันสำหรับขาใหญ่ สิ่งแรกที่ขาใหญ่ที่ต้องการเมื่อจะเปิดเทรด ถ้ามองจากมุมเข้าเทรด อย่างแรกที่พวกเขาต้องการ ตรงจุดไหนที่จะมีออเดอร์ฝั่งตรงข้ามมากพอ และเพราะด้วยจำนวนวอลลูมที่ขาใหญ่เทรด เมื่อขาใหญ่เข้าเทรดมักจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวราคาแรงๆ ไปทางใดทางหนึ่งได้ หรือหยุดย่อตัวเมื่อขาใหญ่ปิดทำกำไรจากเทรนที่ราคาวิ่งมาแรงๆ ได้ สิ่งพวกนี้คือจุดที่ขาใหญ่ตัดสินใจพวกนี้ก็มักจะกลายเป็นจุดอ้างอิงหรือ supply/demand หรือ support/resistance ในการวิเคระห์ของรายย่อย
อย่างการเปิด sell ที่กรอบเลข 1 จึงเห็นปกติที่จะเห็นว่าทำไมมีการเปิดเทรดแบบนี้ได้ เพราะขาใหญ่เข้าเทรดนั่นเอง เทรดเดอร์ที่กล้า sell ตอนเทรนกำลังขึ้นแบบนี้มีแต่ขาใหญ่เท่านั้น หรือเปิด buy ที่กรอบเลข 4 เพราะเป็นพี้นที่ๆ ขาใหญ่มั่นใจว่ามีออเดอร์ตรงข้ามมากพอ จุดพวกนี้เวลาดูต้องดูปริบทประกอบว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าออเดอร์ตรงข้ามมากพอที่ขาใหญ่ต้องการ
การเทรดประกอบด้วยเทรดเดอร์หลายๆ ประเภท หลายกลยุทธ์การเทรดต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งไม่อาจปกปิดได้ คือ price structure ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของเทรดเดอร์ต่างๆ พวกนี้ อย่างแนวรับแนวต้านเป็นตัวอย่างที่ดีที่สะท้อนว่า เทรดเดอร์ต่างๆ มองอย่างไร อย่างแรกเลยเป็นจุดดึงดูดทั้งรายย่อย ขาใหญ่และเทรดเดอร์ประเภทอื่นๆ ความรู้การเทรดจุดพวกนี้แต่ละกลยุทธ์
เริ่มที่ key change 1 ผลจากที่ขาใหญ่เข้าเทรด จะเห็นว่าราคาเบรค supply ตรงข้ามและขึ้นอย่างเดียว จุดนี้ทำให้รายย่อยมองหาโอกาสบายเป็นหลัก เทรดเดอรต่างประเภทก็ต่างกันออกไป เป็นรายย่อยบางกลุ่มก็จะใช้ Fibonacci Retracement มุมมองแรกของขาใหญ่ที่ต้องการคือหลังจากเปิด buy ที่ทำให้เกิด key change 1 อยากให้มีเทรดเดอร์เปิดตาม เพราะการเปิดตามทิศทางที่พวกเขาเทรดเปิดโอกาสให้พวกเขาปิดกำไรสะสมได้ แล้วราคาย่อตัวมาที่ buy 1 เป็นจุดที่รายย่อยเริ่มมองหาโอกาสเปิดเทรดเพราะร่องรอยเปิดเผย – รายย่อยต้องการหาร่อยรอยเพื่อเทรดตามขาใหญ่ และขาใหญ่ต้องการให้รายย่อยเปิดตามทิศทางที่พวกเขาเข้าเทรดด้านล่างเพื่อจะทำกำไรมากขึ้น – ไม่จะเข้าเทรดหรือออกจากตลาด เพราะขาใหญ่เทรดด้วยวอลลูมที่เยอะพวกเขาจึงต้องการออเดอร์ตรงข้ามที่เยอะพอที่พวกเขาจะทำอะไรได้ อย่างที่เกิดขึ้นช่วงแรก take-profit ที่ทำได้เพราะ buy orders ที่มาจากรายย่อยและมาจาก stop loss ของพวกเทรดเดอร์เปิด sell ในพื้นที่ทางช้ายมือ
จาก key change 1 ที่เกิดขึ้นเพียงพอที่จะเปลี่ยนข้อมูล buy 1 จากพวกที่เทรดตามเทรด พอราคาย่อตัวมาก็จะเปิดข้า และออเดอร์บางส่วนมาจากพวกที่เปิดเทรดสวนตอนที่ขาใหญ่ take-profit ต้องออกเมื่อราคาไม่ไปต่อ buy 2 เกิดเพราะ ราคาไปแต่ออเดอร์ของรายย่อยที่เทรดแบบ breakout traders และ stop loss ของพวกเทรดเดอร์ที่เปิดสวนเทรด สุดท้ายไปทำ higher high อีกรอบ รายย่อยก็มองแต่จะหาโอกาส buy ถ้าไม่เปิดเดี๋ยวพลาดเดี๋ยวตกรถ buy 3 ก็แบบเดียวกับ buy 1 และบาย 4 ก็แบบเดียวกันกับ buy 2 – ตั้งแต่ buy 1 ถึงกรอบที่ขาใหญ่เข้าเปิด sell ที่เลข 1 มีแต่กระตุ้นให้รายย่อยเข้าเทรด ขาใหญ่จะไม่เทรดแบบนี้ ยกเว้นตรงต้นตออย่างเดียว เพราะออเดอร์ฝั่งตรงข้ามไม่พอ แต่พอขาใหญ่เปิด sell ที่กรอบเลข 1 เห็นที่มาหรือเปล่า โครงสร้างที่เกิดขึ้นทำให้รายย่อยมีแต่อยากเปิด buy แต่ในทางตรงข้ามกับมุมมที่ขาใหญ่เห็น นึ่คือแหล่งที่มาของออเดอร์ฝั่งตรงข้ามที่จะมากพอเมื่อพวกเขาเปิด sell ที่ราคาวิ่งมาหาจุดที่พวกเขาต้องการ ด้วยจำนวนวอลลูมที่พวกเขาต้องการได้ และลองมองดูดีๆ การเปิด sell ทั้ง 3 กรอบที่เลข 1 และ 2 จะเป็นพื้นที่เดียวกัน และที่เลข 3 ก็ห่างลงมานิดหน่อย ราคาอาจไม่ลงแรงในตัวอย่างนี้แต่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าขาใหญ่มองอย่างไร รายย่อยมองอย่างไรแล้วจึงเทรด
ทีมงาน : thaiforexbroker.com