รีวิวโบรกเกอร์ RoboForex ดีไหม ในปี 2025? รีวิวฉบับเจาะลึก

สรุปคะแนน RoboForex

ความน่าเชื่อถือ
37%
ค่าบริการ
80%
การฝากถอน
64%
คุณภาพการบริการ
79%
ประสบการณ์เทรด
27%
ความง่ายในการใช้งาน
40%

5.44 / 10

วันนี้เราจะมาพูดถึง RoboForex ที่เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex และสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆมากมาย มาอย่างยาวนาน มีจุดเด่นหลายประการด้วยกันที่ทำให้นักเทรดให้ความสนใจ

มาดูกันครับว่าโบรกเกอร์นี้มีข้อมูลสำคัญอะไรบ้างและน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน เหมาะสำหรับใคร เราไปดูผ่านผลการทดลองใช้งานจริงกันได้เลยครับ

เปิดบัญชีเทรด RoboForex

สรุปภาพรวม RoboForex คือใคร ?

  • ปีก่อตั้ง: 2009
  • สำนักงานใหญ่: Belize
    • ที่อยู่: 2118 Guava Street, Belama Phase 1, Belize City, Belize
    • หมายเหตุ: ไม่มีข้อมูลสำนักงานบน Google Maps (หากค้นหาอาจพบว่าสำนักงานอยู่ในไทย)
  • เป็นที่นิยมในกลุ่มนักเทรดสั้น (Scalping, Day Trading)
  • มีบัญชี Cent เหมาะสำหรับมือใหม่
  • เว็บไซต์และระบบลูกค้าใช้งานยาก UI/UX ไม่เป็นมิตร
  • มีใบอนุญาตจาก FSC Belize เท่านั้น
  • สถานะใบอนุญาตเป็น Inactive
  • เป็นสมาชิกของ The Financial Commission
  • ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำเช่น FCA หรือ ASIC
  • มี 5 ประเภทบัญชี: Prime, ECN, ProCent, Pro, R StocksTrader
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
  • Spread + Commission ต่ำมาก โดยเฉพาะบัญชี Prime และ ECN
  • รองรับการฝากผ่านธนาคารไทย, คริปโต และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
  • ฝากขั้นต่ำ 350 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมฝาก
  • ถอนขั้นต่ำ 9.66 USD มีค่าธรรมเนียมถอนประมาณ 1.62-4%
  • เรทฝาก-ถอนแพง คิดค่าคอมมิชชั่นรวมประมาณ 3.17%
  • รองรับทั้ง MT4 และ MT5
  • มีแอป MobileTrader และ R Stock Trader

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทบัญชี ค่าธรรมเนียม และโปรโมชั่นของ RoboForex สามารถติดตามต่อในบทความนี้ได้เลยครับ

ความน่าเชื่อถือของ RoboForex

การกำกับดูแลของโบรกเกอร์ Roboforex
รูปที่ 1 ใบอนุญาตและการกำกับดูแลของโบรกเกอร์ Roboforex
  1. มีใบอนุญาตจาก FSC Belize
    • Financial Services Commission (FSC) ของเบลีซ
    • ข้อสังเกต: FSC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความเข้มงวดน้อยกว่าหน่วยงานชั้นนำเช่น FCA, ASIC หรือ CySEC
  2. สถานะใบอนุญาต:
    • ข้อมูลล่าสุดแสดงว่าใบอนุญาตของ RoboForex อยู่ใน Inactive Status
  3. ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับโลก เช่น FCA (UK), ASIC (Australia) หรือ CySEC (Cyprus)

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ประวัติองค์กร และประวัติการดำเนินงาน

  1. ปีก่อตั้ง: 2009
  2. จำนวนพนักงาน: 227 คน
  3. แบรนด์ของบริษัท
    • RoboForex ให้บริการนักเทรดทั่วโลก
    • RoboMarkets ทำตลาดในยุโรป
    • จากข้อมูลที่ทดสอบ พบว่าการสมัคร RoboMarkets มีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถกรอกเบอร์โทรศัพท์ไทยเพื่อยืนยันตัวตนได้
  4. สำนักงานใหญ่
    • ที่อยู่ในต่างประเทศ: 2118 Guava Street, Belama Phase 1, Belize City, Belize
    • สำนักงานใกล้ไทย: FYI Center, ถ. พระรามที่ 4, คลองเตย, กรุงเทพมหานคร

ความโปร่งใสของบริษัท

  1. ไม่มีข้อมูลของผู้ก่อตั้งบริษัท
  2. ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ Liquidity Provider ที่ใช้
    • ซัพพอร์ทไม่สามารถให้ข้อมูลนี้ได้ (แม้จะสอบถามผ่าน Live Chat, Line และ Email) แล้วก็ตาม..ซึ่งโดยมากแล้วมักจะไม่เปิดเผย
  3. ประเภทบัญชีและการดำเนินงานของโบรกเกอร์ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากทีมซัพพอร์ท

ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร

  1. CEO ของ RoboForex
    • ชื่อ: Andrei Dziarnovich
    • สัญชาติ: ไม่พบข้อมูลที่ชัดเจน แต่มีข้อมูลว่าศึกษาและใช้ชีวิตที่ Belarus
  2. การปรากฏตัวของผู้บริหารในสื่อ
    • เข้าร่วมงาน ROBOFLEX Trader Fair 2022 Bangkok

ความนิยมและคะแนนรีวิวของ RoboForex

คะแนนรีวิวจาก ForexPeaceArmy และ Trust pilot
รูปที่ 2 คะแนนรีวิวจาก ForexPeaceArmy และ Trust pilot
  1. คะแนนรีวิวจาก ForexPeaceArmy ค่อนข้างต่ำ368/5 (จาก 192 รีวิว)
  2. ไม่มีคะแนนรีวิวใน Trustpilot แถมยัง ถูกระงับจากแพลตฟอร์มเนื่องจากละเมิดข้อกำหนดเกี่ยวกับการสร้างรีวิวปลอม
  3. ความนิยมของ RoboForex ในระดับสากลยังไม่สูง เทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง Exness, IC Markets, Pepperstone

สรุป RoboForex น่าเชื่อถือหรือไม่?

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 10 ปี และมีต้นทุนการเทรดต่ำ อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์นี้ยังมีข้อกังขาหลายจุด เช่น

  • ใบอนุญาต FSC Belize ที่ไม่มีความเข้มงวด
  • สถานะใบอนุญาตปัจจุบันอยู่ใน Inactive
  • ไม่มีความโปร่งใสในเรื่อง Liquidity Provider และประเภทบัญชี

หากคุณต้องการโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนต่ำ RoboForex อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับ ความน่าเชื่อถือสูงสุดและการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียง อาจต้องพิจารณาโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจาก FCA, ASIC หรือ CySEC แทนครับ

รีวิวเทรดจริงกับโบรกเกอร์ Robo forex

การเลือกโบรกเกอร์ Forex ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่โบรกเกอร์ให้เท่านั้น แต่ต้องดูประสบการณ์ของเทรดเดอร์ที่ใช้งานจริงด้วย RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความสนใจมากในเรื่องต้นทุนการเทรดต่ำ แต่ก็มาพร้อมกับข้อเสียบางอย่าง เรามาดูรีวิวจากการใช้งานจริงกัน

รีวิวด้านการใช้งานเว็บไซต์

ข้อมูลที่เปิดเผยในหน้าเว็บไซต์

  • เปิดเผยข้อมูลการกำกับดูแล
  • เปิดเผยที่อยู่สำนักงาน
  • เปิดเผยช่องทางการติดต่อ
  • เปิดเผย Terms & Conditions และ Client Agreement
  • เปิดเผยความเสี่ยงในการเทรด
  • ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร
  • ไม่มีการเปิดเผยงบการเงินของบริษัท

การใช้งานเว็บไซต์และพื้นที่ส่วนตัวของลูกค้า

  • ระดับความใช้งานง่าย: 4/5
  • มีเมนูการใช้งานครบถ้วน
  • การเปรียบเทียบบัญชีดูยาก ต้องกดเข้าไปดูรายละเอียดแยก
  • UX/UI ออกแบบมาไม่ดี ทำให้ต้องคลิกหลายขั้นตอนเพื่อดูข้อมูลที่ต้องการ
  • ไม่มีปุ่มถอนเงินตรงหน้าแรกของบัญชี

รีวิวจากเทรดเดอร์ทั่วโลก

รีวิวเกี่ยวกับปัญหาที่พบของโบรกเกอร์ ROBO
รูปที่ 3 รีวิวจากเทรดเดอร์ทั่วโลกเกี่ยวกับปัญหาที่พบเจอกับโบรกเกอร์ ROBO
  1. ปัญหาการฝาก-ถอนเงิน

  • มีรายงานจากผู้ใช้ว่าพยายามถอนเงินหลายครั้ง แต่ถูกโบรกเกอร์ยกเลิกโดยให้เหตุผลว่า ธนาคารปฏิเสธ ซึ่งเมื่อตรวจสอบกับธนาคารแล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง
  • เทรดเดอร์บางคนแจ้งว่าฝากเงินเข้าไปแล้ว แต่ถอนเงินไม่ได้ โดยทีมซัพพอร์ตให้คำตอบที่ไม่เป็นประโยชน์
  1. ปัญหาการปิดบัญชีโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน

  • เทรดเดอร์บางรายแจ้งว่า บัญชีถูกปิดโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน และมีรายการโอนเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตภายในบัญชี
  1. คะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ต่างๆ

  • ForexPeaceArmy:368/5 (จาก 192 รีวิว)
  • Trustpilot: ไม่มีคะแนน (ถูกระงับเนื่องจากละเมิดนโยบายเรื่องรีวิวปลอม)

รีวิวด้านการเทรดกับ RoboForex

ผลการทดสอบความเร็วการเทรด

  • ทดสอบบัญชี Pro, ProCent, ECN, Prime พบว่าความเร็วอยู่ในระดับปกติ
  • ไม่มีออเดอร์ที่ติดขัดหรือช้าเกินไป

รีวิวการเทรด Forex ต้นทุนเป็นอย่างไร?

  • Spread + Commission ต่ำมาก โดยเฉพาะบัญชี ECN และ Prime
  • เหมาะสำหรับ Scalping และการเทรดระยะสั้น

ต้นทุนการเทรดทองคำ (XAUUSD, XAUEUR)

  • Spread + Commission ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโบรกเกอร์อื่น
  • บัญชี Prime คิดค่าธรรมเนียม 35 USD/Lot (ค่าเฉลี่ยโบรกเกอร์อื่นอยู่ที่ 18.4 USD/Lot) เท่านั้นเองครับ
  • ไม่มี Swap เป็นบวกสำหรับฝั่ง Sell

รีวิวการเทรดคริปโต

  • ไม่มีคริปโตให้เทรด

ทดสอบเทรดข่าว –Spread ขยายเยอะไหม?

  • ก่อนข่าวออก
    • ความเร็วเปิดออเดอร์: 147 ms
    • Spread: 200 Points
  • ขณะข่าวออก
    • ความเร็วเปิดออเดอร์: 553 ms
    • Spread ขยายสูงสุด: 1500 Points
    • ใช้เวลา 79 วินาที กว่า Spread จะกลับมาเป็นปกติ

รีวิวระบบ Copy Trading ของ RoboForex

แพลตฟอร์ม CopyFx
รูปที่ 4  ตัวอย่างภาพของระบบ Copy trade ผ่านแพลตฟอร์ม CopyFx
  1. ใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม CopyFx
  2. จำนวนกลยุทธ์ที่ให้ Copy: 41
  3. ระดับความน่าใช้งาน: 2/5

ข้อดีของ CopyFx

  • ไม่มี

ข้อเสียของ CopyFx

  • ใช้งานยากมาก ไม่ได้ใช้ระบบ Copy Trade ของตัวเอง UX/UI แย่ ส่งผลให้เรียนรู้ขั้นตอนในการใช้งานได้ยาก

รีวิว VPS ฟรีของ RoboForex

VPS ฟรีของ RoboForex
รูปที่ 5  ตัวอย่างภาพของ VPS ฟรีของ RoboForex
  1. มี VPS ฟรีให้บริการ แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
    • บัญชีต้องมี Equity เกิน 300 USD (ไม่รวมโบนัส)
    • ต้องมีปริมาณเทรดอย่างน้อย 3 ล็อตมาตรฐาน
    • CFD และหุ้นสหรัฐฯ ไม่นับรวมในปริมาณเทรด
  2. วิธีสมัครใช้งาน VPS
    • ลงทะเบียนที่ RoboForex และยืนยันบัญชี
    • ทำตามเงื่อนไขแล้วส่งคำขอในพื้นที่สมาชิก
    • ระบบจะส่งอีเมลแจ้งข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ VPS
  3. สเปคของ VPS
    • CPU: 1 Core
    • RAM: 1 GB
    • HDD: 30 GB

โบนัสและโปรโมชั่นของ RoboForex

โบนัสและโปรโมชั่นของ RoboForex
รูปที่ 6 ตัวอย่างข้อมูลโบนัสและโปรโมชั่นของ RoboForex

RoboForex มีโบนัสและโปรโมชั่นหลายประเภทที่ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ทั้งโบนัสต้อนรับ เงินคืน และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า VIP มาดูกันว่าแต่ละโปรมีเงื่อนไขและข้อดีข้อเสียอย่างไรกันบ้างครับ

โบนัสต้อนรับ 30 USD

  1. สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีและฝากเงินขั้นต่ำ 10 USD
  2. ใช้เป็นเงินเพิ่มในการเทรด
  3. ไม่สามารถถอนโบนัสได้ เว้นแต่ใช้โบนัสทำกำไรและถอนเฉพาะกำไร
  4. เงื่อนไขการรับโบนัส:
    • เปิดบัญชีกับ RoboForex
    • ยืนยันตัวตน
    • ฝากเงินเข้าบัญชีอย่างน้อย 10 USD

โปรโมชั่นอื่นๆ ของ RoboForex

  1. รับรายได้จากยอดคงเหลือในบัญชี (Interest Bonus)
  • ได้เงินคืนตามเปอร์เซ็นต์ของยอดเงินคงเหลือ
  • ถอนเงินที่ได้รับออกมาได้
  • ต้องเทรดให้ครบจำนวนล็อตที่กำหนดก่อน
  1. ถอนเงินโดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น 2 ครั้งต่อเดือน
  • ถอนได้ฟรี 2 ครั้งต่อเดือน
  • โปรโมชั่นไม่น่าสนใจ เพราะโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ มักไม่มีค่าธรรมเนียมอยู่แล้ว
  1. เทรดได้เงินคืน (Cashback หรือ Rebates)
  • ได้รับเงินคืนจากค่าธรรมเนียมการเทรด ถ้าทำยอดเทรดครบ 10 ล็อต
  • จำนวนเงินคืนขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี
  • ต้องเทรดตามเงื่อนไขที่กำหนดก่อน

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า VIP

  • เทรดเดอร์ที่ฝากเงินหรือมีเงินในบัญชีถึงเกณฑ์ สามารถสมัครเป็น VIP และรับสิทธิพิเศษดังนี้
    • เงินคืนจากการเทรด (Rebates) เพิ่มขึ้น
    • เปอร์เซ็นต์รายได้จากยอดคงเหลือเพิ่มขึ้น
    • สามารถใช้ VPS ของ RoboForex ได้ฟรี
    • มีผู้จัดการ VIP ส่วนตัว
  • ระดับของ VIP
    • Silver: ต้องมีเงินในบัญชี 3,000 – 30,000 USD
    • Gold: ต้องมีเงินในบัญชี 30,000 – 100,000 USD
    • Platinum: ต้องมีเงินในบัญชี มากกว่า 100,000 USD

แพลตฟอร์มเทรดและเครื่องมือเสริมของ RoboForex

แพลตฟอร์มเทรดของ RoboForex
รูปที่ 7 แพลตฟอร์มเทรดและเครื่องมือเสริมของ RoboForex

แพลตฟอร์มการเทรดของ RoboForex

  1. MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5)

RoboForex รองรับทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในหมู่นักเทรด Forex ทั่วโลก

ข้อดีของ MT4 และ MT5 บน RoboForex

  • รองรับ Expert Advisors (EAs) และการเทรดอัตโนมัติ
  • มีอินดิเคเตอร์และเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคครบถ้วน
  • สามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ (Windows, macOS) และมือถือ (iOS, Android)
  • สเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่ำ เหมาะสำหรับ Scalping
  • มีบัญชีให้เลือกหลากหลาย เช่น Pro, ProCent, ECN, Prime

ความแตกต่างระหว่าง MT4 และ MT5

  • MT4: ใช้งานง่ายกว่า เหมาะสำหรับมือใหม่ มีเครื่องมือพื้นฐานครบถ้วน
  • MT5: รองรับสินทรัพย์ที่หลากหลายกว่า มีฟังก์ชัน Depth of Market (DOM) และสามารถใช้ Hedging ได้
  • MT5 บน RoboForex: ฝากเงินขั้นต่ำเพียง 10 USD ทำให้เข้าถึงได้ง่าย
  1. MobileTrader: Online Trading by RoboForex (CY) Ltd

  • สามารถใช้งาน CopyFx ได้
  • มีปฏิทินเศรษฐกิจให้ดู
  • ฝาก-ถอนเงินได้ในแอป
  • ติดต่อซัพพอร์ตได้โดยตรง
  • แอปค่อนข้างช้า
  • กราฟใช้งานยาก ปรับแต่งได้น้อย
  • มีอินดิเคเตอร์ให้เลือกใช้จำกัด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการทุกอย่างในแอปเดียว แต่สำหรับการเทรดจริงจังควรใช้ MT4/5 แทน
  1. R Stock Trader (แพลตฟอร์มเทรดหุ้นและ CFD บนเว็บ)

  • ใช้งานผ่านเว็บ ไม่ต้องดาวน์โหลด
  • ลื่นไหล เปิดออเดอร์เร็ว
  • ตั้งค่ากราฟและลาก SL/TP ได้
  • UI/UX ต่างจาก MT4/5 และ TradingView ต้องใช้เวลาปรับตัว
  • มีอินดิเคเตอร์ให้ใช้จำกัด
  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดหุ้นและ CFD ผ่านเว็บโดยไม่ต้องลงโปรแกรม

เครื่องมือเสริมที่ช่วยในการเทรด

  1. VPS ฟรี
    • มีให้ใช้งาน แต่ต้องมีเงินทุนขั้นต่ำและเทรดตามเงื่อนไข
  2. เครื่องคำนวณการซื้อขาย
    • ช่วยคำนวณ Lot Size, Margin, Swap
  3. ปฏิทินเศรษฐกิจ
    • ใช้ติดตามข่าวสารสำคัญทางเศรษฐกิจ

การให้ความรู้และคู่มือการใช้งาน

  1. ไม่มีคอร์สสอนเทรดในเว็บ RoboForex
  2. ไม่มีวิดีโอสอนเทรดใน Facebook และ YouTube ของโบรกเกอร์
  3. มีการร่วมมือกับ RoboAcademy
    • มีคอร์สเกี่ยวกับ R Stock Trader และคอร์สสอนเทรดอื่นๆ

ประเภทบัญชีและสินทรัพย์ที่มีให้เทรดใน RoboForex

RoboForex มีบัญชีหลากหลายประเภทที่เหมาะสำหรับนักเทรดแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ รวมถึงสินทรัพย์ที่มีให้เลือกเทรดมากมาย

ประเภทบัญชีและสินทรัพย์ใน RoboForex
รูปที่ 8 ประเภทบัญชีและสินทรัพย์ที่มีให้เทรดใน RoboForex

ประเภทบัญชีที่มีให้เลือก

RoboForex มีบัญชีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่

  1. Prime
  2. ECN
  3. ProCent
  4. Pro
  5. R StocksTrader

บัญชีที่รองรับ MT4/MT5: Prime, ECN, ProCent, Pro
บัญชีที่ใช้แพลตฟอร์มเฉพาะ: R StocksTrader

การเปรียบเทียบบัญชีต่างๆ

  1. ด้านต้นทุนการเทรด

    • Prime และ ECN: มีค่าคอมมิชชั่น แต่มี Spread ลอยตัวตั้งแต่ 0 pip
    • ProCent และ Pro: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่มี Spread เริ่มต้นที่ 1.3 pip
    • R StocksTrader: Spread เริ่มต้นที่ 0.02 USD
    • ลำดับต้นทุนจากต่ำไปสูง: Prime → ECN → ProCent → Pro
  1. ด้านสินทรัพย์ที่รองรับ

    • Prime, ECN, Pro: มีให้เทรด Forex, โลหะ, หุ้นสหรัฐฯ (CFD), ดัชนี, น้ำมัน, Futures
    • ProCent: เทรดได้เฉพาะ Forex และโลหะ
    • R StocksTrader: มีตราสารมากที่สุด กว่า 12,000 รายการ รวมถึง หุ้นจริง, CFD หุ้น, ETF, ดัชนี, Forex, น้ำมัน และโลหะ
  1. ระดับ Stop Out

    • Prime: 100%
    • ECN: 50%
    • R StocksTrader: 20%
    • ProCent: 30%
    • Pro: 40%
  1. เลเวอเรจสูงสุด

    • Prime: 1:300
    • ECN: 1:500
    • R StocksTrader: ขึ้นอยู่กับประเภทตราสาร เช่น หุ้น 1:20, Forex 1:500
    • ProCent และ Pro: 1:2000
  1. เงินฝากขั้นต่ำ

    • Prime, ECN, ProCent, Pro: 10 USD
    • R StocksTrader: 100 USD

การเลือกบัญชีที่เหมาะสม

  • ถ้าต้องการเทรดบน R StocksTrader และต้องการสินทรัพย์ที่หลากหลาย → เลือกบัญชี R StocksTrader
  • ถ้าต้องการเทรดบน MT4/5เลือก Prime, ECN, ProCent หรือ Pro
  • ถ้ามีเงินน้อยและต้องการฝึกเทรด → เลือก ProCent
  • ถ้าต้องการเทรด Standard Lot และไม่ต้องการค่าคอมมิชชั่น → เลือก Pro
  • ถ้าต้องการต้นทุนการเทรดต่ำที่สุด (Spread + ค่าคอมต่ำ) → เลือก Prime หรือ ECN โดย Prime ถูกกว่า

เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง Leverage

  • เลเวอเรจถูกปรับลดในวันศุกร์ (11:00 PM – 1:00 AM ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์) เช่น 1:2000 จะถูกปรับเป็น 1:1000 และปรับคืนอัตโนมัติ
  • สามารถเปลี่ยนเลเวอเรจได้เอง
  • ถ้า Equity เกิน 10,000 USD เลเวอเรจจะถูกปรับลดเป็น 1:1000
  • ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลเวอเรจช่วงข่าว

เลเวอเรจแยกตามประเภทสินทรัพย์

  • หุ้น: 1:20
  • Futures: 1:100
  • สินค้าโภคภัณฑ์: 1:20
  • พลังงาน: 1:100
  • Forex: 1:2000

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ใน RoboForex

ประเภทตราสารจำนวนที่มีให้เทรด
Forex28 คู่เงิน
โลหะมีค่า3 รายการ (ทองคำ, เงิน)
คริปโตไม่มีให้เทรด
หุ้น50 ตัว (เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่)
สินค้าโภคภัณฑ์2 รายการ
ดัชนี5 รายการ

ข้อดี

  • มีคู่เงินให้เทรดครบ ทั้งคู่เงินหลักและคู่เงินรอง

ข้อเสีย

  • มีโลหะให้เทรดน้อย (แค่ทองคำและเงิน)
  • ไม่มีคริปโตให้เทรด
  • หุ้นที่ให้เทรดมีเพียงหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัว
  • สินค้าโภคภัณฑ์และดัชนีมีตัวเลือกน้อย

การฝากถอนเงิน ง่าย รวดเร็ว หรือมีปัญหาไหม?

RoboForex รองรับช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย ทั้งผ่านธนาคารไทย, บัตรเครดิต, กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และคริปโต ซึ่งแต่ละช่องทางมีเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันดังตามการทดลองดังต่อไปนี้

ช่องทางการฝากถอนเงิน
รูปที่ 9 ช่องทางการฝากถอนเงิน

การฝากเงิน

  1. การฝากเงินผ่านธนาคารไทย (PromptPay, Fast Bank Transfer, QR ThunderX)
    • ฝากขั้นต่ำ: 350 THB
    • ฝากสูงสุดต่อครั้ง: 1,900,000 THB
    • ค่าธรรมเนียม: ไม่มี
    • ความเร็วในการฝาก: ประมาณ 10 นาที

ข้อสังเกต: ตอนกรอกจำนวนเงิน ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น USD ได้ ต้องคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเอง

  1. การฝากเงินผ่านคริปโต (Difinex, USDT, BTC, ETH ฯลฯ)
    • ฝากได้ตามเงื่อนไขของเหรียญและเครือข่าย
    • ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก RoboForex แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมของเครือข่าย
    • รองรับเหรียญ: USDT, BTC, ETH, TRX, BNB, DOGE ฯลฯ

การถอนเงิน

  1. การถอนเงินผ่านธนาคารไทย (PromptPay, Fast Bank Transfer, QR ThunderX)
    • ถอนขั้นต่ำ: 9.66 USD
    • ถอนสูงสุดต่อครั้ง: 20,000 USD
    • ค่าธรรมเนียม: ประมาณ 1.62% ของยอดถอน
    • ระยะเวลาการถอน: 4 ชั่วโมง 37 นาที
    • ผลการทดสอบถอนเงิน
      • ฝาก 3,650.22 THB → ถอนออกจริงได้ 3,534.58 THB
      • ค่าธรรมเนียมรวมประมาณ 3.17%
  1. การถอนเงินผ่านคริปโต (Difinex, USDT, BTC, ETH ฯลฯ)
    • ถอนขั้นต่ำ: 5 USD
    • ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับเครือข่ายของเหรียญที่ใช้

เปรียบเทียบช่องทางการฝากถอน

ช่องทางฝากขั้นต่ำถอนขั้นต่ำค่าธรรมเนียมฝากค่าธรรมเนียมถอนความเร็วฝากความเร็วถอน
PromptPay (ไทย)350 THB9.66 USDไม่มี1.62%~10 นาที~4 ชม. 37 นาที
Fast Bank Transfer (ไทย)350 THB10 USDไม่มี~4%~10 นาที~4-5 ชม.
Difinex (คริปโต)ตามเหรียญ5 USDตามเครือข่ายตามเครือข่ายเร็วเร็ว
Skrill / Netellerขึ้นอยู่กับบัญชีขึ้นอยู่กับบัญชีอาจมีค่าธรรมเนียมอาจมีค่าธรรมเนียมเร็วเร็ว

สรุปข้อดี ข้อเสีย โดยผู้เชี่ยวชาญของ Thaiforexbroker

✅ ข้อดีของ RoboForex

  1. เป็นสมาชิกของ The Financial Commission
  2. เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2009 มีประสบการณ์ในตลาด Forex มานานกว่า 10 ปี
  3. มีข้อมูลผู้บริหาร และมีการออกสื่อบ้าง ทำให้มีความโปร่งใสพอสมควร
  4. ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำมาก (Spread + Commission) โดยเฉพาะ Forex และทองคำ ค่าธรรมเนียมต่ำติดอันดับต้นๆ
  5. มีบริการ VPS ฟรี ใช้งานได้หากทำตามเงื่อนไขของโบรกเกอร์ได้
  6. มีโบนัสต้อนรับ 30 USD เพียงฝากเงินขั้นต่ำ 10 USD
  7. ซัพพอร์ตในไลน์ดีมาก ตอบเร็วและช่วยแก้ปัญหาได้ดี (แต่แชทบนเว็บไม่ค่อยดี)
  8. มีประเภทบัญชีให้เลือกหลายแบบ รองรับเทรดเดอร์ทุกสไตล์
  9. มีบัญชี Cent ให้เทรด เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการทดลองระบบ
  10. บัญชี MT5 ฝากขั้นต่ำเพียง 10 USD เข้าถึงง่ายสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ

❌ ข้อเสียของ RoboForex

  1. ความน่าเชื่อถือไม่สูงมาก เนื่องจากมี License ที่ไม่น่าเชื่อถือเท่าโบรกชั้นนำ คะแนนรีวิวก็ไม่ดี… อันนี้ต้องพิจารณาเยอะพอสมควร
  2. มี License ของ FSC Belize เท่านั้น และอยู่ในสถานะ Inactive ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เข้มงวด เช่น FCA หรือ ASIC
  3. ค่าคอมมิชชั่นแต่ละผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน และบางรายการไม่มีข้อมูลในเว็บไซต์ ทำให้ต้องทดลองเทรดเองเพื่อดูค่าธรรมเนียมจริง
  4. การยืนยันตัวตนใช้เวลานาน ทดสอบแล้วใช้เวลา 8 ชั่วโมง 19 นาที
  5. เว็บไซต์และระบบลูกค้าใช้งานยาก UI/UX ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้
  6. คะแนนรีวิวจาก ForexPeaceArmy ค่อนข้างต่ำ
  7. ไม่มีคะแนนบน Trustpilot เนื่องจากละเมิดนโยบายรีวิวปลอม
  8. ไม่มีคริปโตให้เทรด เป็นข้อเสียสำหรับนักเทรดที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัล
  9. ระบบ Copy Trade ใช้งานยาก ไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้ใหม่
  10. แอป “Online Trading by RoboForex (CY) Ltd” คุณภาพต่ำ ใช้งานยากและไม่น่าเชื่อถือ
  11. เรทฝาก-ถอนแพง คิดค่าคอมมิชชั่น 17%
  12. ถอนเงินช้า เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ

บทสรุปควรเลือก RoboForex หรือไม่?

RoboForex เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับ นักเทรดที่เน้นเทรดสั้น (Scalping, Day Trading) เพราะ Spread + Commission ต่ำ
  • เหมาะกับ นักเทรดที่รับความเสี่ยงสูง โดยใช้ เลเวอเรจสูง (1:2000) เพื่อเทรดล็อตใหญ่
  • ไม่เหมาะกับมือใหม่ เพราะ เว็บไซต์ใช้งานยาก และ ระบบ Copy Trade ซับซ้อน
  • ไม่เหมาะกับคนที่ถอนเงินบ่อย เพราะ เรทฝากถอนแพง (~3.17%) และใช้เวลาถอนเงินค่อนข้างนาน

แนวทางการเทรดที่เหมาะกับ RoboForex

  • เทรดสั้น + ออกล็อตใหญ่ ใช้ Spread ต่ำให้คุ้มค่า
  • Overtrading (ฝากน้อย เปิดล็อตใหญ่) เพื่อหวังกำไรสูง แต่ต้องระวังความเสี่ยง

เอกสารอ้างอิง

สารบัญ

สารบัญบทความ