กะเทาะ PinBar

PinBar

กะเทาะ PinBar

รู้จักลักษณะของ Pin Bar (Pin Bar Anatomy)

  • ที่ผมเอาหัวข้อนี้มาก่อน เพราะ ต้องบอกเลยครับว่า เรื่องนี้สำคัญมาก!! เทรดเดอร์หลายคนยังไม่รู้เลยว่า Pin Bar หน้าตาแบบไหน หรือ บางทียังแยกไม่ออกเลยว่าแท่งไหนเป็น Pin Bar เพื่อให้เราเข้าใจตรงกัน เรามาดูกันครับว่า Pin Bar มีหน้าตายังไง
  • แท่งเทียน Pin Bar มาจาก Pin ที่แปลว่า เข็ม สาเหตุเพราะ แท่งเทียนมีลักษณะคล้ายกับเข็ม แท่งเทียน Pin Bar จะเรียกอีกชื่อว่า Hammer หรือ ค้อนก็ได้ (แล้วแต่จะเรียกเลยครับ) ลักษณะสำคัญของแท่งเทียน Pin Bar คือ มีหางที่ยาว และมี body ที่เล็ก ขอเน้นย้ำครับว่า หางต้องยาว!! Body ต้องเล็ก ถามว่า หางต้องยาวขนาดไหน ผมแนะนำว่า ยาวอย่างน้อย 3 เท่า ของ Body ครับ แต่ถ้าตัวแท่ง Nose (หางเล็ก ๆ ที่ตรงกันข้ามกับ หางยาว ๆ) ตัว Nose ต้องสั้น ๆ ครับ ถึงจะดี เพราะ แสดงถึงสัญญาณที่แรง (ดูรูปด้านล่างประกอบครับ)

          

  • จากรูปจะเห็นชัดเลยว่า Pin Bar นั้นมีรูปร่างคล้ายเข็ม และ มี 2 แบบ ทำไมต้องมี 2 แบบ เพราะ Forex เทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลงนั่นเองครับ แปลว่า เรารู้แค่ Pin Bar เราก็สามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลงแล้ว
  • จุดสำคัญที่ผมอยากให้ทุกท่านจำให้แม่น คือ ยิ่งหางยาว Body เล็ก และ Nose สั้น จะเป็น Pin Bar ที่มี สัญญาณ แรงครับ พูดง่าย ๆ คือ เป็นสัญญาณระดับ Premium ครับ
  • จากภาพด้านบน ผมขออธิบายจิตวิทยาการเคลื่อนที่ของ Pin Bar โดยใช้ OHLC Movement ประกอบนะครับ ใครที่ไม่รู้ความหมายของ OHLC ผมแนะนำบทความ 4 เคล็ดลับทำกำไรในตลาด Forex ด้วย Price Action นี้ครับ จะได้เห็นภาพชัดเจน
  • จะเห็นว่า การเกิดแท่งเทียน Pin Bar จะเกิดได้ 2 แบบ ตามรูปครับ โดยทั้ง 2 แบบ ราคาเปิด (Open) กับ ราคาปิด (Closed) จะอยู่จุดเดียวกัน ต่างกันที่ระหว่างวันจะวิ่งลงก่อนหรือวิ่งขึ้นก่อนเท่านั้น
  • แต่เราไม่สนใจตรงนี้ครับ สิ่งที่เราสนใจคือ เส้นสีแดงที่วิ่งลง จะเป็นเส้น Breakout คือ Breakout ระหว่างวัน ถามว่า Breakout อะไร ? คำตอบก็คือ Breakout แนวรับไงครับ ถ้าเทรดเดอร์คนไหนที่รู้จักแต่กลยุทธ์การเทรดแบบ Trend-Following อย่างเดียว บอกได้เลยครับว่า คุณจะทำกำไรในตลาด Forex ยากละครับ เพราะ คุณจะเปิด Sell Order ตรงจุดที่มัน Breakout เพราะ คิดว่ามันหลุดแนวรับจริง แต่ต่อมาเห็นไหมครับว่า ราคาพุ่งขึ้นแรงมาก สังเกตตรงเส้นสีเขียวตรงที่เขียนว่า Rebound (False-break) จุดนี้แหละครับ ที่ผมถึงบอกว่าทำไมมันยาก เพราะ มันไม่ได้ Breakout จริงไง
  • ตรงเส้นสีเขียวนี่แหละครับ ที่ทำให้กลยุทธ์แบบ Trend-Following ใช้ไม่ได้ผล และโดน Stop Loss ไปโดยปริยาย จนสุดท้ายราคาปิดและเผยให้เห็นว่า เป็นแท่งเทียน Pin Bar ซึ่งก็คือ สัญญาณ Buy Order นั่นเอง!!

เทคนิคที่ 1 : เทรด Pin Bar ที่ Key Levels

  • เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ผมอยากให้ทุกท่านลองนำไปฝึกใช้ครับ นั่นก็คือ การเทรด Pin Bar ที่ แนวรับหลัก หรือ แนวต้านหลัก
  • วิธีการเทรด Pin Bar ที่ Key Levels คือ เริ่มจากหา Key Levels ใน Week จากนั้น ดูการ Action ของราคาที่ Key Levels ในระดับ Day ครับ จุดสำคัญคือ ดูตอนราคาปิดแล้ว อย่าดูระหว่างวัน ข้อนี้สำคัญนะครับ Highlight ไว้เลย เพราะ เทรดเดอร์มือใหม่หลายคน พลาดตรงนี้ไปดูราคาระหว่างวันเลยเข้าใจว่า ราคาทะลุแนวต้านไปแล้ว เลยเปิด Follow Buy ผลเป็นยังไง คงไม่ต้องบรรยายนะครับ!!
  • ตัวอย่าง ในรูปด้านล่าง จะเห็นว่าเมื่อมี Pin Bar เกิดที่ Key Levels ราคามักจะวิ่งแรงเสมอ!!

  เทคนิคที่ 2 : เทรด Pin Bar On Trend 

  • จุดสำคัญของเทคนิคนี้คือ คุณต้องอ่าน Trend ให้ออก เพราะ ถ้าคุณอ่าน Trend ไม่ออก ต่อให้ Pin Bar Signal ที่เกิดขึ้น สัญญาณ Strong แค่ไหน ก็ไร้ผล สาเหตุเพราะ เป็น Signal ที่สวน Trend นั่นเองครับ
  • สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มฝึกเทรดแบบ Price Action ผมแนะนำให้เทรดตาม Trend ให้ชำนาญก่อน ข้อนี้สำคัญมากนะครับ!!

 

  • วิธีการเทรด Pin Bar On Trend ทำได้โดยอ่าน Trend ใน Time Frame ระดับ Day ให้ออก จากนั้น ให้เราเทรด Pin Bar ที่อยู่ในช่วงราคาย่อตัว (Retracement) ครับ จะเรียกว่า Buy at dip ก็ได้ ดูตัวอย่างในรูปประกอบได้เลยครับ
  • รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย และใช้งานง่าย เพราะ เราคุ้นเคยกันดีในหุ้น แต่มีจุดสำคัญอย่างหนึ่งที่ผมอยากให้ทุกท่านจำไว้ก็คือ แนวโน้มใน Forex นั้น จะไม่ Perfect พูดง่าย ๆ คือ แนวโน้มในตลาด Forex ที่เกิดขึ้นจะมีไม่นานเหมือนในหุ้น นี่จึงเป็นจุดที่ 2 ที่ว่าทำไมผมจึงบอกว่า ใครที่รู้กลยุทธ์การเทรดแบบ Trend-Following อย่างเดียว จะเอาตัวรอดยากครับ เพราะ Trend ที่เกิดไม่ได้ยาว
  • ดังนั้น สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือ อย่าโลภ และไม่จำเป็นต้อง Run สุด Trend ครับ!! ใน Forex ผมบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คุณไม่ต้องฟันกำไรให้สุด Trend คุณก็ทำกำไรได้เยอะแล้วครับ เพราะ เรามี Leverage ช่วย ราคาขยับนิดเดียวก็ได้หลาย % ที่ผมเตือนไว้ก่อนเพราะ มีเทรดเดอร์หลายคนพยายามจะ Run Forex ให้สุด Trend แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึง ตลาดวิ่งสวนกลับกำไรไม่เหลือแถมขาดทุนด้วยครับ นี่แหละครับ คือ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากฝากทุกท่าน  พบกันใหม่ ตอนต่อไป 

ทีมงาน : thaiforexbroker.com