ลดความเสี่ยง เพิ่มกำไร ด้วย Pending Order และ Trailing Stop

พฤติกรรมที่เทรดเดอร์หลายคนมักจะติดนิสัยทำอยู่บ่อยๆ ก็คือชอบเข้าเทรดทันที (Market Order) มากกว่าการตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Order) เหตุผลหลักๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องกลัวพลาดโอกาส (FOMO) ในบทความนี้เราจะไปดูกันว่าการตั้ง Pending Order มันช่วยเทรดเดอร์ได้มากแค่ไหน รวมถึงการใช้ Trailing Stop ด้วยครับ


Highlight บทคัดย่อ

  • Pending Order เป็นคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าที่เทรดเดอร์ตั้งไว้ เพื่อเปิดคำสั่งเมื่อราคามาถึงระดับที่กำหนดไว้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าเทรด ณ ราคาตลาดทันที (Market Order)
  • Pending Order มีคำสั่งหลักๆ 2 ประเภท 4 รูปแบบคือ Limit Order และ Stop Order
    • Limit Order: Buy Limit – ใช้ตั้งคำสั่ง Buy ใต้ระดับราคาปัจจุบัน / Sell Limit – ใช้ตั้งคำสั่ง Sell เหนือระดับราคาปัจจุบัน
    • Stop Order: Buy Stop – ใช้ตั้งคำสั่ง Buy เหนือระดับราคาปัจจุบัน / Sell Stop – ใช้ตั้งคำสั่ง Sell ใต้ระดับราคาปัจจุบัน
  • Trailing Stop คือระดับ Stop Loss แบบไดนามิก โดยจะเคลื่อนตามทิศทางราคา(Buy = ขึ้น, Sell = ลง) และเว้นระยะห่างตามที่เรากำหนดแต่หากราคาผิดทางระดับ Stop Loss จะไม่เคลื่อนตาม

Pending Order คืออะไร? ใช้ยังไง?

  • Pending Order คือคำสั่งซื้อ/ขายล่วงหน้าในตลาด Forex คำสั่งประเภทนี้จะไม่ใช่การเปิดออเดอร์แบบทันที(Market Order) แต่จะเปิดออเดอร์เมื่อราคาวิ่งมาถึงระดับที่กำหนดไว้
  • ดังนั้น Pending Order จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีแผนชัดเจน รู้ว่าต้องการเข้าออเดอร์ที่จุดไหนและ SL/TP ที่จุดไหน มันช่วยได้เยอะมากในการที่เราไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวันครับ
  • จากที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าเทรดเดอร์มักจะกลับพลาดโอกาส(Fomo) Pending Order จึงเป็นเครื่องมือที่มาช่วยเทรดเดอร์ให้จัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้น เพราะเราจะไม่ต้องเทรดไล่ตามราคาแถมได้เข้าเทรดในราคาที่ดีกว่า

ความแตกต่างระหว่าง Pending Order และ Market Order

Pending Order Market Order
นิยาม คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า ณ ระดับราคาที่กำหนดไว้ คำสั่งซื้อขายที่ดำเนินการทันที ณ ราคาปัจจุบัน
ความยืดหยุ่น มาก วางแผนล่วงหน้าได้ คุมระดับราคาได้ชัดเจน น้อย ต้องเข้าทันทีตามราคาตลาด
ข้อดี วางแผนล่วงหน้าได้, ควบคุมราคาได้, ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ รวดเร็ว, เข้าออเดอร์ทันที
ข้อเสีย ราคาอาจจะวิ่งไม่ถึงระดับคำสั่งที่ตั้งไว้ อาจไม่ได้ราคาที่ดีที่สุด, เสี่ยงต่อ Slippage
เหมาะกับใคร เทรดเดอร์ที่สายวางแผน ไม่อยากเฝ้าหน้าจอทั้งวัน Scalping, เทรดชนข่าว

ความแตกต่างหลักๆ ของ Pending Order และ Market Order ก็คือเรื่องการดำเนินการคำสั่ง ซึ่งสะท้อนถึงรูปแบบและสไตล์การเทรดของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับว่าจะเลือกใช้ในสถานการณ์ไหน


ประเภทของ Pending Order

Pending Order สามารถแบ่งออกเป็น Limit Order 2 คำสั่ง, Stop Order 2 คำสั่ง และอีก 2 ประเภทย่อย ในบทความนี้จะขอเน้นไปที่คำสั่ง 4 รูปแบบหลักๆ ดังนี้ครับ

1. Limit Order

  • Buy Limit: คำสั่งซื้อ(Buy) ที่ตั้งไว้ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวลงมาถึงระดับที่ตั้งไว้ แล้วจะดีดตัวขึ้น
  • Sell Limit: คำสั่งขาย(Sell) ที่ตั้งไว้ที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน โดยคาดหวังว่าราคาจะปรับตัวขึ้นไปถึงระดับที่ตั้งไว้ แล้วจะปรับตัวลง

2. Stop Order

  • Buy Stop: คำสั่งซื้อ(Buy) ที่ตั้งไว้ที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน โดยคาดหวังว่าราคาจะขึ้นไปถึงระดับที่ตั้งไว้และไปต่อในทิศทางเดิม
  • Sell Stop: คำสั่งขาย(Sell) ที่ตั้งไว้ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน โดยคาดหวังว่าราคาจะลงไปถึงระดับที่ตั้งไว้และลงไปต่อทิศทางเดิม

3. Stop Limit Order (คำสั่งพิเศษเฉพาะ MT5)

  • Buy Stop Limit: เป็นคำสั่งที่รวม Buy Stop / Buy Limit ไว้ด้วยกัน โดยเราต้องตั้งระดับ Stop Price ที่คาดว่าราคาจะขึ้นไปถึง เมื่อราคามาถึง คำสั่ง Buy Limit ก็จะปรากฏขึ้นที่ระดับต่ำกว่า Stop Price ที่เราตั้งไว้
  • Sell Stop Limit: หลักการเหมือนกับ Buy Stop Limit เราต้องตั้งระดับ Stop Price ที่คาดว่าราคาจะลงมาถึง เมื่อราคาลงมาถึง คำสั่ง Sell Limit จะปรากฏขึ้นเหนือ Stop Price
ประเภทของ Pending Order ทั้ง 4 แบบ
Pending Order โดยทั่วไปแล้วมี 4 รูปแบบคือ Buy Limit, Sell Limit, Buy Stop, Sell Stop ส่วน Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit เป็นคำสั่งพิเศษที่สร้างขึ้นมาบน MT5 โดยเฉพาะ ซึ่งการใช้จะซับซ้อนและเงื่อนไขเยอะกว่า จึงไม่นิยมใช้กัน

Trailing Stop เครื่องมือล็อคกำไร?

  • ในบทความนี้เราจะพูดถึง Trailing Stop กันด้วยซึ่งมันก็คือคำสั่ง Stop Loss แบบไดนามิก โดยจะปรับระดับ Stop Loss ตามการเคลื่อนไหวของราคาหากราคาเคลื่อนที่ถูกทิศทางตามคำสั่งของเรา
  • ในทางตรงกันข้าม หากราคาเคลื่อนที่ผิดทางกับคำสั่งของเรา (Buy =ราคาขึ้น, Sell = ราคาลง) ระดับ Stop Loss จะยังคงอยู่ที่เดิมและไม่ขยับ ยกตัวอย่างเช่น
    • เปิดสถานะ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.1000 และตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 50 pips หากราคาขึ้นไปที่ 1.1100 = Stop Loss จะเลื่อนขึ้นไปอยู่ที่ 1.1050 (รักษาระยะห่าง 50 pips)
    • หากจากนั้นราคาปรับตัวลงมาที่ 1.1050 คำสั่งของเราก็จะถูกปิดอัตโนมัติเพราะระดับ Stop Loss จะไม่เคลื่อนที่ตามราคาหากมันสวนทางคำสั่ง
  • จากที่อ่านมาก็สามารถพูดได้เลยว่า Trailing Stop มีประโยชน์/ข้อดีตรงที่
    1. ปล่อยกราฟให้วิ่งได้ไกล + ล็อคกำไรอัตโนมัติ เราไม่ต้องคอยหาจังหวะตั้ง TP ให้ปวดหัว
    2. ลดความลังเลว่าจะปิดออเดอร์เมื่อไหร่ บางครั้งเจอสัญญาณหลอกก็รีบปิดออเดอร์ไปแต่ Trailing Stop จะช่วยเรื่องนี้ได้เยอะ
    3. ไม่ต้องกลัวตลาดผันผวนเพราะ Stop Loss จะวิ่งตามราคาโดยที่ระดับคำสั่งจะปลอดภัยหากราคาวิ่งผิดทาง
การตั้งค่า Trailing Stop แบบเปอร์เซ็นต์
Trailing Stop สามารถกำหนดระยะห่างได้จากจำนวนจุด(pips), จำนวน%, จำนวนเงิน แล้วแต่เทรดเดอร์จะเลือกใช้ เช่นในรูปตัวอย่างกำหนดที่ 5% เส้น SL จะรักษาระยะห่างที่ 5% ตามราคาแต่ถ้าราคากลับตัว (วงกลม) เส้น SL จะยังคงอยู่ที่เดิมไม่ขยับหนีจนกว่าราคาจะมาชนเส้น ก็จะเปลี่ยนฝั่งเป็นสีแดงและรักษาระยะห่างที่ 5% เช่นกัน

การเทรดผสมผสาน Pending Order และ Trailing Stop

การเทรดแบบ Pending Order ร่วม Trailing Stop
เส้นสีแดงและเขียวในรูปภาพคือระดับ Stop Loss ที่ระบบตั้งไว้ที่ 5% ไม่ใช่ตัววิเคราะห์ในการเข้าออเดอร์ Buy/Sell ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า เส้นจะเปลี่ยนฝั่งเมื่อราคาวิ่งมาชนระดับ Stop Loss ของเส้นนั้น
  • จากตัวอย่างกราฟในรูปภาพเราสามารถใช้ Pending Order + Trailing Stop ในการลดความเสี่ยงและเพิ่มกำไรได้
  • ก่อนอื่นเมื่อเราวิเคราะห์แล้วว่านี่คือโอกาสเข้าเทรด สังเกตระดับแนวต้านทางซ้ายมือ เราสามารถตั้ง Pending Order: Buy Stop ไว้เหนือระดับแนวต้านนั้น ตามรูปภาพ
  • จากนั้นเราก็ Set Up ตัว Trailing Stop โดยในเคสนี้ผมใช้ระดับความห่างที่ 5% ถ้าเราเล่นหน้า Buy ระดับ Stop Loss ก็คือเส้นสีเขียวด้านล่าง
  • สังเกตว่าเมื่อราคาขยับขึ้นไปตัวระดับ Trailing Stop ก็ขยับตาม แต่ถ้าราคาทำท่าจะกลับหัวลงมา ระดับ SL จะยังอยู่ที่เดิมไม่ขยับลงตามด้วย เมื่อราคาเคลื่อนที่ลงมาโดน SL (เส้นเขียว) ก็เท่ากับออเดอร์นี้ถูกปิดลงแล้ว และผลลัพธ์ก็คือกำไร

วิดีโอเกี่ยวกับ Trailing Stop

มีคลิปวิดีโอตัวหนึ่งที่ทดสอบการใช้ Trailing Stop ให้ดูกันเพื่อให้เห็นภาพการทำงานของมันมากขึ้นครับ โดยในวิดีโอนี้จะใช้ Trailing Stop บนโปรแกรม MT4/MT5 ซึ่งหลายคนน่าจะใช้แพลตฟอร์มนี้อยู่ ก็ลองทำตามในคลิปนี้ได้เลยครับ

  • Focus นาทีที่ 0:05 อธิบายการทำงาน Trailing Stop
  • Focus นาทีที่ 0:42 ทดสอบการใช้ Trailing Stop + ปรับระยะห่าง
  • Focus นาทีที่ 2:24 คำแนะนำเพิ่มเติม

สรุป

 

Pending Order เป็นเครื่องคำสั่งเทรดที่ใช้ดักราคาที่ดีกว่า ส่วน Trailing Stop ก็เป็นตัว SL แบบไดนามิกไว้ป้องกันความเสี่ยง เมื่อ 2 ตัวนี้มาใช้งานร่วมกันก็จะเกิดการเทรดที่มีประสิทธิภาพแบบมากๆ เทรดเดอร์ที่ใช้เครื่องมือชนิดนี้แบบชำนาญก็แทบจะเป็นเสือนอนกิน Trade Setup ไว้แล้วปล่อยให้กำไรเป็นคำตอบ

อย่างไรก็ตามเครื่องมือ 2 ชนิดนี้มันช่วยลดความเสี่ยงได้ประมาณหนึ่งเท่านั้น ความเสี่ยงที่แท้จริงของเทรดเดอร์คือการขาดวินัยและความรอบคอบในการเทรด ถ้าเราทำทุกอย่างครบถ้วนแล้ว โอกาสที่จะกอบโกยกำไรจากตลาด Forex ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงครับ

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

สารบัญบทความ