Forex หมายถึงการแลกเปลี่ยนซื้อ-ขายเงินตราต่างประเทศ แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการซื้อขายก็ต้องมีเงินและสินค้าการซื้อขายจึงจะสมบูรณ์ ในตลาด Forex สินค้าที่ว่านี้ก็คือเงินนั่นเอง มันคือการซื้อ-ขายสกุลเงิน 2 สกุล ซึ่งมันก็มีคู่เงินที่น่าสนใจหลายประเภท แต่วันนี้เราจะไปเน้นกันที่ “คู่เงินหลัก” กันครับ
Highlight บทคัดย่อ
- คู่เงินในตลาด Forex ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
-
- Major Pairs (คู่เงินหลัก) ที่มี USD จับคู่กับสกุลเงินใหญ่ (EUR, GBP, JPY, CHF, AUD, CAD, NZD)
- Minor Pairs (คู่เงินรอง) ที่เป็นการจับคู่กันระหว่างสกุลเงินหลักแต่ไม่มี USD
- Exotic Pairs (คู่เงินแปลกใหม่) สกุลเงินหลักกับสกุลเงินเศรษฐกิจขนาดเล็ก
- คู่เงินหลัก 4 ตัวแรกคือคู่เงินหลักแบบสากลประกอบไปด้วย EUR/USD นิยมเทรดสูงสุด, USD/JPY นิยมใช้ทำ Carry Trade, GBP/USD มักจะผันผวนช่วงตลาดลอนดอน-นิวยอร์ก, USD/CHF ถูกมองว่าเป็น Safe Haven
- คู่เงินหลัก 3 ตัวสุดท้ายคือคู่เงินสินค้าโภคภัณฑ์ ประกอบไปด้วย USD/CAD ผูกพันกับราคาน้ำมัน, AUD/USD ขึ้นลงตามสินค้าโภคภัณฑ์, NZD/USD ปัจจัยหลักคือเศรษฐกิจโลก
คู่เงิน Forex มีกี่ประเภท?
เริ่มต้นในตลาด Forex อันกว้างใหญ่นี้ เราไปรู้จักกับคู่เงินแต่ละประเภทกันก่อนว่าเทรดเดอร์ทั่วโลกเขาจำแนกให้แตกต่างกันยังไง?
Major Pairs (คู่เงินหลัก)
- เมื่อพูดถึงเงิน เราก็คงนึกถึงการค้าขายหรือเศรษฐกิจใช่ไหมครับ? ลองนึกต่อว่าในโลกนี้ประเทศไหนเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด?…ณ ตอนนี้ คำตอบก็คือสหรัฐอเมริกา (นับจากมูลค่า GDP) มันจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมสกุลเงิน USD ถึงเป็นสกุลเงินหลักไงล่ะครับ
- คราวนี้ ประเทศที่เป็นคู่ค้ากับสหรัฐอเมริกาหลักๆ สกุลเงินของพวกเขาเมื่อจับคู่กับ USD ก็จะนับเป็นคู่เงินหลักด้วย เช่น EUR (ยูโร), JPY (เยนญี่ปุ่น), GBP (ปอนด์อังกฤษ), CHF (ฟรังก์สวิส), AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย), CAD (ดอลลาร์แคนาดา), NZD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์)
Minor Pairs (คู่เงินรอง)
- เมื่อ USD คือสกุลเงินหลักของเศรษฐกิจ…ทีนี้ประเทศที่เป็นคู่ค้ากับสหรัฐฯ เขาก็ไม่ได้ค้าขายกับแค่สหรัฐฯ แต่เขายังค้าขายกันเองอีกด้วยและคู่เงินของพวกเขาเมื่อไม่นับรวม USD ก็จะเรียกว่า “คู่เงินรอง”
- หรือพูดง่ายๆ คือ คู่เงินรอง = การจับคู่กันระหว่างสกุลเงินหลักอื่นๆ (EUR, GBP, JPY, CHF, AUD, CAD, NZD) แต่ตัด USD ออกไป
Exotic Pairs (คู่เงินแปลกใหม่)
- ทีนี้ประเทศทั้งหมดที่ได้กล่าวไป (รวมถึงสหรัฐฯ) ก็ต้องมีประเทศที่ทำการค้าขายด้วยแต่เป็นประเทศที่ขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าหรือสกุลเงินยังไม่เติบโตเท่าคู่ค้าหลัก คู่เงินเหล่านี้เราจึงเรียกว่า “คู่เงินแปลกใหม่” เพราะไม่ค่อยมีใครเทรดกันนั่นเอง
- ตัวอย่างเช่น USDTHB (ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาทไทย), USDZAR (ดอลลาร์สหรัฐฯ/แรนด์แอฟริกาใต้), GBPMXN (ปอนด์อังกฤษ/เปโซเม็กซิโก)
ตารางเปรียบเทียบ คู่เงินหลัก (Major) – คู่เงินรอง (Minor) – คู่เงินแปลกใหม่ (Exotic)
|
ประเภทคู่เงิน |
ลักษณะ | ตัวอย่าง |
| Major Pairs (คู่เงินหลัก) | คู่เงินที่มี USD + สกุลเงินหลักอื่นๆ (EUR, GBP, JPY, CHF, AUD, NZD, CAD) | EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, AUD/USD |
| Minor Pairs (คู่เงินรอง) | คู่เงินที่ ไม่มี USD แต่จับคู่กันระหว่างสกุลเงินหลัก | EUR/GBP, EUR/JPY, GBP/JPY, AUD/NZD |
| Exotic Pairs (คู่เงินแปลกใหม่) | คู่ระหว่าง สกุลเงินหลัก + สกุลเงินตลาดเศรษฐกิจเล็ก | USD/THB, EUR/TRY, USD/ZAR, GBP/MXN |
ความแตกต่างหลักๆ ของคู่เงินแต่ละประเภทคือเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้าขายกับสหรัฐฯ โดย USD เป็นเบอร์ 1 ของโลกในการค้ากับหลายประเทศ จึงใช้เกณฑ์ในการจำแนกประเภทคู่เงินโดยอิง USD เป็นหลัก
เจาะลึก 7 คู่เงินหลัก Forex
1. EUR/USD

- คู่เงิน EUR/USD ถือว่าเป็นคู่เงินที่มีการ ซื้อขายมากที่สุดในโลก
- จุดเด่นของ EUR/USD คือด้วยความนิยมสูง = สภาพคล่องเลยสูง ซื้อง่ายขายคล่องมันเลยส่งผลให้คู่เงินนี้มีค่าสเปรดต่ำ ในแต่ละโบรกเกอร์อีกด้วย
- คู่เงินนี้ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่าคู่เงินอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความผันผวนเลย ก็จะมีข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ นี่แหละคือปัจจัยหลักที่ทำให้ EUR/USD ผันผวน
- ดังนั้นควรติดตามข่าวจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งจะมีผลอย่างมากต่อราคาคู่เงินนี้
2. USD/JPY

- ในการเทรดคู่เงิน USD/JPY จะแปลกกว่าคู่อื่นตรงที่มีทศนิยมเพียง 2 ตำแหน่ง นั่นก็เพราะมูลค่าต่อ “1 pip” ที่ใหญ่กว่าคู่เงินส่วนใหญ่ในตลาด Forex (ค่าเงินเยนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ USD)
- จุดเด่นของ USD/JPY ก็คือเทรดเดอร์ชอบใช้ในการ Carry Trade เพราะเงินเยนมีนโยบายดอกเบี้ยต่ำ จึงถูกใช้เป็นสกุลเงินในการกู้ยืมเพื่อนำไปลงทุนในประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอย่าง USD
- ดังนั้นสิ่งที่ควรติดตามสำหรับคู่เงินนี้คือนโยบายอัตราดอกเบี้ยของทั้งสองธนาคาร ทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
3. GBP/USD

- คู่เงิน GBP/USD มีฉายาแปลกๆ คือ “เคเบิล” นั่นก็เพราะในอดีตใช้สายเคเบิลใต้น้ำส่งข้อมูลราคาแลกเปลี่ยนระหว่างลอนดอนกับนิวยอร์ก นั่นเอง
- จุดเด่นของ GBP/USD คือสภาพคล่องจะสูงมากโดยเฉพาะช่วงเวลา 20:00 น. ตามเวลาไทย เพราะเป็นช่วงที่ตลาดในลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน
- ปัจจัยของคู่เงินนี้จะคล้ายๆ กับ EUR/USD เลยคือได้รับผลกระทบจากข่าวเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร(โดยเฉพาะนโยบายการคลังของ UK) และสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข GDP, อัตราเงินเฟ้อ, หรือการจ้างงาน
4. USD/CHF

- เหตุผลหลักที่ทำให้ฟรังก์สวิส (CHF) เป็นสกุลเงินหลัก ไม่ได้มาจากขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เท่าสหรัฐฯ หรือจีน แต่มาจาก ความเป็นกลางทางการเงินและเสถียรภาพ สกุลเงิน CHF เลยเปรียบเหมือน Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยเลยล่ะ
- เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือความไม่แน่นอนทางการเมืองทั่วโลก เงินลงทุนจำนวนมากจะแห่เข้ามาที่สวิตเซอร์แลนด์เพื่อพักเงิน ส่งผลให้ค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้น
- ดังนั้นจุดเด่นของ USD/CHF ก็คือความเป็นสกุลเงินที่มั่นคงและปลอดภัยของฟรังก์สวิส นั่นเอง สิ่งที่เทรดเดอร์ควรจะติดตามเมื่อคิดจะเทรดสกุลเงินนี้ก็คือ…
- สถานการณ์โลก: โดยเฉพาะความตึงเครียดทางการเมืองพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ เงินฟรังก์สวิสมักจะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ความสัมพันธ์กับ EURO: ถ้าตลาดโลกมีเสถียรภาพ ความเคลื่อนไหวของฟรังก์สวิสจะค่อนข้างสอดคล้องกับค่าเงินยูโร
5. USD/CAD

- จุดเด่นคู่เงิน USD/CAD เป็นคู่เงินที่มีความสัมพันธ์ในทางเดียวกันกับราคาน้ำมันอย่างมากเพราะแคนาดาคือหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ใครที่ เทรดน้ำมัน อยู่ลองพิจารณาเทรด USD/CAD ด้วยก็ไม่เสียหายเลยครับ
- ยกตัวอย่าง: กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตจะทำให้อุปทานน้ำมันสูงขึ้นและราคาน้ำมันลดลง มูลค่าของเงินดอลลาร์แคนาดาก็อ่อนค่าลงตามไปด้วย (น้ำมันถูกลง > รายได้ลด > ค่าเงินอ่อน)
- ดังนั้นเทรดเดอร์ควรติดตามข่าวราคาน้ำมันเป็นหลัก(ข่าวพื้นฐานด้วย) เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าเงิน USD/CAD จะมีแนวโน้มลดลง (เพราะ CAD แข็งค่าขึ้น) และในทางกลับกัน เมื่อราคาน้ำมันลดลง ค่าเงิน USD/CAD ก็จะเพิ่มขึ้น
6. AUD/USD

- AUD/USD เป็นอีกหนึ่งสกุลเงินที่คล้ายกับ USD/CAD แต่อันนี้จะมีความสัมพันธ์ไปในทางเดียวกันกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะ ถ่านหิน, เหล็กและทองแดง
- จุดเด่นของ AUD/USD คือสะท้อนราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพราะออสเตรเลียเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบรายใหญ่ของโลก หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มขึ้น ค่าเงิน AUD ก็มีแนวโน้มที่จะแข็งค่า
- ปัจจัยที่เทรดเดอร์ควรติดตามคือราคาถ่านหิน เหล็กและทองแดง รวมถึงข่าวข่าวและนโยบายจาก ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
7. NZD/USD

- เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์พึ่งพาภาคการเกษตรอย่างมาก รวมถึงการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ราคาของสินค้าเกษตรกรรมและข่าวเศรษฐกิจมีผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) และมันคือจุดเด่นของคู่เงินนี้
- ซึ่งนอกเหนือจากข่าวและนโยบายของธนาคารกลางทั้ง 2 ประเทศแล้ว เทรดเดอร์ควรติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวและการค้าของนิวซีแลนด์ด้วย เพราะมีผลต่อคู่เงินนี้เช่นกัน
ทำไมสกุลเงินจีนถึงไม่ใช่สกุลเงินหลัก?
หลายคนอาจจะยังสงสัยทั้งๆ ที่เศรษฐกิจจีนใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่ทำไมทำไมเงินหยวนจีน (CNY) ถึงยังไม่ใช่สกุลเงินหลักในตลาด Forex…เหตุผลหลักๆ คือการควบคุมของรัฐบาลครับ
- เงินหยวนต่างจากสกุลเงินหลักอื่นๆ อย่าง USD หรือ EUR ที่มีการซื้อขายแบบเสรีกว่าครับ เพราะรัฐบาลจีนยังคงเข้ามาควบคุมและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนอย่างเข้มงวดอยู่
- เรื่องของสภาพคล่องที่จำกัด ในเมื่อรัฐเข้ามาแทรกแซงเกินไป แม้เศรษฐกิจจีนจะใหญ่โต แต่การควบคุมทำให้การไหลเข้าออกของเงินหยวนไม่เป็นไปอย่างเสรีเหมือนสกุลเงินอื่นๆ ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาด Forex น้อยกว่าใคร
ส่วนในอนาคตเงินหยวนจีน (CNY) ในตลาด Forex อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีก็ได้ จากปัจจัยของการค้าและขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้นรวมถึงการมาของ เงินหยวนดิจิทัล ด้วยครับ

วิดีโอเกี่ยวกับคู่เงินที่ดีที่สุดสำหรับเทรด
วิดีโอนี้จะสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับ การเลือกคู่สกุลเงินที่ดีที่สุด อาจจะเป็นคู่เงินหลักหรือคู่เงินรอง โดยจะเน้นไปที่บัญชี Cent ว่ามีหลักเกณฑ์การเลือกคู่เงินสำหรับยังไงบ้างครับ
- Focus นาทีที่ 00:15 การคำนวณความเสี่ยงเบื้องต้นในการเลือกคู่เงิน
- Focus นาทีที่ 02:14 ตัวอย่างการเทรดที่มีความเสี่ยงสูง
- Focus นาทีที่ 04:15 ตัวอย่างการเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำ
- Focus นาทีที่ 05:57 วิธีหาคู่สกุลเงินที่เหมาะสม โดยใช้ Average True Range (ATR)
- Focus นาทีที่ 07:46 คำแนะนำสำหรับมือใหม่ในการเลือกเทรดบัญชีขนาดเล็ก เช่น Cent
สรุป
ถ้าพูดถึงการเทรด Forex สินค้าหลักคงหนีไม่พ้นคู่เงินหลักเหล่านี้แน่นอนครับ ด้วยเหตุผลว่ามีสภาพคล่องสูง สเปรดแคบและมีปัจจัยเศรษฐกิจชัดเจนที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา จึงไม่แปลกใจเลยที่คู่เงินเหล่านี้จะเป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก ที่สำคัญคือไม่มี “คู่เงินที่ดีที่สุด” สำหรับทุกคน แต่จะมีก็เพียงคู่เงินที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ เพราะแต่ละคู่ก็มีปัจจัยหลักและจุดเด่นแตกต่างกัน
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากถึงเทรดเดอร์มือใหม่ทุกคนว่าการจะเทรดคู่เงินหลัก เราต้องศึกษาทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคให้ครบถ้วน ยิ่งคู่เงินเหล่านี้สามารถหาข้อมูลได้ง่ายอยู่แล้ว! ก่อนจะเทรดคู่รองลองเทรดคู่หลักก่อนดีกว่า
อ้างอิง
- ขนาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ /จีน – www.jagranjosh.com/general-knowledge/worlds-largest-economies-1694256013-1
- EURUSD – https://www.ig.com/en/trading-strategies/top-10-most-traded-currency-pairs-191206
- โบรกเกอร์สเปรดต่ำ – https://thaibrokerforex.com/low-spread
- Fed – https://forexbrokerking.com/fed
- Major Currency Pairs – https://www.ig.com/en/trading-strategies/major-currency-pairs-190618
- เงินหยวนดิจิตัล – https://www.blockhead.co/2025/05/05/digital-yuan-gaining-prominence-globally
ทีมงาน : thaiforexbroker.com

