โบรกเกอร์ Forex ที่ดี ควรมีคุณลักษณะอะไรบ้าง? รู้ก่อนลงทุน ปลอดภัย มั่นใจกว่า

การเลือกโบรกเกอร์ Forex แทบจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ เมื่อเราเริ่มที่จะเทรดด้วยตัวเอง ซึ่งโบรกเกอร์เปรียบเสมือนแหล่งทำเงินของเทรดเดอร์เลยก็ว่าได้ การจะเลือกโบรกเกอร์ที่ดีควรมีลักษณะตามที่บทความของเรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้


ฉบับย่อโดย Thaiforexbroker.com

  • คุณลักษณะของโบรกเกอร์ Forex ที่ดีจะช่วยให้ลงทุนอย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงในการลงทุน ทั้งด้านความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล แพลตฟอร์มที่ทันสมัย
  • โบรกเกอร์ Forex ที่ดีควรมีการเปิดเผยข้อมูลการเงิน มีใบอนุญาตที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เชื่อถือได้ เช่น FCA, ASIC หรือ FINMA รวมถึงมีการแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าเพื่อความปลอดภัย
  • โปรโมชั่นที่ดีควรสนับสนุนการเทรดของนักลงทุน เช่น โบนัสเงินฝากหรือCashback แทนที่จะมีเงื่อนไขยุ่งยาก

คุณลักษณะสำคัญของโบรกเกอร์ Forex ที่ดี

ก่อนอื่นเราจะเริ่มต้นด้วยคุณลักษณะของโบรกเกอร์ โดยจะเน้นเฉพาะคุณสมบัติของโบรกเกอร์ที่ดีเท่านั้นและจะแบ่งเป็นหัวข้อออกไปเพื่อให้ผู้อ่านได้ แยกชัดเจนยิ่งขึ้น

ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส

  • การที่โบรกเกอร์มีความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ เป็นปัจจัยคุณลักษณะสำคัญอันดับแรกที่โบรกเกอร์ควรจะ ซึ่งความโปร่งใสนั้นแยกย่อยได้ เช่น
    • เงินทุนภายในบริษัท
    • ใบอนุญาตและการควบคุม
    • ที่ตั้งสำนักงาน
  • เริ่มจากเงินทุนภายในบริษัทต้องมีเพียงพอ ส่วนมากโบรกเกอร์จะไม่ค่อยเปิดเผย แต่จะดีมากหากโบรกเกอร์ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับ งบการเงิน นโยบายเกี่ยวกับเงินทุนและพันธมิตรทางการเงินของโบรกเกอร์
  • ต่อไปในส่วนของใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพของโบรกเกอร์ forex ที่ดี ใบอนุญาตเหล่านี้ ยืนยันว่าโบรกเกอร์ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตัวอย่างหน่วยงานระดับต้นๆ เช่น
  • ประเทศที่โบรกเกอร์ Forex ตั้งอยู่ ก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือเช่นกัน ซึ่งโบรกเกอร์ที่ดีนั้นควรระบุตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานให้ชัดเจน และเทรดเดอร์ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศที่มีระบบกฎหมาย มีหน่วยงานกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและมีชื่อเสียงที่ดีในด้านการเงิน
หน่วยงานกำกับดูแลโบรกเกอร์
ตัวอย่างหน่วยงานกำกับดูแลและมอบใบอนุญาตดำเนินกิจการให้แก่โบรกเกอร์ Forex ทั้ง Tier 1 อย่าง ASIC และ Tier 2 อย่าง CySec จัดว่าอยู่ในระดับที่ไว้ใจได้

ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่สมเหตุสมผล

  • โบรกเกอร์ forex แต่ละเจ้าก็จะมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกเราควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมเหล่านี้ให้ดี เช่น
    • ค่าสเปรด ซึ่งสเปรดที่ต่ำกว่า หมายถึงต้นทุนการเทรดที่ถูกกว่า โบรกเกอร์บางรายอาจเสนอ สเปรดแบบคงที่ (Fixed Spread) บางรายเป็น สเปรดแบบลอยตัว (Variable Spread)
    • บางโบรกเกอร์อาจคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมจากสเปรด
    • เทรดเดอร์อย่าลืม ! ค่า Swap (ดอกเบี้ยข้ามคืน), ค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอน, ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน
  • ซึ่งค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายๆ นั้น ที่เราต้องพิจารณาก็เพราะมันจะสะท้อนผลลัพธ์สไลต์การเทรดของเรา เช่น
    • ถ้าเราเน้นเทรดระยะสั้น เข้า-ออกตลาดบ่อยครั้ง ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี สเปรดต่ำและค่าคอมมิชชั่นต่ำหรือไม่มีเลย
    • ถ้าเน้นถือสถานะข้ามวัน ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี ค่า Swap ต่ำและเงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น

เครื่องมือและแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย

  • แพลตฟอร์มการเทรดนั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างมากสำหรับเทรดเดอร์ แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ก็ควรจะต้องมีฟังก์ชั่นเบื้องต้นเช่น ความเสถียร มีอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย รองรับหลายอุปกรณ์ ซึ่งแพลตฟอร์มเทรดที่เข้าข่ายก็ได้แก่
    • MetaTrader 4 (MT4)
    • MetaTrader 5 (MT5)
    • cTrader
  • ส่วนโบรกเกอร์เองก็ควรมีเครื่องมือสำหรับช่วยเทรดเดอร์ในการวิเคราะห์ตลาดเสริมเอาไว้ เช่น ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ บัญชีเดโม่ เป็นต้น
MT5
ตัวอย่างแพลตฟอร์มเทรดยอดนิยมที่เทรดเดอร์ให้การยอมรับอย่าง MT5 สามารถรองรับในทุกอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ พีซี, แท็ปเล็ตและสามารถเข้าใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม

ฟีเจอร์หลากหลาย

  • โบรกเกอร์ forex ที่ดี ไม่ได้มีดีแค่ความน่าเชื่อถือแต่ควรมีบัญชีเทรดหลากหลายประเภท เพื่อรองรับเทรดเดอร์ที่มี สไตล์การเทรดและเงินทุนที่แตกต่างกัน
  • รวมไปถึงฟีเจอร์เสริมอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน เช่น
    • Copy Trade: สำหรับคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพ
    • PAMM: สำหรับมอบหมายให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ บริหารเงินทุนของเรา
    • MAM : ฟีเจอร์สำหรับผู้จัดการกองทุน ที่ต้องการบริหารบัญชีลูกค้าหลายบัญชีพร้อมกัน
  • ฟีเจอร์สุดท้ายที่ควรมีคือ VPS ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่ช่วยให้ EA (Expert Advisor) รันตลอด 24 ชั่วโมง โบรกเกอร์จะตอบโจทย์เทรดเดอร์กลุ่มนี้ได้มาก
Copy Trade
ตัวอย่างฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่าง Copy Trade บ่งบอกถึงความนิยมของผู้คนที่เลือกใช้บริการคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์มืออาชีพ เป็นหนึ่งในแนวทางการลงทุนที่น่าสนใจ

การบริการลูกค้า

ต่อมาเราดูในส่วนของการบริการรวมถึงรีวิวจากลูกค้า ว่าโบรกเกอร์ที่ดีควรมีคุณลักษณะเหล่านี้ยังไง

ความสะดวกรวดเร็ว

  • โบรกเกอร์ควรจะมีการบริการลูกค้าที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของ “การฝาก-ถอนเงิน” เพราะมันคือปัจจัยต้นๆ ที่เทรดเดอร์จะใช้ตัดสินคุณภาพโบรกเกอร์ เวลาที่เหมาะสมคือไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมง
  • รวมถึงการบริการแชท พูดคุย ตอบปัญหา ทั้งในส่วนของออนไลน์ เช่น Live Chat, อีเมล ส่วนของออฟไลน์ เช่น โทรศัพท์, สำนักงาน

คะแนนรีวิว

  • อีกหนึ่งตัวชี้วัดโบรกเกอร์ Forex ที่ดีก็คือคะแนนรีวิวและคำวิจารณ์จากผู้ใช้งานจริง ที่มาจากแหล่งรีวิวที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น

ความปลอดภัยของเงินทุน

  • อีกหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่สุดของ โบรกเกอร์ forex ที่ดี คือ ความปลอดภัยของเงินทุนลูกค้า เพราะเมื่อเราฝากเงินเข้าบัญชีเทรดก็ย่อมต้องการความมั่นใจว่าเงินของเราจะปลอดภัย
  • ดังนั้นโบรกเกอร์ควรมีนโยบายหรือแถลงการณ์ที่ขัดเจนเกี่ยวกับ การแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้า (Segregated Account) นั่นก็เพราะ
    • ป้องกันการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
    • ลดความเสี่ยงจากการล้มละลายของโบรกเกอร์
  • ซึ่งข้อนี้มันจะเกี่ยวข้องกับระดับคุณภาพของหน่วยงานกำกับดูแลและใบอนุญาตที่ทางโบรกเกอร์ได้รับด้วย
  • นอกจากนี้แล้ว โบรกเกอร์ยังอาจจะมีมาตรการอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเงินทุน เช่น
    • การเข้ารหัสข้อมูล
    • การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน
นโยบายความปลอดภัยของเงินทุนและเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
ตัวอย่างนโยบายพื้นฐานที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินทุนและเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ ส่วนมากโบรกเกอร์ที่ดีจะต้องมีอย่างน้อย 2 นโยบายประเภทนี้โดยเฉพาะการปกป้องและแยกเงินทุนของลูกค้า

ข้อเสนอและโปรโมชั่น

  • เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าโบรกเกอร์ที่ดีต้องมีโปรโมชั่นหรือโบนัสแจกให้ตลอดหรือหลากหลาย ซึ่งความจริงเทรดเดอร์ต้องแยกแยะให้ออกว่าโปรโมชั่นใด “มีประโยชน์หรือแค่หวือหวา”
  • โปรโมชั่นที่มีประโยชน์ ต้องเป็นโปรโมชั่นหรือโบนัสที่ช่วยให้การเทรดของเราง่ายขึ้น เรียนรู้มากขึ้น เช่น
    • โบนัสเงินฝากเพื่อเพิ่มทุนในการเทรด
    • Cashback คืนเงิน จาก ค่า Spread หรือ ค่าคอมมิชชั่น
    • การแข่งขันเทรดชิงรางวัล เพื่อฝึกทักษะของเรา
  • ตัวอย่างโปรโมชั่นที่หวือหวาแต่ไม่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์
    • โบนัสที่มีเงื่อนไขยุ่งยาก เช่น ต้องเทรดครบจำนวน Lot ที่กำหนดถึงจะถอนเงินโบนัสได้
    • โปรโมชั่นที่จำกัดเวลาจะยิ่งกดดันเทรดเดอร์ให้เทรดรวนได้
โปรโมชั่นและโบนัส
ตัวอย่างโปรโมชั่นและโบนัสที่เน้นการฝึกฝนและช่วยเหลือเทรดเดอร์ นับเป็นโบนัสที่มีประโยชน์ต่อเทรดเดอร์และบ่งบอกถึงคุณภาพของโบรกเกอร์ในภาพรวมได้

วิดีโอที่เกี่ยวกับการเลือกโบรกเกอร์ที่ดี

ทีมงานได้ไปเจอกับคลิปวิดีโอที่เทรดเดอร์คนนี้มาแนะนำการเลือกโบรกเกอร์ที่ดี ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวข้อกับบทความของเราจึงอยากจะแบ่งปันกับผู้อ่าน ซึ่งตัวของเทรดเดอร์คนนี้มีปัจจัยที่จะเลือกโบรกเกอร์ค่อนข้างละเอียดและน่าสนใจ โดยทางทีมงานจะแจกแจงในแต่ละช่วงเวลาเอาไว้ให้

  • นาทีที่ 00:20 ข้อบังคับและเลเวอเรจ
  • นาทีที่ 01:17 สเปรดต่ำและความสามารถในการทำกำไร
  • นาทีที่ 01:43 ค่าคอมมิชชัน
  • นาทีที่ 02:13 สินค้าที่จะเทรด (Forex, Crypto, Indices)
  • นาทีที่ 02:38 ทดสอบโบรกเกอร์ด้วยบัญชีทดลอง
  • นาทีที่ 04:14 ความเร็วในการดำเนินการ
  • นาทีที่ 05:06 เกณฑ์ส่วนตัวในการเลือกโบรกเกอร์

สรุป

หวังว่าเทรดเดอร์ที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะมีเกณฑ์มาตรฐานในการเลือกใช้บริการโบรกเกอร์สักเจ้าหนึ่งนะครับ เพราะการเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ดีถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในระยะยาวของเทรดเดอร์อย่างเราๆ โบรกเกอร์ที่มีคุณลักษณะครบถ้วนตามที่กล่าวไปในบทความ จะช่วยให้เทรดได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

ดังนั้นโบรกเกอร์ที่มีคุณลักษณะเหล่านี้จะเป็นเสาหลักเพื่อให้มั่นใจว่าเงินลงทุนของคุณจะอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญที่คุณไว้ใจได้ อีกทั้งลดความเสี่ยงในการเทรดของเราไปในตัว

ทีมงาน : thaiforexbroker.com