วิธีทำให้การเทรด Forex ไม่เป็นการพนัน
สืบเนื่องจาก บทความ Forex เป็นการพนันหรือไม่นั้น เราจะเห็นว่า Forex สามารถเป็นได้ทั้งการพนันและการลงทุน แล้วจะทำอย่างไรไม่ให้มันเป็นการพนันกันหล่ะ เนื่องจากการลงทุนนั้นจะต้องรู้ 2 อย่างคือ ความน่าจะเป็น และ ผลตอบแทน การที่จะทำให้ Forex เป็นการลงทุนต้องปรับทั้งหมด ซึ่งจะนำไปสู่ทั้งวิธีการเทรด และ การปรับ Mindset ของการเทรด โดยเราจะเสนอเป็นหัวข้อในเนื้อหาต่อไปนี้
ปรับลดแต้มต่อของ Broker
ปรับลดแต้มต่อของ Broker
รูปที่ 1 แสดงความได้เปรียบของ Broker นั่นคือค่าธรรมเนียม (House Edge)
ที่มา: https://knowyourodds.net.au/wp-content/uploads/2011/04/houseedge.jpg
แต้มต่อของโบรคเกอร์คือ ค่าธรรมเนียม ถ้าหากเรากินคำน้อย ๆ แล้วกินบ่อย ๆ และมี Stop loss ด้วย เราจะต้องปรับแต้มต่อก่อน นั่นคือ มีช่วง Take Profit และ Stop Loss ที่กว้างเมื่อเทียบกับ Spread จึงควรจะตั้ง TP มากกว่า 100 Pip ขึ้นไป หมายความว่าเราต้องย้ายขึ้นไปเล่นกราฟ Time Frame ใหญ่ตั้งแต่ 4 ชั่วโมง จนถึง Daily เลยทีเดียว เมื่อปรับเพิ่ม Time Frame มันจะกระทบจำนวนครั้งของการเทรดของเราโดยอัติโนมัติ เพราะมันไม่มีสัญญาณให้เทรดบ่อยนัก ทำให้เราไม่ Overtrade ทำให้เราไม่โลภเกินไป เพราะเราตั้งวิธีการของเราไม่ให้เกิดความโลภ นั่นทำให้ Mindset ของเราดีด้วย เมื่อเราปรับ Time Frame แล้วสิ่งที่เราต้องปรับตัวต่อมาคือ ความเสียเปรียบของตัวเราเอง นั่นคือ Leverage
ปรับลดความเสียเปรียบของตัวเอง
Leverage เป็นอำนาจในการซื้อของที่ Broker ให้เรามาเพื่อให้เราซื้อของโดยที่ไม่ได้ใช้เงินของเราได้ หมายความว่าทำให้เราส่ง Lot ได้ใหญ่กว่าปกติ เมื่อส่งได้ใหญ่กว่าปกติ เราก็มีแนวโน้มว่าจะทำผิดวินัย เพราะว่าสามารถส่ง Lot ใหญ่ได้ ถ้าเราหงุดหงิดหรืออยากเอาคืนจากการเทรดครั้งที่แล้ว หลายคนอาจจะแย้งว่า Leverage ในการเทรดแบบมี Stop Loss ไม่มีผลเพราะเราตั้ง Stop Loss ไว้ แต่มันทำให้เรามีโอกาสเทรด Over Lot ฉะนั้น อย่าไว้ใจตัวเอง เพื่อไม่ให้ต้องเจอกับคำว่า “เฮ้ย!! เมิงไม่มีวินัยในการเทรดหว่ะ” เราต้องป้องกันไม่ให้เราผิดวินัยก่อน นั่นคือ ปรับ Leverage โดย Leverage ที่เหมาะสมสูงที่สุดคือ 1:50 ไม่ควรจะเกินเท่านี้ เพราะว่าหลังจากนั้นจะทำให้คุณสามารถใช้จำนวนครั้งในการเทรดได้มาก และหมดตัวในที่สุด
ถ้าหากเราเทรด Lot ใหญ่แล้วผิดพลาดใน Leverage ที่สูงจะเหมือนกับว่าคุณเทรดไปหลายครั้งแล้วพลาดอย่างไรอย่างนั้น เราป้องกันไม่ให้เราผิดวินัยเลยดีกว่า จะเห็นว่าการกำหนดอะไรทุกอย่างทั้งหมดมันมีผลต่อ Mindset ในสงครามกล่าวคือ “การวางตนอยู่ในจุดที่ไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบ” จึงเป็นอย่างนี้แหละ เมื่อปรับลดความเสียเปรียบตัวเองที่ Broker สร้างขึ้นแล้ว เราก็สามารถจัดการกับโอกาสและผลตอบแทนของเราได้
ปรับความน่าจะเป็น
ปรับความน่าจะเป็น
รูปที่ 2 แสดงความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุการณ์ และโอกาสการเกิดในตลาด Forex ก็เช่นกัน
ที่มา: http://www.maths.nayland.school.nz/Year_Junior/Probability/4_tree_diagrams.htm
ข้างต้นที่กล่าวมายังเป็นเพียงการปรับเพื่อสร้าง Mindset ที่ดีในการเทรดเท่านั้น เรายังไม่ได้พูดถึงความน่าจะเป็นที่กล่าวไว้แต่แรกเลย การปรับความน่าจะเป็นในการเทรด เราสามารถใช้ Indicator เพื่อทำนายการสร้างโอกาสเพิ่มที่จะบอกว่าจุดที่เราเข้าเทรดนั้นจะเป็นจุดที่นำเราไปชน Take Profit มากกว่าไปชน Stop loss ความเชี่ยวชาญในเครื่องมือการเทรด เช่น Moving Average หรือ Relative Strength หรือ Indicator อื่น ๆ ซึ่งโดยทั่วไป Indicator มีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น ต่อให้มันจะเยอะแยะมากมายขนาดไหนก็ตาม
การใช้ Indicator ได้อย่างชำนาญจะเพิ่มความน่าจะเป็นให้เราได้ แต่ขอแค่เก่งจริง ๆ สักอย่าง ตรวจสอบสัญญาณเทรดจากตรงนั้นว่า ถ้าเข้าตามเครื่องมือตัวเดียวแล้วมันแม่นกี่ครั้งจาก 100 ครั้ง ซึ่งจะทำให้เราสามารถประมาณการตั้งค่า Stop loss และรู้ระยะทางที่มันควรจะไปได้ด้วย จะว่าไปมันก็เรียกกลาย ๆ ว่า Back test นั่นแหละครับ แต่แค่เป็นการตรวจสอบความแม่นของ Indicator ของเราเฉย ๆ ว่า 100 ครั้งถูกกี่ครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ทำการเทรดแค่ 100 ครั้งนะครับ โดยมากเพื่อให้เข้าสู่ทฤษฎีแนวโน้มเข้าสู่ศูนย์กลาง นั้นต้องทำการบันทึกการให้สัญญาณตั้งแต่ 1000 ครั้ง บทความต่อไปผมจะกล่าวถึงการทำ Back Test เพื่อทดสอบสัญญาณ Indicator กันครับ
การปรับผลตอบแทน
จากข้อก่อนหน้าเราจะได้รู้ว่า Indicator ตัวไหนแม่นที่สุดสำหรับเรา เราจะทราบโอกาสและความน่าจะเป็นในการที่มันจะชน Take profit ของเราแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือ การกำหนด Risk: Reward บทความก่อนหน้าผมยกตัวอย่างไว้ตั้ง 1: 6 หมายความว่า อัตรากำไรสูงกว่าการขาดทุนตั้ง 6 เท่า นั่นคือ เทรดถูก 1 ครั้งสามารถชดเชยการผิดได้ 6 ครั้ง แต่ในความเป็นจริงเหตุการณ์แบบนั้นเกิดยากมากครับ เพราะอะไรหน่ะหรือ? เพราะว่าเราไม่รู้เลยว่า ราคาจะไปสิ้นสุดที่กี่เท่าของจุด Stop loss ที่เราตั้งไว้นั่นเอง
ฉะนั้นสิ่งที่เราควรกำหนดคือ 2 – 3 เท่าต่อครั้งในการเข้าเทรด เรียกว่า ต้องมั่นใจว่าวิ่งไกลถึงเข้าเทรด อย่าเข้ามั่วซั่วเหมือนคนป่าได้ปืน ยิงรัว แม่มเลย!!! ซึ่งจุดของการปรับผลตอบแทนนี้มันมีความเชื่อมโยงระหว่าง ความน่าจะเป็นอย่างแยกกันออกไม่ได้เพราะว่า
ความน่าจะเป็นของเรากำหนดโอกาสชนะ แต่ถ้าเราเข้าช้าเกินไป คือ มันเกิดเทรนด์กลับตัวไปแล้วและเคลื่อนไหวใกล้ นั่นคือ เทรนด์ไปไม่ไกลทำให้อัตราส่วน Risk ต่อ Reward ของเราไม่ดีเพราะเราดันไปเข้ากลางเทรนด์ยังไงหล่ะ จุดเข้าเทรดกับผลตอบแทนที่มันเป็นจึงสอดคล้องกันอยู่เหมือนโซ่จักรยาน ถ้าปลดล็อคโซ่ข้อต่อไม่ได้มันก็จะเชื่อมกันยาวไป หาจุดปลดล็อคมันได้ มันก็จะได้อยู่อย่างนั้นแหละ
เพียงเท่านี้เราก็ได้ปัจจัยที่ทำให้เรารู้ว่าเราจะได้กำไรได้อย่างไรในการเทรด Forex การ Forex จะเป็นการลงทุนขึ้นมาทันที เพราะว่าเราสามารถปรับจูนความได้เปรียบของเราเองนี่แหละครับ แต่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้หรอก เพราะว่าก้าวข้ามตัวเองไม่พ้นเสียก่อน ไม่รอดมาถึงทำกำไรกันหรอก เพราะมัวแต่หลงจะเอาคืน หลงจะเทรด Lot ใหญ่ หลงจะรวยชั่วข้ามปี ไม่ได้คิดว่ามันคือการลงทุนอะไรเลย ขณะที่บางกลุ่มเข้ามาในตลาด Forex ยังกลัวและคิดว่ามันเป็นเกมส์ที่หลอกลวงคนอื่นอยู่เลย
Keywords: Risk Reward, ความน่าจะเป็นในการเทรด, Forexไม่ใช่การพนัน,
ทีมงาน : thaiforexbroker.com