ความผิดพลาดเปิดเผยทางชาร์ตอย่างไร

Forex ชาร์ต

ความผิดพลาดเปิดเผยทางชาร์ตอย่างไร

               การเทรดเป็นเรื่องท้าทายอย่างหนึ่ง การมีความสุขกับสิ่งที่ท่านทำ กับความเครียดหรือกดดันตอนที่ท่านทำ บอกได้ว่าท่านเทรดเป็นหรือเปล่า บางเทรดเดอร์โดยเฉพาะเทรดเดอร์ใหม่ๆ ที่สนใจแค่อินดิเตอร์ ไม่ได้สนใจศึกษาทุ่มเทเวลาให้ความสำคัญกับการหาความรู้ที่ถูกต้อง กลับศึกษาแค่อินดิเคเตอร์พอเข้าใจเทรดแล้วก็เสพความตื่นเต้นกับการเทรด เวลาผ่านไปกว่าจะรู้ตัวรูปแบบการตัดสินใจในการเทรดก็โดนครอบงำด้วยวิธีการอิงอินดิเคเดอร์เป็นหลัก  ปล่อยให้ความโลภและความกลัวเป็นตัวชี้นำหรือถูกกระตุ้นได้ง่ายเมื่อเป็นบาร์ยาวๆ มีเหตุผลต่างๆ เช่น ถ้าไม่เปิดตอนนี้ก็จะตกรถตกขบวนบ้าง

               อย่างแรกที่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นการเปิด sell หรือ buy คือเป็นการเปิดออเดอร์หลังจากราคาวิ่งไปแล้ว การเทรดแบบนี้จะเป็นการเทรดที่ถูกกระดุ้นด้วยอารมณ์หรือส่วนมากมาจากอินดีเคเดอร์เป็นหลัก

               อย่างแรก ถ้าไม่เข้าใจตลาด เทรดด้วยความรู้ที่อิงอินดิเคเตอร์เป็นตัวนำ แทนที่จะเป็นตัวยืนยันการเทรดหลังจากราคาวิ่งไป จะกลายเป็นว่า ตอนนี้เปิดเทรด จุดนั้นเหมือนว่า อะไรก็สวยไปหมด  มีบาร์ยาวๆ ใครๆ ก็เปิดเทรดทางนั้นราคาต้องไปต่อแน่นอน พอเปิดเทรดไป ไม่นานราคาก็วิ่งสวน

               อีกอย่างหนึ่งที่เปิดเผยให้เห็นคือ เปิดเทรดเข้าหา price level หรือ demand/supply ที่มี unfilled orders  หรือเพิ่งมีการเปิดเผยว่ามี imbalance เกิดขึ้น

               ดูอย่างเลข 1 ท่านจะเห็นว่าก่อนราคาลง ราคา  bearish flag หลังจาก momentum  การเทรดด้วยดูแค่บาร์ยาว หรือข้อมูลจากอินดีเคเตอร์ หรือ momentum ตามด้วย flag แบบนี้ จะกระตุ้นให้รายย่อยอยากเปิด sell เป็นหลัก ท่านจะเห็นว่าพอราคาไม่ไปต่อ หรือบารงเทรดเดอร์อาจใช้ Fibo Retracement ประกอบก็จะเปิดเทรด แต่ราคาลงมาไม่นานราคาก็รีบขึ้นไป แต่ถ้าท่านมองจากมุมขาใหญ่ที่เข้าใจตลาด การทำงานออเดอร์ และเทรดเดอร์ที่เข้าร่วมในตลาดอย่างดี ความผิดพลาด 2 ข้อที่กล่าวมา ทำให้เรารู้ว่าฝั่งตรงข้ามที่เราเทรดนั้นเป็นขาใหญ่หรือรายย่อย เพราะการเทรดต้องการเทรดสวนรายย่อย เพราะขาใหญ่ต้องการดันราคาสวนรายย่อยได้ง่ายกว่าที่จะดันราคาสวนขาใหญ่ด้วยกัน

               ความผิดพลาดที่เปิดเผยทางชาร์ตคือการเปิดเทรดหลังราคาวิ่งไปแล้ว และเปิดเทรดเข้าหาพื้นที่ deman/supply หรือ key price level มีแต่รายย่อยทำ ดังนั้นการหาว่ารายย่อยเทรดอย่างไรไม่ยากเกินไปนักสำหรับขาใหญ่

               ขาใหญ่ใช้ประโยชน์ข้อมูลพวกนี้อย่างไร

               ขาใหญ่เทรดจะเปิดเทรดหรือจัดการออเดอร์เมื่อพวกเขาเห็นว่า ออเดอร์ฝั่งตรงข้ามมากพอ ขาใหญ่จะใช้ข้อมูลหรือความผิดพลาดที่เปิดเผยพวกนี้เพื่อการเข้าเทรดตำแหน่งที่ดีกว่า (buy low, sell high) และเพื่อเร่งราคา accelerate the price move

               การเปิด sell หลังจากราคาวิ่งไปแล้วที่เลข 1 อย่างแรกหลังจาก momentum ลงมา ทำให้รายย่อยมองว่าเทรนน่าจะลงต่อและราคาทำได้แค่ bearish flag ด้วยไม่มี buying pressur เข้ามาเลยกระตุ้นให้อยากเทรดต่อ และดู CCI อยู่เหนือกว่า 100 พอหักหัวลง เทรดเดอร์ที่อิงข้อมูลจากอินดีเคเตอร์ตัวนี้ ก็จะมอง overbought ราคาหักลง ยืนยันการลงต่อจาก momentum แรก ได้เวลาเปิด sell   นี่คือที่มา sell orders แหล่งแรก และที่ 2 คือ ตอนที่ราคาทำ bearish flag ก็จะมี buy positions ที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์พวกนี้ก็จะตั้ง stop loss ต่ำกว่า low ของการลง momentum นี่คือแหล่ง sell orders ที่ 2 สุดท้าย เทรดเดอร์พวก breakout ก็จะตั้ง sell stops ต่ำกว่าหรือแถว low ที่กล่าวมา นี้คือแหล่ง sell orders แหล่งที่ 3  ทั้ง 3 แหล่งนี้มีแต่ sell orders ที่จะเข้าตลาดถ้าราคาลงมาต่ำกว่า low นั้น นี่คือออเดอร์ฝั่งตรงข้ามที่มีจำนวนมากพอที่ขาใหญ่ต้องการถ้าพวกเขาต้องการเปิด buy เพื่อเข้าตลาด และพอราคาเบรด flag ตำแหน่งที่กล่าวขาใหญ่ก็จะใช้ short positons ที่อยู่ในตลาดที่ต้องออก เพื่อจำกัดความเสี่ยง และเพื่อเร่งราคาให้ไปต่อ

               ต่อมาการเปิด buy หลังราคาวิ่งไปเยอะ เปิดเผยร่องรอยรายย่อยอีก เพราะบาร์ยาวๆ และไปทางเดียวกัน และอินดิเคเตอร์ก็ชี้ว่าไปทางขึ้น ก็เกิดวัฏจักรออเดอร์ไปทางขึ้น ก็เป็นแหล่งข้อมูลที่ขาใหญ่ใช้เพื่อปิดทำกำไรจากจุดที่พวกเข้าเปิด buy ที่เลข 1  และราคาลงมาเลข 3 ก็เปิดโอกาสให้ขาใหญ่เข้าเทรดอีกรอบ ท่านจะเห็นว่าการเข้าเทรดที่เลข 1 3 และ 6 ล้วนเป็นการเปิด buy ในพื้นที่เดียวกัน

               อีกตัวอย่างความผิดพลาดที่ขาใหญ่ใช้ประโยชน์ ที่เลข 1  การเปิด sell ต่อหลังจากที่ราคาลง เมื่อดูอินดิเคเตอร์ ก็หักลงจาก overbought และราคาก็เบรก low มองมาทางช้าย ราคาลงด้วยบาร์ยาวๆ มีแต่เทรดเดอร์ เปิด sell ถ้าไม่เปิดเดี๋ยวพลาดโอกาส  จุดเลข 2 ที่เปิดก็เหตุผลเดียวกันแต่คนละทาง   ยิ่งพอราคาเบรคลงแล้วเปิด sell ที่เลข 3 และเลข 4 ยิ่งเห็นชัดเพราะราคาเบรคลงอีกรอบ ยิ่งทำให่รายย่อยมั่นใจว่าราคาน่าจะลงต่อ จะเห็นว่า price structure  ตั้งแต่ 1 3 และ 4 เป็นโครงสร้างที่กระตุ้นให้รายย่อยเปิด sell เป็นหลัก เป็นความผิดพลาดที่เห็นประจำที่เปิดเผยให้เป็นบนชาร์ต

               ดังนั้นการเทรด จำเป็นต้องรู้และหาความผิดพลาดของฝั่งตรงข้ามที่เราจะเทรดสวนแบบขาใหญ่บนชาร์ตเป็น เพื่อที่จะได้เทรดด้วยความระมัดระวังหรือเทรดตามที่ขาใหญ่เทรดเป็น

ทีมงาน : thaiforexbroker.com