ทำไม Dragonfly และ Gravestone Doji ไม่ต่างจาก Pin Bar

ทำไม Dragonfly และ Gravestone Doji ไม่ต่างจาก Pin Bar

               การเทรด price action จะอ่านราคาเป็นหลักโดยจะใช้ candlesticks หรื bar เป็นหลักการในการกำหนดรูปแบบต่างๆ เช่นใช้แท่งเทียนเดียว เช่น Doji ที่มีส่วนหางบาร์หรือ wick ยาวๆ ด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนที่เป็น Body ราคาเปิด-ราคาปิดแถวเดียวกัน (Doji, Dragonfly doji และ Gravestone doji) หรือ Pin Bar

               ความต่างระหว่าง Pin Bar และ Drargonfly Doji และ GravestoneDoj  สำหรับ Pin Bar ราคาเปิดและราคาปิดจะต่างกันเสมอ จะเห็นส่วนที่เป็น Body เสมอ ส่วน Dragonfly/gravestone doji ราคาเปิดและราคาปิดจะเป็นราคาเดียวกันหรือใกล้กันมาก เลยทำให้แทบไม่มีหรือไม่มีส่วน Body เกิดขึ้นแบบ Pin Bar จะเห็นว่าจุดต่างระหว่า Pin Bar และ Dragonfly/Gravestone Doj แค่เรื่องส่วนของ Body เท่านั้นเอง สิ่งที่มีเหมือนกันคือหางบาร์หรือ wick ที่สื่อความหมายเดียวกัน รูปแบบที่เห็นจะเหมือนกันมาก

               หลักการทั่วๆ ไปก็จะบอกแรงเข้า selling หรือ buying ว่าเมื่อจบช่วงเวลาแท่งเทียนฝ่ายไหนเป็นฝ่ายชนะ แต่การเทรดไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเพราะแค่ช่วงเวลาแท่งเทียนนั้นจบบอกหมดว่าจะเทรดทางไหน อย่างเช่นที่เลข 1 เรื่องหางบาร์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนประกอบสำคัญยิ่งยาวยิ่งดี บอก trading pressure จากทางนั้นๆ เลยทำให้ตีความ Dragonfly Doji และ Gravestone Doji บอกถึงการกลับเทรน trading pressure บอกถึงเรื่อง rejection ท่านจะเห็นว่า เกิดพื้นที่เดียวกันหมด แสดงว่าขาใหญ่ต้องการเข้าเทรดหรือเปล่า เพราะเมื่อมองจากโครงสร้างราคาทำไม่ราคาลงไม่ได้และมีการรักษาจุดนั้นไว้ ช่วงที่ตลาดกลายเป็น consolidation จนสุดท้ายกลายมาเป็น DragonFly Doji ที่เลข 1

               เกิด rejection พื้นที่เดียวกัน มองได้ว่าเป็นพื้นที่สะสมออเดอร์ของขาใหญ่ตามด้วยการปั่นราคาหรือเปล่า แต่ราคาไม่ได้ดันลงไปล่า stop hunt ราคาขึ้นมาอย่างเร็ว ที่เลข 1 ถ้าเทรดแค่ Dragonfly Doji ก็จะทำงานให้ท่าน ถ้าไม่สนในปริบท แต่พอดีเปิดที่ปริบทไปทางนั้น

               พอมาที่เลข 2 เป็น Gravestone Doji ทั้งที่เงื่อนไขการเทรด Doji ได้หมด เช่น 1. ราคาทำเทรนขึ้น 2. มี upper wick ด้านบนยาวๆ 3. มีส่วน wick ด้านล่างน้อย และ 4. ราคาปิดแถวเดียวกับราคาเปิด  เป็นสัญญานบอกว่าโอกาสราคาลงมี หรือมองเรื่อง trading pressure ด้าน sellers เป็นฝ่ายเอาชนะได้ เมื่อดูแต่ candlestick pattern ก็จะหาโอกาสเทรดเป็นหลัก จะเห็นว่าราคาลงแค่แถว low ของแท่งเทียน Doji อยู่ 2 แท่งเทียนสุดท้ายราคาไปต่อ

               จะเห็นว่า Gravestone Doji ตัวที่เลข 2 ไม่ทำงานแบบ Dragonfly Doji (ตรรกะเดียวกันประยุกต์คนละทางการวิ่งของราคา) ที่เลข 1 อันนี้ต้องเข้าใจว่าอะไรอยู่เบื้องหลังภาพของ Doji ที่เกิดขึ้น ราคาขึ้นหรือลงเพราะ market orders เกิน limit orders ทางที่ market orders วิ่งไป และ market orders ไม่ได้มาจากการเปิดเพื่อเข้าเทรดอย่างเดียว มาจากการปิดเพื่อออกจากการเทรดด้วย ที่เลข 1 Doji ตัวนี้เกิดจาก market order เป็นหลัก มีมากและเยอะ และเทรดเดอร์สนใจแค่ราคปัจจุบันเท่านั้น หลังจากเกิด Dragonfly Doji แท่งเทียนต่อมาจะเห็นว่า market orders มาตามอีก เพราะการออกจากตลาดของเทรดเดอร์ที่ติดลบในกรอบที่เลข 1 ที่เปิด short positions แต่ Gravestone Doji ตัวนี้ sell market orders มาจากการปิดกำไรของ long positons ที่เปิดเทรดขึ้นมาเป็นหลัก  เพราะหลักการปิดทำกำไร เมื่อท่านจะปิดทำกำไร positions ที่เปิดเทรด ในที่นี้คือ long positions จะกลายเป็นการเปิด sell market orders และออเดอร์พวกนี้ก็จะ fill กับ buy market orders ที่ขึ้นมา ขณะเดียวกันเมื่อเทรดเดอร์บางกลุ่มเห็นราคาเกิด doji ก็หันมาเทรดสวนเทรนด้วย จะเห็น 2 บาร์ที่ตามมา ก็จะเปิดโอกาสให้ขาใหญ่เปิดเทรดเพิ่มอีกได้ด้วย พอราคาดันเกิน high ของแท่งเทียนที่เป็น Doji จะเป็นราคาขึ้นไปต่อเนื่องอีกบาร์ เพราะการออกจากตลาดของเทรดเดอร์ที่เทรดสวน

               จะเห็นว่า Pin Bar มีแค่เรื่องส่วน Body ที่เน้นว่าราคาเปิดและราคปิดต้องไม่ราคาเดียวกัน ส่วน Dragonfly/Gravestone Doji เน้นไปที่ราคาเปิดและราคาปิดที่เดียวกันหรือแทบราคาเดียวกัน แต่เรื่องออเดอร์ที่เกิด หางบาร์หรือ wick ไม่ต่างกันว่าเป็น trading pressure ที่มาจากการเข้าเทรดหรือการออกเทรด

               ดังนั้นเมื่อเทียบกันระหว่าง Dragonfly Doji และ Gravestone Doji กับ Bullish Pin Bar และ Bearish Pin Bar ตรรกะเรื่องออเดอร์ที่ทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ต่างกัน เพราะมุมมองของ wick หรือหางบาร์เป็นหลักว่าเกิดจากอะไรจากการเข้าเทรดหรือการออกเทรดต้องดูให้ออกและดูให้สัมพันธ์กับปริบทที่เกิดขึ้น ไม่อาจมองแค่รูปแบบแท่งเทียนแล้วเทรดเลย  และอีกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนกันในส่วนของ wick ที่เกิดขึ้นคือเรื่องของ trapped traders ในพื้นที่ๆ เป็น wick

               หลักง่ายๆในการมองว่าเป็นการเข้าเทรดหรือเปล่าให้ดู impulsive move ประกอบเป็นจุดอ้างอิงสำหรับอ่านปริบทการเทรดเช่น support/resistance support/demand หรือ pivots  ต้องเปิดเผยร่องรอยการเข้าเทรดให้เห็นไม่จำเป็นต้องเปิดเทรดเพราะดูแท่งเทียนและรูปแบบ แล้วเปิดเทรดตามแท่งเทียนอย่างเดียว เมื่อเห็น impulsive move ประกอบท่านสามารถดูรูปแบบที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับ dynamic support/resistance ที่เกิดขึ้นแล้วค่อยเทรดตามอย่าง Bearish Pin Bar ที่เลข 2 เมื่อท่านเห็นเกิดขึ้นพื้นที่เดียวกันกับเลข 1 แต่ราคาไม่ดันลงมาเพราะปริบทหลังที่เกิดเลข 1 บอก เพราะราคาไม่อาจทำ low ใหม่ได้ ราคากลับมา เลยเกิดการลดหรือซึมซับ limit orders ที่พื้นที่ตรงนี้ด้วย พอราคาดันขึ้นไป trapped traders ที่เปิดเทรด short positions ตอนเกิด pin bar ก็จำต้องออก เลยเป็นการเพิ่ม buy market orders เข้ามาทันที เลยทำให้ราคาขึ้นไปได้ง่าย

ทีมงาน : thaiforexbroker.com