ประสบการณ์ เทรด Forex กับโบรกเกอร์ยอดนิยม

ในบทความนี้ขอมาแชร์ ประสบการณ์ เทรด Forex การใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ ของโบรกเกอร์ยอดนิยมอย่าง Exness, XM และขอเสริมด้วย Tickmill เป็นเหมือนความรู้ที่อยากจะบอกต่อ ซึ่งตัวผมเองได้มีโอกาสใช้บริการทั้ง 3 โบรกเกอร์นี้


ฉบับย่อโดย Thaiforexbroker.com

  • การใช้งาน Exness มีประสบการณ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะฟีเจอร์ Social Trading ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคัดลอกการเทรดจากมืออาชีพ พร้อมระบบการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว รองรับทั้ง QR Payment ทุกธนาคารในไทย
  • XM เป็นโบรกเกอร์ที่ให้โบนัสฟรี $30 สำหรับผู้เปิดบัญชีใหม่ พร้อมเงื่อนไขที่ชัดเจนในการถอนกำไร และยังมีโบนัสเงินฝากเพิ่มเติมให้โดยอัตโนมัติ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเทรดด้วยทุนต่ำ
  • ประสบการณ์ เทรด Forex กับ Tickmill มีจุดเด่นด้วยค่าสเปรดที่ต่ำ โดยเฉพาะในการเทรดทองคำ การถอนเงินยังรวดเร็ว โดยใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ในระดับเดียวกัน

ประสบการณ์กับ Exness

ประสบการณ์ในการใช้งานกับ Exness ต้องเรียนตามตรงว่า ไม่ได้ใช้งานบัญชีเทรดแบบทั่วไป โดยส่วนตัวไปพบเจอฟีเจอร์ Social Trading ของ Exness ในสื่อต่างๆ และเกิดความสนใจเลยลองสมัครใช้งาน

การใช้ Social Trading ของ Exness

  • Social Trading ของ Exness เป็นฟีเจอร์เสริม คือนักลงทุนสามารถคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพได้ ในขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ที่ให้คนอื่นคัดลอกการเทรด ก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าตอบแทนจากกำไรที่ทำได้ โดยกำหนดเป็น %
  • จุดเด่นจากที่เคยมีประสบการณ์ใช้งานมาคือ
    • แอพ Social Trading ของ Exness ใช้งานค่อนข้าง่ายมาก มีข้อมูลที่จำเป็นให้อย่างครบถ้วน ทั้งสถิติ จำนวนเงินทุน สินทรัพย์ที่เทรด %กำไร %ขาดทุน ระดับความเสี่ยงของเทรดเดอร์
    • Exness มีแอป Social Trading ให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS และ Android และในช่วงแรก Social Trading สามารถใช้บริการผ่านแอพ บนสมารทโฟนเท่านั้น แต่ปัจจุบัน Social Trading สามารถใช้ผ่านเว็บบราวเซอร์ได้แล้ว
    • อิสระของเทรดเดอร์ผู้ให้บริการคัดลอกการเทรดสามารถกำหนดค่าคอมมิชชั่นได้ตั้งแต่ 0% ถึง 50% จากกำไรที่ทำได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่จะเห็นเทรดเดอร์กว่า 20,000+ ราย เปิดให้คัดลอกการเทรดของตัวเอง
    • ทุกคนที่ใช้ฟีเจอร์ Social Trading ต้องผ่านการยืนยันตัวตนทุกคนแม้ว่าจะเป็นนักลงทุนก็ตาม ต้องชื่นชมในด้านความปลอดภัยนี้
  • แต่ก็มีบางข้อที่คิดว่าควรแชร์กับผู้อ่านทุกคนเหมือนกันก็คือ ระวังเรื่องสถิติของเทรดเดอร์สายซิ่ง ก็คือเน้นฝากหนักแล้วเทรดแบบ Over Trade จะทำให้สถิติดูดี แต่ความจริงแล้วทักษะการเทรดเข้าขั้นแย่มาก
  • คำแนะนำคือให้ดูประวัติการเทรดของเทรดเดอร์คนนั้นว่ามีพฤติกรรมเทรดแบบไหน หากเทรดสม่ำเสมอออก lot เสถียร ตำแหน่งดี ถือว่าน่าสนใจ แต่ถ้าออกล้อตหนัก Drawdown เยอะ เทรดเน้น over แบบนี้ไม่น่า copy ด้วย
ฟีเจอร์ Social Trading
ในฟีเจอร์ Social Trading เราสามารถเลือกรูปแบบเทรดเดอร์ที่เราต้องการ เช่น เน้นเทรดเดอร์ที่ทำกำไรสูง หรือเน้นเทรดเดอร์ที่ความเสี่ยงต่ำ หรือเน้นคอมมิชชั่นต่ำ เป็นต้น

การฝาก-ถอน

  • การฝากของ Exness นั้นสะดวกรวดเร็วมาก โดยเฉพาะช่องทาง QR Payment ใครใช้บัญชีธนาคารไทยทุกแห่งสามารถสแกนฝากได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนแบบครบถ้วน 100%
  • ส่วนการถอนก็สะดวกไม่แพ้กันกรอกรายละเอียดธนาคารทุกแห่งได้และทาง Exness จะมีรหัส OTP กรอกเพื่อยืนยันตัวตนก่อนถอนทุกครั้ง
  • ตอนนี้ Exness รองรับการฝาก-ถอนแบบ Crypto แล้ว ทั้ง Binance-Pay, Tether, Bitcoin
  • Exness ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมฝาก-ถอนใดๆ และทุกคนสามารถถอนเงินได้ทุกวัน ทุกเวลาแม้จะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม
การฝากเงินผ่านช่องทาง Binance Pay
ภาพตัวอย่างการฝากเงินผ่านช่องทาง Binance Pay โดยสามารถฝากขั้นต่ำได้ที่ 10 – 20,000 USD โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากใดๆ

บัญชี Cent

cent account ของ Exness ปัจจุบันไม่ได้มีแค่สกุลเงิน USD อีกต่อไป แต่มีให้เลือกถึง 6 สกุลเงิน ดังนี้

  1. USC – เซนต์สหรัฐ (USD Cent) : มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ 1 หน่วย อยู่ที่ 34.027 บาท
  2. EUC – เซนต์ยูโร (Euro Cent) : มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ 1 หน่วย อยู่ที่ 35.532 บาท
  3. GBC – เพนนีอังกฤษ (GBP Cent) : มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ 1 หน่วย อยู่ที่ 41.97 บาท
  4. AUC – เซนต์ออสเตรเลีย (AUD Cent) : มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ 1 หน่วย อยู่ที่ 21.541 บาท
  5. CAC – เซนต์แคนาดา (CAD Cent) : มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ 1 หน่วย อยู่ที่ 23.881 บาท
  6. CHC – รัปเพนสวิส (CHF Cent) : มีอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อ 1 หน่วย อยู่ที่ 38.236 บาท
บัญชี Standard Cent ของ Exness
บัญชี Standard Cent ของ Exness เปลี่ยนจากรองรับสกุลเงินแค่ 5 สกุลเป็น 6 สกุลเงิน โดยมี CAC – เซนต์แคนาดา เข้ามาเพิ่มเพื่อรองรับเทรดเดอร์ที่เน้นเทรดด้วยเงินทุนต่ำ

ประสบการณ์กับ XM

การเทรดและการใช้บริการกับ XM ส่วนใหญ่จะใช้เทรดแบบสั้นด้วยจำนวนเงินเล็ก ๆ เพราะ XM ขึ้นชื่อในเรื่องการเสนอโบนัสฟรีและที่นี่คือโบรกเกอร์แห่งแรกที่ผมเลือกใช้บริการ

การเทรดกับ XM ด้วยโบนัสฟรี

  • ตอนที่เปิดบัญชีเทรดใหม่กับ XM ครั้งแรกผมก็ได้รับโบนัสฟรี 30$ เข้าบัญชีเทรด หลังจากยืนยันตัวตนครบถ้วน
  • ซึ่งเงื่อนไขของโบนัส 30$ ที่จะสามารถถอนได้ก็คือ
    • ต้องเปิดอย่างน้อย 5 ออเดอร์
    • แต่ละออเดอร์ต้องมีขนาดรวมกันอย่างน้อย 0.1 Lot
    • ต้องมีกำไรอย่างน้อย $5
  • ซึ่งการถอนเงินกำไรที่ได้จากการเททรดด้วยโบนัสฟรี XM จะหักโบนัสตามเป็นสัดส่วนด้วย เช่น
    • หากมีโบนัส $30 และมีกำไร $100 รวมเป็น $130 เมื่อถอนเงิน $65 (50% ของยอดเงินทั้งหมด)
    • โบนัสจะถูกหัก 50% คือ $15 ยอดโบนัสจะคงเหลือ $15 สำหรับใช้เทรดต่อไป
  • อีกกรณีคือโบนัสแบบฝากที่ผมได้รับแบบไม่รู้ตัว โดยผมทดลองฝากงเนจำนวน 30$ และลองเทรดด้วยระบบ MT5 ผ่านเว็บบราวเซอร์ เพื่อทดลอง Execution Speed ก็พบว่าบัญชีที่เทรดอยู่ได้รับโบนัสจาก XM 10$ จากเงินฝากเพียง 30$
หน้าจอการเทรดจาก XM ในแอพ MT5
ตัวอย่างหน้าจอการเทรดจาก XM ในแอพ MT5 จากประสบการณืที่ฝากเงินเข้าไปจำนวน 30$ จะได้รับโบนัสอัตโนมัตประมาณ 10$ เพื่อเพิ่มทุนในการเทรด

ประสบการณ์กับ Tickmill

ขอเสริมอีกนิดกับประสบการณืในการใช้งานโบรกเกอร์ Tickmill จุดเด่นเท่าที่สัมผัสจากการใช้โบรกเกอร์นี้คือ

  1. ค่าสเปรดต่ำในระดับที่น่าพอใจ เฉลี่ยอยู่ที่ 0.09 pips สำหรับทองคำ ซึ่งช่วงที่เทรดทองคำเคยทดลองใช้ Tickmill บัญชี Pro ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นบัญชี Raw ไปแล้ว
  2. การถอนเงินของ Tickmill ค่อนข้างทำได้ดีเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ในระดับดียวกัน หากตัด Exness และ XM โบรกเกอร์ตัว Top ของไทยออกไป ผมเคยถอนเงินจาก Tickmill ใช้เวลานานสุด 2 ชั่วโมง 20 นาที และบางครั้งไม่เกิน 10 นาที
ประสบการณ์การถอนเงินกับ Tickmill
ประสบการณ์การถอนเงินกับ Tickmill เคยใช้เวลาเร็วสุดอยู่ที่ 1 นาที 21 วินาที ช้าสุดเคยอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 20 นาที 22 วินาที ถือเป็นความเร็วที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เทียบกับโบรกเกอร์ที่ใกล้เคียงกัน

วิดีโอทดลองฝากเงิน XM ผ่าน Binance

มีคลิปวิดีโอหนึ่งที่น่าสนใจซึ่ง YouTuber คนนี้เขาใช้บริการกับ XM และทดลองฝากเงินผ่านช่องทาง Cryptocurrency โดยใช้กระเป๋า Binance ซึ่งเดาว่าเขาเองก็น่าจะมีกระเป๋าเงินคริปโตเช่นกัน จึงอยากนำมาแชร์เผื่อเป็นความรู้ให้แก่ใครที่มีกระเป๋าคริปโตและกำลังหาโบรกเกอร์ที่มีช่องทางฝากตามนี้

  • นาทีที่ 0.58 เริ่มฝาก
  • นาทีที่ 1.15 เลือกกระเป๋า
  • นาทีที่ 2.58 เลือก Network
  • นาทีที่ 5 เชื่อมต่อ Address

สรุป

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ก็อยากจะบอกว่านี่เป็นเพียงประสบการณ์ในการใช้โบรกเกอร์ทั้ง Exness, XM, Tickmill ในส่วนของผมที่อยากจะมาแชร์เพราะเห็นว่ามันน่าสนใจเท่านั้นนะครับ เชื่อว่าหลายคนต่างก็มีประสบการณ์ในแตกต่างกันไป ส่วนตัวแล้วอยากฟัง อยากอ่านประสบการณ์ใช้งานแบบนี้ มากกว่าอ่านประสบการณ์แบบโดนโบรกเกอร์หลอกหรือโดนโกงมา มันไม่ดีต่อใจเสียเลย

อย่างที่บอกไปการเลือกโบรกเกอร์นั้นสำคัญมาก หากไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก็อยากจะแนะนำ Thai Broker Forex ผมชอบตรงนี้เว็บนี้ไม่มีคอมเม้นหรือคะแนนมาปั่นให้เสีย ถ้าทุกคนได้โบรกเกอร์ที่ปลอดภัยผมก็ดีใจด้วยจะได้มาแชร์ประสบการณืการใช้โบรกเกอร์ของแต่คนดูบ้างครับ

ทีมงาน : thaiforexbroker.com