Bollinger Bands ช่วยยืนยันอย่างไร
Bollinger Bands เป็นอินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งที่คนนิยมใช้กันเยอะเพราะการใช้งานไม่ได้ซับช้อนอะไรมาก ถ้าเข้าใจตลาด เข้าใจว่าออเดอร์ทำงานอย่างไรก็พอเริ่มได้ แต่ที่จะกล่าวในที่นี้คือการใช้อินดี้พวกนี้มายืนยันจุดที่เข้าเทรด เพราะเมื่อเป็นอินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์ใช้กันเยอะก็ย่อมมีออเดอร์ที่เปิดและจัดการบนพื้นฐานความรู้และหลักการข้อมูลจาก Bollinger Bands เกิดขึ้นเยอะ
โดย ตัว Bollinger จะประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 3 เส้น โดยการใช้งานจะยึดเอาเส้นกลาง ( เส้นที่ 2 ) เป็นหลักในการเข้าเปิด ออร์เดอร์ ซึ่งเส้นนี้จะยึดตามค่า SMA 20 หรือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน ส่วน เส้นบน ( เส้นที่ 1 ) และเส้นล่าง ( เส้นที่ 3 ) นั้นยึดค่าเฉลี่ย 20 วัน + / – ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviations) หรือ 2 S.D.
ทั้ง 3 เส้นนี้จะช่วยเป็นตัวสร้างกรอบด้านบนเรียกว่า upper band กรอบด้านล่างเรียกว่า Lower band ถ้าความกว้างของ bands นั้นกว้างบอกถึงว่าตลาดมีแรงออเดอร์เยอะน่าเทรด ถ้าความกว้างของ bands นั้นแคบบ่งบอกว่าตลาดวิ่งในกรอบแบบไม่น่าเทรด ถ้าราคาวิ่งแรงๆ ระยะห่างของ bands ก็จะถ่างขึ้น ถ้าราคาอยู่ในกรอบ upper band จะเป็นเทรนขาขึ้นถ้าอยู่กรอบล่างจะเป็นเทรนขาลง โดยสัญญาณเทรดเกิดเมื่อราคาวิ่งมาหา 3 เส้น ให้ดูราคาปิดประกอบแล้วดูใน timeframe ใหญ่ขึ้นประกอบด้วย โดยความกว้างของ band จะเห็นชัดเจนเมื่อ market orders เข้าตลาดแรงและต่อเนื่องซึ่งป็นผลจากการที่ขาใหญ่เริ่มเข้าเทรด
วิธีการใช้งานของ Bollinger Bands
ก่อนทำการเทรด ขอบอกวิธีการใช้งานของ Bollinger Bands อย่างคร่าว ๆ ก่อนนะครับ ใช้อะไรได้บ้าง
1.ใช้ในการหาแนวต้านและแนวรับของกราฟ : เส้นขอบบนทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ส่วนเส้นที่ 2 คือเส้นขอบกลางทำหน้าที่เป็นทั้งแนวต้านและแนวรับ เส้นขอบล่าง ทำหน้าที่เป็นแนวรับ
2.ใช้ในการหาแนวโน้มของกราฟราคา : แนวโน้มขาลง , แนวโน้มขาขึ้น
แนวโน้มขาลง ขาขึ้น
แนวโน้มขาลง
ลักษณะของแนวโน้มขาลง ราคาจะอยู่บริเวณเส้นขอบล่างและไม่ค่อยจะขึ้นไปทะลุเส้นขอบกลางไปได้ หรืออาจจะขึ้นไปทะลุเส้นขอบกลางไปได้แต่ก็อาจจะกลับมาที่เส้นขอบล่าง
แนวโน้มขาขึ้น
ลักษณะของแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะอยู่บริเวณเส้นขอบบนและไม่ค่อยจะตกลงมาทะลุเส้นขอบกลางไปได้ หรืออาจจะตกลงมาทะลุเส้นขอบกลางไปได้แต่ก็อาจจะกลับมาที่เส้นขอบบน
3.ใช้ดู Overbought/Oversold
โซน Overbought คือเส้นขอบบน เมื่อราคามาถึงโซน Overbought โดยทั่วไปราคามักจะดีดตัวไปที่เส้นขอบกลางแล้วขึ้นไปใหม่ แต่ถ้าราคาอยู่ในสภาวะตลาดที่เป็นไซต์เวย์ราคามักจะดีดตัวทะลุเส้นขอบกลางไปได้และยังมีแรงต่อจนไปถึงเส้นขอบล่าง
โซนOversold คือเส้นขอบล่าง เมื่อราคามาถึงโซน Oversold โดยทั่วไปราคามักจะดีดตัวขึ้นไปที่เส้นขอบกลางแล้วลงไปใหม่ แต่ถ้าราคาอยู่ในสภาวะตลาดที่เป็น Sideway ราคามักจะดีดตัวขึ้นไปทะลุเส้นขอบกลางไปได้และยังมีแรงต่อจนไปถึงเส้นขอบบน
เอาละครับ … รู้หลักวิธีการอย่างคร่าว ๆ กันแล้ว ทีนี้ เรามาดูกราฟ GBP/USD ใน TF 4 hr ย้อนหลังกัน เลย
เทรนขาลงชัดเจน ลงยาว…
ภาพที่ 5
เทรนขาขึ้น … ก็ขึ้นยาว ไม่น้อยหน้า ขาลง ถ้ายึดที่ กราฟ 4 hr สัญญาณ ค่อนข้างข้างจะชัด แม่นยำ พอเพียงทำเราจะถือยาว ได้ ดูแนวโน้มอีกซัก 2 – 3 ภาพ กัน นะครับ
ภาพที่ 6
ภาวะแบบนี้ … อึดอัดมาก .. ไม่รู้จะเปิด ออร์เดอร์ ยังงัย .. Sideway รู้สึกงงกับชีวิต.. @#$%&
ภาพที่ 7
สภาพแบบนี้ ละครับที่ เทรดเดอร์ อย่าง เรา ๆ ท่าน ๆ ชอบ เทรนขาขึ้น แล้ว เปลี่ยนมาเป็นขางลงในแทบจะทันที ยังไม่นับตอนมีข่าวนะครับ … ช่วงข่าว เลี่ยงเทรดเถอะครับ วิ่ง.. ซะ .. กระจาย รอให้เหตุการณ์สงบก่อน ฝุ่นจาง ค่อยหาจังหวะ เอาละ ดูกราฟ GBP/USD ย้อนหลัง พอหอปากหอมคอกันไปแล้ว ทีนี้ มาหาจังหวะเข้าเทรดกันเลย .. ตามมาครับ
ภาพที่ 8
ก่อนอื่น เรามาปรับค่า Bollinger Bands ก่อน ค่า Default ที่ มาเป็นดังภาพที่ 8
ภาพที่ 9
ปรับซะให้ เส้นทั้ง 3 เส้น … ใหญ่ขึ้น เพื่อความสบายตา
ภาพที่ 10
ปรับเรียบร้อยแล้ว พร้อม … ลุย ..
เอาละ สบายตาแระ มาหาจังหวะเข้ากันเลย
ภาพที่ 11
ย้อนกราฟไป ณ วันที่ 02-08-2018 ขณนั้น ราค่าอยู่ที่ 1.31006 รอจังหวะ แท่งเทียนให้อยู่ให้ BB (Bollinger Bands) เส้นที่ 2 ซึ่งจะเป็นสัญญาณว่า ค่อนข้างน่าจะเป็นแนวโน้มขาลง
ภาพที่ 12
เปิด ออร์เดอร์ Sell จากนั้น นั่งรอ ทำใจนิ่ง ๆ ทนปล่อยให้กราฟไหล ลง ไหล ไหล ลง … ลง .. ทน ถือ ไว้ จากภาพ ไหลลงมา 63 แท่ง .. ( 63X4 = 252 hr => 10.5 วัน ) ถือทน ทน แค่ สิบวันครึ่งเองครับ บวกไปซะ 375.2 pips ถ้าเป็นบัญชี Std เปิด lots = 0.01 ไม้นี้ก็จะได้ 37.5 $ กำไร เห็น เห็น
ภาพที่ 13
ไม้ที่ 2 เรา เข้าในวันที่ 17-08-2018 ราคาอยู่ที่ 1.27118 จัด buy เลยครับ สัญญาณชัดเจน แท่งเทียนอยู่เหนือ เส้นกลาง ทนถือ ถือทน ไว้แค่ 18 แท่ง ( 18X4 = 72 hr => 3 วัน ) บวกมาพอสมมา.. พาควร 198.9 pips กำไร ราว … 19.8 $ รวมไม้แรก ได้มา 37.5+19.8 = 57.3 ไม่น้อยเลยนะครับ
ภาพที่ 14
มาดู อีกไม้ละกัน เข้าในวันที่ 27-08-2018 ราคาอยู่ที่ 1.28625 จัด buy ลองดู สัญญาณค่อนข้างชัดเจน ถือไว้แค่ 6 แท่ง ( 6X4 = 24 hr = 1 วัน ) บวกมา 57.2 pips ตังค์เพิ่มมา 5.7 $
รวมกับ 2 ไม้ก่อนหน้านั้น 37.5+19.8+5.7 = 63 $ ถ้าเราลงทุนที่ 100 $ กำไร เห็น ๆ 63 %
และถ้าเทรดเดอร์ระดับเทพ ลงทุนแค่ 50 $ โอ๊ว . 1 เดือน กำไร.. 126 % … นี่ เป็นการเอา indicator ทดสอบกราฟในวัน เสาร์ อาทิตย์ นะครับ เทรดจริง อาจ จะ ไม่ได้ตามนี้ อาจ มาก หรือน้อยก็กว่า แต่ก็ พอจะนำไปใช้เป็น แนวทางบ้าง..
ภาพที่ 15
สุดท้ายครับ เจอ กราฟแบบนี้ แสดงว่า ข่าวแรง หรือไม่ก็ nonfarm รอ เถอะครับ อย่าเสี่ยงเลย.. ให้ฝุ่นหายตลบ ก่อน … ค่อยหาจังหวะ
ท่านจะพบว่าหลักการไม่ยากต่อการเรียนรู้ซักเท่าไร แต่ตลาดไม่ได้เทรดง่ายแบบนั้นเพราะหลักการทำงานของตลาด ถ้าท่านจะได้กำไรก็ต้องมีคนเสีย ถ้าท่านเปิดออเดอร์ฝั่งทางท่านได้ก็ต้องมีคนเปิดออเดอร์ฝั่งตรงข้ามกับท่านได้ ขาใหญ่เข้าเทรดอย่างไรใช้ประโยชน์จาก trapped traders และ stop orders อย่างไร พวกนี้สะท้อนผ่านทางชาร์ตอย่างไร เพราะท่านต้องไม่ลืมว่าอินดิเคเตอร์เป็นการอ่านข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้ว
การประยุกต์ใช้กับ price levels
แต่ถ้าเป็นการใช้อินดิเคเตอร์ยืนยันสิ่งที่เราจะเข้าเทรดหรือถือรอก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง เพราะอินดี้บอกว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นอย่างไร เช่นเมื่อท่านเข้าใจหลักการทำงานของ Bollinger Bands ว่าบอกเทรน บอกว่า overbought/oversold ท่านเอามาประยุกต์เข้ากับการเทรด price levels เป็นที่มีความเข้าใจตลาด ออเดอร์ทำงาน และพฤติกรรมคนเทรดก็จะสามารถช่วยได้เยอะ
เริ่มที่เลข 1 demand เกิดบน upperband ขาขึ้นราคาขึ้นถึงเส้นบน เมื่อมองมาทางช้ายจะเห็น price level ก่อนแล้วราคาเด้งลงแต่ราคายังอยู่ในกรอบ upper band แสดงว่าไม่มี sell pressure ราคาขึ้นไปทำ new high อีกบอก overbought จาก bollinger band เปิดโอกาสให้ขาใหญ่ปิดกำไรตรงที่เปิดออเดอร์ที่ demand ราคาลงมาแรงแต่ไม่เบรค demand และไม่มีบาร์ต่อเนื่องแถมราคาเด้งมาหาเส้นกลางของ bollinger band ราคาเด้งขึ้นตรงนี้เพราะพวกเทรดแนว bollinger band เห็นแล้วเปิดออเดอร์ และอีกพวกคือออเดอร์มาจากพวกที่เทรดราคากลับมาหา demand เลข 1 ราคาเลยขึ้นอย่างเร็ว ขึ้นไปกรอบบนก่อนเลข 3 เป็น overbought ขาใหญ่ปิดทำกำไรแล้วออกจากตลาด จนกว่าเลข 3 เห็นร่องรอยขาใหญ่เปิดเทรด หรือบางคนอาจเปิดเทรดเพราะราคา reject หลังจากออกไปเกินเส้นบนแล้วเข้ามา มาปิดกำไรพื้นที่เลข 2 หลักการออเดอร์ทำงาน พอมาเลข 4 ก็เปิดโอกาสให้เทรดอีก มาเลข 5 ราคาหลังจากล่า stop มาหา demand ที่เลข 1 และราคามาถึงเส้นล่างบอก oversold ราคาเด้งก็เข้าบายตามแนว demand และ bollinger bands พอดี ราคาก็เลยวิ่งแรง ราคาเด้งแรงไปจนถึงเส้น upper band แต่ไม่สามารถปิดสูงกว่า supply แถวเลข 3 ได้ แล้วราคาก็มาวิ่งอยู่กรอบบน upper band หรืออย่างการเทรดที่เลข 8 9 10 และ 11 ใช้ bollinger bands ยืนยันการเทรดได้แบบที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาเลย
อีกอย่างการจะเข้าเทรดได้แม่นต้องไม่ลืมการวิเคราะห์ต่าง timeframes อย่างน้อย 2-3 timeframes ประกอบกัน ต้องเข้าใจแต่ละจุดที่เห็นในต่าง timeframes ว่าต้องสัมพันธ์กัน เทรดเมื่อเห็นราคาสัมพันธ์กับข้อมูลที่ขาใหญ่เทรดและไม่สามารถปกปิดร่องรอยผ่านบาร์ที่ filled ไปได้ แม้จะเปิดไปที่ timeframe ไหนท่านจะต้องไม่ลืมภาพที่ท่านมองว่าท่านเทรดจากมุมมองหลักชาร์ตไหน ส่วนชาร์ตที่ timeframe ย่อยลงไปนั้นก็เพื่อดู price structure จะได้ดูจุดเข้าออกที่แม่นขึ้น
การเข้าใจตลาดทำงาน หลักการออเดอร์ทำงาน และ trapped traders เมื่อใส่ Bollinger Bands เข้าไปจะช่วยให้ท่านเห็นโอกาสการเทรดและจุดที่จะจัดการออเดอร์ได้เยอะและง่ายขึ้นมากสำหรับท่านที่ยังไม่ชิน และเวลาที่เหมาะในการจัดการออเดอรด้วยจะทำได้ดีขึ้น ถ้าเทรดเดอร์สามารถควบคุมและจัดการอารมณ์ได้ดี อย่าลืมว่าต้องเทรดสิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด
ทีมงาน : thaiforexbroker.com