รีวิวโบรกเกอร์ Blackbull markets ฉบับไม่อวย 2024

Blackbull markets หรือ เจ้ากระทิงดำ เป็นโบรกเกอร์ forex ที่ดังมาก ๆ ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างจริงซักเท่าไหร่ จึงส่งผลให้คนไทยไม่ค่อยจะรู้จักกันซักเท่าไหร่ครับ ซึ่งเทรดเดอร์ท่านไหนอยากใช้ เรามาดู รีวิว กันซักหน่อยครับว่า เจ้ากระทิงดำตัวนี้คุ้มค่าที่จะใช้งานหรือป่าว 😀

ประวัติของโบรกเกอร์

Blackbull markets เป็นที่รู้จักกันดีในระดับโลกในฐานะโบรกเกอร์ forex ที่ดีโบรกเกอร์หนึ่ง ซึ่งทางโบรกเกอร์เคลทเอาไว้เลยครับว่า เขาเป็นโบรกที่ต้องการมอบประสบการณ์การซื้อขายที่เหนือกว่าโบรกเกอร์อื่นให้กับเทรดเดอร์ผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของเขา โดยตราสารที่สามารถซื้อขายได้ดังนี้

• ฟอเร็กซ์: ทางโบรกเกอร์เขามีค่า spread ค่อนข้างต่ำมากและเขาก็ยังให้เทรดเดอรเทรดด้วยค่า leverage สูงถึง 1:500 ด้วยค่า spread เริ่มต้นเพียง 0 pip และความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายเฉลี่ย > 20 ms
• สินค้าโภคภัณฑ์ และโลหะมีค่า: อันนี้เป็นที่แน่นอนครับว่าหลาย ๆ โบรกก็มีให้บริการไม่ว่าจะเป็นทั้ง Raw อย่าง ทองคำ เงิน และสินค้าอื่น ๆ ครับ
• พลังงาน: ยกตัวอย่างเช่น พวกน้ำมัน หรือ index ต่าง ๆ
• สกุลเงินดิจิทัล: เช่น BTC หรือ คริปโตอื่น ๆ ครับ
• ตราสารทุน: โบรกมีให้เทรดหุ้นยอดนิยมหลายตัว เช่น Tesla, Apple และ Amazon โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง

ก่อตั้งปี

•  โบรกเกอร์ BlackBull markets ก่อตั้งเมื่อปี 2014 ซึ่งนับ ๆ แล้วอายุเขาก็จะประมาณ 10 ปีได้ละครับ

จดทะเบียนที่ไหน

•  เดิมที่โบรกเกอร์ BlackBull markets จดทะเบียนที่เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ โดยคุณ Michael Walker และ คุณ Selwyn Loekman

สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่

•  สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Blackbull คือ ชั้น 20, 188 Quay Street, ใจกลางเมืองโอ๊คแลนด์, โอ๊คแลนด์ 1010, นิวซีแลนด์
• ปัจจุบัน Blackbull ก่อตั้งและให้บริการเทรดเดอร์มากถึง 180 ประเทศ

ความน่าเชื่อถือ

หากเราจะเทรดกับโบรกเกอร์ไหนสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือการลดความเสี่ยงขั้นแรกโดยการประเมินความชื่อถือของโบรกเกอร์เพื่อเลือกใช้โบรกที่ดีที่สุดสำหรับเราครับ เรามาดูกันที่ License กันก่อนเลยดีกว่าครับ

License

โบรกเกอร์ Blackbull markets ถูกควบคุมโดย Financial Services Authority (FSA) ในเซเชลส์ภายใต้ใบอนุญาตหมายเลข SD045 โดยโบรกเกอร์นี้ได้จดทะเบียนบริษัทภายใต้ชื่อ Black Bull Group Limited ครับ

ต่อมาในปี 2020 ได้มีประกาศขึ้นมาว่า ทางโบรกเกอร์ Blackbull ได้รับใบอนุญาตเพิ่มอีก 1 ใบ โดยใบอนุญาตดังกล่าวออกโดย Financial Markets Authority (FMA) ในนิวซีแลนด์… ที่สำคัญเลยคือ Blackbull ยังไม่ได้ใบอนุญาตจาก UK Financial Conduct Authority (FCA) ส่งผลให้เป็นข้อเสียหนึ่งเลยครับที่ทาง Blackbull ไม่สามารถทำตลาดในอังกฤษได้

ประวัติการถูกร้องเรียน

เราได้พยายามหาประวัติการร้องเรียนจาก users หลาย ๆ แหล่งซึ่งเราพบน้อยมาก ๆ (แทบจะไม่มีเลย) แต่มันยังมีเพียงแค่ 1 การรายงานครับว่า เขามีปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงิน ซึ่งกินเวลาไปนานมากกว่าปกติ โดยทางโบรกเกอร์ได้แจ้งให้กับ user ประมาณนี้ครับว่า การถอนที่ user เลือกจะใช้เวลานานกว่าแบบอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องใช้เวลานานกว่าครับ

Trust pilot

หลังจากการตรวจคะแนน Trust pilot พบว่า Blackbull markets ได้คะแนนจาก Trust pilot ไป 4.5 คะแนนจากคะแนนเดต็ม 5.0 คะแนนครับ โดยมีผู้เข้ามารีวิว 257 คนโดยประมาณ (คะแนนรายงานวันที่ 19/01/2024) ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วถือว่าผู้รีวิวยังน้อยไปมากเมื่อเทียบกับบรกเกอร์อื่น ๆ ครับ

การฝากถอนเงิน

การฝากถอนเงินของโบรกเกอร์ Blackbull มีหลากหลายวิธีครับไม่ว่าจะเป็น Visa, Mastercard, Fasepay, UnionPay, Neteller, Skrill, และ Bank Transfer เป็นต้น… โดยทางโบรกเกอร์เขาก็รับฝากได้หลากสกุลเงินดังนี้ครับ

• ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
• ยูโร (EUR)
• ปอนด์อังกฤษ (GBP)
• ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
• ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD)
• ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)
• ดอลลาร์แคนาดา (CAD)
• ดอลลาร์แคนาดา (CAD)
• แรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR)

โดยค่าธรรมเนียมของการฝากถอนหรือค่าธรรมเนียมที่นอกเหนือจากค่า Spread ดังนี้ครับ

• มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน $6/lot สำหรับบัญชี Prime
• มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน $15/$1,000,000 สำหรับบัญชี Institutional

ความเร็วในการฝาก-ถอนเงิน

ถอนเงินใช้เวลานาน 1-3 วันทำการ แต่อาจจะต้องรอการทดสอบของทางผู้เขียนและทีมงานอีกทีครับ

Platform ในการเทรด

แพลตฟอร์มในการเทรดของโบรกเกอร์ Blackbull markets มีมากถึง 6 แพลตฟอร์มด้วยกัน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมีดังนี้ครับ

1. TradingView: เขาบอกงี้ครับว่า เทรดดิ่งวิวของโบรกเกอร์ Blackbull อาจจะสามารถยกระดับการเทรดของ user ได้ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เนื่องจากสามารถใช้ indicator ได้พร้อมกันมากสุดถึง 25 ตัว
2. MetaTrader 4 (MT4): อันนี้คงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วครับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่รู้จักกันดีที่สุด แต่ทางโบรก Blackbull เขาบอกว่า MT4 ของเขาสามารถเข้าถึงได้ทั้ง บนเดสก์ท็อป เว็บ Multiterminal หรือแอพมือถือครับ
3. MetaTrader 5 (MT5): อันนี้ก็คงไม่อธิบายอะไรมากครับ เพราะว่าเทรดเดอร์น่าจะทราบกันดีกว่า MT5 จะเป็นตัวที่ถูกพัฒนามาจาก MT4 ซึ่งมีข้อดีกว่าหลายอย่างมากครับ
4. cTrader: เทรดเดอร์ชาวไทยอาจจะไม่คุ้นชินกับ cTrader ครับแต่มันเป็นแพลตฟอร์มที่ฝรั่งเขาบอกว่าใช้งานและมีความเสถียรสูง ซึ่งโบรกเกอร์ชั้นนำมักจะมีให้บริการ cTrader ครับ โดยข้อดีของมันอีกอย่างคือไม่มีการฝากขั้นต่ำและปรับค่า leverage ได้มากถึง 1:500 ครับ
5. BlackBull CopyTrader: อันนี้จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำ Copy trade ครับ ซึ่งเดี๋ยวผู้เขียนจะอธิบายชี้แจงในหัวข้อต่อไปครับ
6. BlackBull Shares: แพลตฟอร์มนี้ถือว่าล้ำกว่าโบรกเกอร์ Forex อื่น ๆ มากครับ เพราะมันเป็นแพลตฟอร์มที่อนุญาตให้เรา ๆ สามารถเทรดหุ้นได้ด้วย ว้าวมากครับ

ประเภทบัญชี

ตอนนี้ทาง Blackbull มีให้บริการเปิดบัญชีเทรดทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกันได้แก่

1. ECN Standard (เหมาะกับมือใหม่)
   • Spread: เริ่มต้นที่ 8 pips
   • Commission: ไม่มีค่าคอมฯ
   • เติมเงินขั้นต่ำ: $0
   • Equinix Sever: NY4/LD5
   • เทรดขั้นต่ำ:01 Lots
   • Leverage: มากสุด 1:500
   • Swap: ฟรี
2. ECN Prime (เหมาะกับมืออาชีพ)
   • Spread: เริ่มต้นที่ 1 pips
   • Commission: $6.0 / Lot
   • เติมเงินขั้นต่ำ: $2,000
   • Equinix Sever: NY4/LD5
   • เทรดขั้นต่ำ:01 Lots
   • Leverage: มากสุด 1:500
   • Swap: ฟรี
3. ECN Institutional (เหมาะกับมือพระกาฬ)
   • Spread: เริ่มต้นที่ 0 pips
   • Commission: $4.0 / Lot
   • เติมเงินขั้นต่ำ: $20,000
   • Equinix Sever: Custom Options
   • เทรดขั้นต่ำ:01 Lots
   • Leverage: มากสุด 1:500
   • Swap: ไม่ฟรี

ระบบ Copy Trade

ณ วันที่รีวิว ทางผู้เขียนได้ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ พบว่า ระบบ Copy Trade ของ Blackbull เขาเคลมเอาไว้ว่าเป็นระบบที่ได้รับรางวัลตำแหน่งโบรกเกอร์คัดลอกการซื้อขายที่ดีที่สุดในงานจากสถาบันการเงินในงาน Forex Expo Dubai ปี 2023 ซึ่งยืนยันได้ว่ามันไหลลื่นนะจ๊ะ แต่เท่าที่ค้น ๆ มาก็พบประมาณนี้ครับ ยังไงคงต้องให้ทีมงานไปทดลองใช้ดู แล้วจะมาอัพเดทเพิ่มเติมให้ครับ

แล้วเราจะกด Copy trade ได้ยังไง? ก่อนอื่นเทรดเดอร์จะต้องเข้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ซะก่อน จากนั้นก็ทำตาม 3 step นี้ครับ

1. กดสมัครเปิดบัญชีเทรดกับ Blackbull markets
2. หาผู้ให้สัญญาณเทรด ซึ่งโบรกเกอร์นี้เขาให้ชื่อว่า “Explore Providers” จากนั้นก็เลือกครับว่าจะเลือก Copy สัญญาณการซื้อขายของใคร
3. เมื่อเลือกได้แล้ว กด Copy โลด (Activate copy-trading)

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี	ข้อเสีย
เป็นบัญชี ENC ทั้งหมด (โคตรดี)	ค่าคอมมิชชันค่อนข้างสูง
ประเภทบัญชี Standard ไม่จำกัดเงินฝากขั้นตํ่า	ถอนเงินใช้เวลานาน 1-3 วันทำการ
มีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์การซื้อขาย	ค่าธรรมเนียมการถอนเงินค่อนข้างสูง
มีทีมงานพร้อมให้บริการ 7 วัน 24 ชั่วโมง	บัญชี Prime เงินฝากขั้นต่ำสูงถึง $2,000.00
มีผลิตภัณฑ์ที่เปิดให้เทรดได้กว่า 26000 รายการ	บัญชี Institutional เงินฝากขั้นต่ำสูงถึง $20,000.00
มีเลเวอเรจสูงสุดที่ สูงสุด 1:500 ในบัญชี ECN Standard	ไม่มีเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตคนไทย
มีระบบ copy ชื่อ BlackBull CopyTrader	ไม่รองรับช่องทางการฝากถอนผ่านธนาคารไทย

เลเวอร์เรจ

• Leverage ของ Blackbull เริ่มต้นที่ 1:30 ไปจนถึง 1:500
• คำเตือน: ยิ่งเพิ่มมาจิ้นในการซื้อขายมากเท่าไหร่ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้นและรวมไปถึงผลตอบแทนด้วย

ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่น

• Spread: บัญชี ECN Institutional ค่า Spread เริ่มต้นเพียง 0 pip
• Spread: บัญชี ECN Prime ค่า Spread เริ่มต้นเพียง 1 pip
• Spread: บัญชี ECN Standard ค่า Spread เริ่มต้นเพียง 8 pip
• Commission: บัญชี ECN Institutional ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้น US$4.00 ต่อล็อต
• Commission: บัญชี ECN Prime ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้น US$6.00 ต่อล็อต

โปรโมชั่น

• ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับโปรโมชั่นของ Blackbull ครับ

เครื่องมือและฟีเจอร์อื่น ๆ

เมื่อเราใช้โบรกเกอร์ BlackBull Markets เราอาจจะพบแหล่งข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดที่ยอดเยี่ยมครับ ซึ่งบางแหล่งก็ให้บริการฟรีและบางแหล่งก็แบบสมัครสมาชิก

การวิเคราะห์ตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ นอกจากบทความและวิดีโอเพื่อการศึกษาแล้ว ยังมี BlackBull Research ซึ่งมีการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ คำแนะนำ และพอร์ตการลงทุนแบบจำลองโดยมีค่าธรรมเนียมอีกด้วยครับ

Product อีกชิ้นของโบรกเกอร์รายนี้คือ BlackBull Social ซึ่งนักลงทุนสามารถคัดลอกตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้ โบรกเกอร์ยังเชื่อมโยงกับ ZuluTrade และ Myfxbook ซึ่งเทรดเดอร์สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ที่คล้ายกันได้ (เจ๋งอ่า)

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือทางโบรกเกอร์ยังมีบริการอีก 4 ถึง 5 ตัวเพิ่มให้เราดังนี้ครับ

• Autochartist ที่ประยุกต์ใช้ได้กับ mt4 / mt5
• FIX API สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และสถาบัน
• คู่มือการซื้อขายเพื่อการศึกษาในระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับสูง
• VPS ฟรีเพื่อลด Latency (ต้องอยู่ใช้บัญชี Prime, เงินฝากขั้นต่ำ 2,000 ปอนด์และการซื้อขาย 20 ล็อตในคู่ forex หรือโลหะต่อเดือน)

Customer Service จากโบรกเกอร์

ทางโบรกเกอร์มีการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งครอบคลุมมากกว่าการให้บริการโดยโบรกเกอร์ออนไลน์อื่น ๆ มีตัวเลือกการสนับสนุนต่อไปนี้:

• Live Chat – logo on website
• Phone – +44 207 097 8222
• Email – support@blackbullmarkets.com

ความปลอดภัยของลูกค้า

ทางโบรกเขาจะใช้บัญชีธนาคารที่แยกออกจากกัน นั่นหมายความว่าเงินของลูกค้าจะถูกแยกออกจากบัญชีของบริษัทครับ โดยนโยบายนี้ควรจะมีในทุก ๆ โบรกเกอร์เพื่อป้องกันยอดเงินที่ติดลบด้วย ในส่วนของรหัสเข้าบัญชีเทรดนั้น เทรดเดอร์จะต้องเก็บรักษามันเอาไว้ให้ดีด้วยตัวเองนะครับ

สรุปความน่าใช้

Blackbull markets ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ forex ที่ค่อนข้างที่จะครบเครื่องจริง ๆ ครับ ทั้งในด้านของความน่าเชื่อถือ การบริการ ระบบการเทรด แพลตฟอร์มต่าง ๆ การสนับสนุนด้านอื่น ๆ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง จึงทำให้เทรดเดอร์ชาวไทยต้องรอไปอีกนานกว่าจะได้ใช้โบรกเกอร์กระทิงดำตัวนี้ครับ