วิธีการง่ายๆ ว่าช่วงเวลาไหนควรเทรดคู่เงินคู่ไหน

forex วิธีการง่ายๆ

วิธีการง่ายๆ ว่าช่วงเวลาไหนควรเทรดคู่เงินคู่ไหน

                แม้ว่าตลาดฟอเรกจะให้เทรดได้  5 วัน 24 ชั่วโมงก็ตามแต่ไม่ได้หมายความว่าโอกาสที่จะเปิดให้เทรดมีทุกคู่ ดังนั้นการดูว่าแต่ละช่วงตลาดหลักๆ เช่นช่วง Asia มีคู่ไหนวิ่งบ้าง ช่วงยุโรปมีคู่ไหนวิ่งบ้าง และช่วงอเมริการมีคู่ไหนวิ่งบ้าง มีหลักการในการเทรดง่ายๆ ก็คือให้เลือกเทรดคู่เงินที่ช่วงตลาดคู่เงินเปิด อย่างในที่นี้ยกการแบ่งช่วงตลาดตามที่ forexfactory.com

                กรอบสีแดงคือเวลาไทย หลังจากทำกิจวัตรที่จำเป็นและพร้อมทำงานของบ้านเราส่วนมากจะเป็น 8.00 โมงเช้าเป็นต้นไป ก็จะเป็นช่วงหลังจากที่ตลาด Tokyo เปิดมาได้ 1 ชั่วโมงและ Sydney เปิดมา 4 ชั่วโมง หลักๆ เมื่อพูดถึงช่วงตลาด Asia จะหมายถึงตั้งแต่ตลาด Tokyo เปิด เพราะถือว่าเป็นตลาดใหญ่ทาง Asia เลย

                แต่การเทรดไม่ได้ดูแค่ตลาดเปิด เช่นเมื่อกำหนดคู่เงิน เช่นช่วง Tokyo เช่น 8.00-13.00 บ้านเรา ก็จะมีค่าเงินที่เกี่ยวกับ AUD, NZD, JPY พอ 13.00 มาก็จะมีคู่เงินที่เกี่ยวกับ EUR, GBP, CHF, พออเมริกาเปิดก็มีคู่เงินที่เกี่ยวกับ USD และ CAD ที่เข้ามามีบทบาทอีก การเทรดต้องดูคู่เงินแต่ละช่วงประกอบว่าเปิดโอกาสให้เทรดหรือเปล่า เพราะ volatility แต่ละวันต่างกัน ดังนั้นต้องมองโอกาสการเทรดเป็นวันๆ ไปที่ต่อเนื่องกับวันก่อน เพราะตลาดฟอเรกแต่ละวัน volatility ไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นคู่ที่ท่านชอบเทรด ถ้าไม่วิ่งหรือไม่มี volatility ก็ไม่มีโอกาสการเทรดเกิดขึ้น

                มาดูอย่าง AUDUSD เมื่อมองจาก market session ประกอบท่านจะเห็นว่าเปิดโอกาสให้ท่านเทรดแต่เช้าเลยสำหรับบ้านเรา (ชาร์ตที่แสดงใช้อินดิเคเตอร์ในการแยก market sessons ประกอบ To=Tokyo, Ln=Londo, Ny=New Yor และตัวเลขคือจำนวนปีบที่ราคาวิ่งช่วงตลาดนั้นๆ ) ที่เป็นเลข 3 คือวัน 6 พ.ค. เป็นวันจันทร์จะเห็นว่าราคาเปิดตลาดมาเป็น market gap ลงมาหลังจากที่ตลาดได้ขึ้นไปวันศุกร์ที่มีข่าว Non-Farm Employment Change ช่วงเช้าเป็นช่วงตลาด AUD เปิดด้วยและมาวิ่งแรงเกิด gap ด้วย เลยเปิดโอกาสเทรด gap fill ท่านเทียบกับช่วงตลาดเดียวกันที่เป็นวันที่ 4 5 และ 6 ท่านจะเห็นว่าโอกาสการเทรดคู่ AUDUSD ไม่ดีเลย – หลักการในที่นี้บอกว่าถ้ามองจากบาร์ด้วยการอ่าน price chart เป็นตัวนำ บอกได้ว่าเมื่อเห็นบาร์ยาวๆ ราคาไม่ได้อยู่พื้นที่เดียวกันเมื่อดูหลายๆ บาร์เทียบกัน ก็จะเปิดโอกาสการเทรดเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า พอมาวันที่ 2 อีกก็เห็นบาร์ยาวๆ เกิดขึ้นอีก ก็เลยเกิดโอกาสการเทรดแบบวันที่ 3  บาร์ยาวๆ ที่เกิดขึ้นบอกว่าเทรดเดอร์อยากเทรดคู่นั้นๆ ช่วงไหนเป็นหลัก

                จากที่บอกว่าเมื่อดูบาร์ยาวๆ เกิดขึ้น และสัมพันธ์กับช่วงตลาดด้วยท่านก็จะมองออกว่าคู่ไหนควรเทรดช่วงไหนเป็นวันๆ แต่โดยส่วนมากจะเป็นแบบเดียวกัน ชาร์ตเดียวกันด้านบนท่านจะเห็นว่าวันที่ 6 5 และ 4 โอกาสเทรด AUDUSD กลับเปิดช่วงหลังตลาดตลาดยุโรปเปิดมาได้ 3-4 ชั่วโมงได้ จากกรณีนี้ท่านจะเห็นว่าแม้ AUD จะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าบ้านเรา แต่ราคาวิ่งอยู่ในกรอบเป็นช่วง consolidation หรือช่วงขาใหญ่สะสม positions ไม่เกิดบาร์ยาวๆ ทางใดทางหนึ่งที่บอกว่ามีการเข้าเทรดของขาใหญ่แบบนี้ช่วงเช้าก็ไม่น่าเทรด แต่กลับเป็นช่วงหลังจากตลาดยุโรปเปิดไปแล้ว

                เทียบกับชาร์ต AUDUSD ช่วงเวลาชาร์ตเป็นวันเดียวกันและตลาดตีกรอบ 3 ช่วงหลักๆ Tokyo, London และ New York ชาร์ต EURUSD หลายวันผ่านมาราคาก็ไม่ไปไหนมาก เพราะอยู่ในกรอบบนที่เป็น supply และล่างเป็น demand จะเห็นว่าบาร์ยาวๆ จะเปิดช่วงตลาดเปิดพอดี ช่วงยุโรปจะเห็นบาร์ยาวๆ เกิดขึ้น ดังนั้นคู่นี้จะเปิดโอกาสเทรดตั้งแต่ 13.00-23.00 เมื่อเทียบเวลาจาก forexfactory

                หรือชาร์ต USDCAD เนื่องจากคู่เงินนี้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันคือช่วงตลาดอเมริกาเปิด ดูจากชาร์ตที่ใช้ H1 เป็นหลัก ท่านจะเห็นว่าบาร์ยาวๆ ที่บอกว่ามีการเข้าเทรดของขาใหญ่จะเป็นช่วงตลาดอเมริกาเป็นหลัก อาจจะเป็นคู่ที่เห็นช่วงเปิดตลาดราคาค่อนข้างจะเด้งแรงเพราะเปิดมาพร้อมๆ กัน

                จากตัวอย่างชาร์ตที่ยกมาประกอบ จะเห็นว่าเมื่อเข้าใจช่วงตลาดและ trading transactions ที่เกิดขึ้นแต่ละวัน ท่านสามารถหาได้ง่ายๆ ว่าแต่ละวันควรจะเทรดคู่เงินไหน  แม้ว่าบางช่วงอาจมีเรื่องข่าวเข้ามา แต่เมื่ออ่านชาร์ตปล่าเป็น แม้มีข่าวมาก็เป็นแค่ตัวเร่งราคาให้เกิดขึ้นเร็ว และไปถึงจุดที่มี liquidity รออยู่ หลักสำคัญว่าโอกาสการเทรดแต่ละช่วงสำหรับแต่ละคู่เงินจะเปิดหรือเปล่าต้องดูว่ามีการเข้าเทรดของขาใหญ่หรือเปล่า หรือเป็นช่วง consolidation ต่อเนื่องจากวันก่อน หรือ ช่วงตลาดก่อนเพื่อสะสม positions ให้ได้ตามที่ต้องการก่อนค่อยปั่นตลาดแล้วดันราคาไปทางที่พวกเขาเปิด positions ตอนสะสม

                ดังนั้นเมื่อรู้ช่วงเวลาและค่าเงินของแต่ละช่วงเวลา และการเทรดที่เกิดขึ้นแต่ละช่วงเวลา ให้มองดูว่ามีบาร์ยาวๆเกิดขึ้นหรือเปล่า ยิ่งเป็นบาร์ที่เกินบาร์ก่อนๆ หรือที่เป็น breakout อาจเป็นการเบรคช่วงตลาดก่อนหรือเบรคช่วงของวันก่อนก็ได้ ให้ดูลักษณะการเบรคประกอบว่าระยะห่างมากพอ เพราะถ้าระยะห่างมากพอและเกิดขึ้นเร็วมักจะเป็นร่องรอยการเข้าเทรดของขาใหญ่ก็ให้ดูช่วงตลาดประกอบ ค่างินที่สัมพันธ์ก็จะเปิดโอกาสให้เทรดในแต่ละวัน ทำให้หาคู่เทรดในแต่ละวันได้ง่ายว่าจะเทรดคู่ไหน

ทีมงาน : thaiforexbroker.com