Choppy Market เทรดอย่างไรเมื่อตลาดไร้ทิศทาง?

ปกติแล้วเทรดเดอร์มักจะเจอตลาดเทรนด์ขาขึ้น, ขาลงหรือ Sideway วนเวียนกันไป 3 อย่างนี้ใช่ไหมล่ะครับ? แต่มันมีอีกหนึ่งตัวอย่างเทรนด์ตลาดนั่นก็คือ Choppy Market ซึ่งมันก็คือส่วนหนึ่งเทรนด์ Forex เหมือนกันและบทความนี้คุณจะได้รู้จักกับมันมากขึ้นครับ


Highlight บทคัดย่อ

  • Choppy Market คือสภาวะที่ราคาไร้ทิศทางคล้ายตลาด Sideway แต่มีความผันผวนมากกว่าและคาดเดายากกว่า+ยังวิ่งในกรอบและอาจจะมี False Breakout ไปนอกกรอบบ้าง
  • สาเหตุหลักของตลาด Choppy: มักเกิดจากความไม่แน่ใจของนักลงทุน, การซื้อขายต่ำหรือการรอข่าวสำคัญก่อนเทรด ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ในสภาวะสมดุลแต่มีการต่อสู้กันรุนแรงและผันผวน
  • คำแนะนำการเทรดในตลาดแบบ Choppy แนะนำ 5 ข้อ
    1. ลดขนาด Position Size ลง
    2. ตั้ง SL/TP ต่างจากเดิม
    3. ซื้อแนวรับ ขายแนวต้าน
    4. ใช้อินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator
    5. มอง Timeframes ใหญ่เป็นหลักเสมอ

Choppy Market คืออะไร?

  • Choppy Market ในบริบทของตลาด Forex มันคือสภาวะที่ราคาของคู่เงินไม่มีทิศทางชัดเจนหรือไม่มีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เอาง่ายๆ ก็คือเดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง แกว่งไปมา ซึ่งรวมๆ มันออกจะเป็นแนวเดียวกับตลาด Sideway มากกว่า
  • เราจะรู้ได้ไงว่าตอนนี้กำลังอยู่ในตลาด Choppy? ลักษณะของมันก็มีประมาณนี้ครับ…
    1. ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน: อย่างที่บอกไปว่าราคาจะแกว่งไปมา ขึ้นก็ไม่สุด ลงก็ไม่สุด
    2. ความผันผวนสูง: ราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
    3. เคลื่อนไหวแบบสลับไปมา: ตามชื่อมันเลย Chop = ตัดสลับไปมา รูปแบบกราฟก็จะออกแนวนี้
สาเหตุการเกิด Choppy Market และ False Breakout
ถ้ามองตามลักษณะการเคลื่อนของราคาแล้วแม้จะอยู่ในกรอบ(ส่วนใหญ่) ก็จริงแต่กลับเคลื่อนสะเปะสะปะคาดเดาได้ยาก + ยังมีการ False Breakout ออกจากกรอบเป็นระยะๆ นี่แหละคือ Choppy Market

Choppy กับ Sideway ต่างกันไหม?

ถ้าตอบแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ไม่ได้เหมือนกันแบบ 100% แต่มีความคล้ายกันมากกว่าครับ โดย Choppy จัดเป็นหนึ่งซับเซ็ตของตลาด Sideway เหมือนกัน

  • Sideway: แน่นอนว่ามันคือเทรนด์ที่ตลาดเคลื่อนไปทางด้านข้าง ราคาเคลื่อนไหวอยู่ใน กรอบราคา ที่ค่อนข้างชัดเจน สภาพตลาดจะค่อนข้างสงบและคาดเดาทิศทางการวิ่งในกรอบได้ง่ายกว่า
  • Choppy Market: ราคาเคลื่อนไหวอยู่ใน กรอบราคา เหมือนกันครับ แต่การเคลื่อนไหวจะผันผวนสูงมากและขึ้นลงสลับกันไปมาอย่างรวดเร็ว ไม่เป็นระเบียบ บางทีก็เกิด False Breakout จากกรอบด้วย รวมๆ แล้วคาดเดาทิศทางได้ยากกว่า
Sideways Choppy
การเคลื่อนไหวของราคา วิ่งอยู่ในกรอบ มีแพทเทิร์นชัด ผันผวนขึ้นลงเร็ว ไม่เป็นระเบียบ
กรอบราคา มีกรอบแนวรับแนวต้านที่ชัดเจน มีกรอบแนวรับแนวต้าน แต่การเคลื่อนไหวภายในกรอบผันผวนมาก
ความผันผวน ต่ำถึงปานกลาง การเคลื่อนไหวค่อนข้างเป็นระเบียบ สูงมาก มีการแกว่งตัวรุนแรงและรวดเร็ว ไม่เป็นระเบียบ
ความยากในการเทรด โอกาสทำกำไรมีจำกัด แต่คาดเดาได้ง่ายกว่า ยากกว่ามาก มีโอกาสโดน Stop Loss บ่อย

ความแตกต่างระหว่าง Choppy และ Sideway คือเรื่องของความยากในการเทรดที่ต่างกันมากเนื่องจาก Choppy ไม่มีแพทเทิร์นการเคลื่อนไหวชัดเจนเท่า Sideway

สรุปง่ายๆ

  • Choppy คือ “ตลาดมั่ว ๆ” เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศ ไร้กรอบ เทรดยาก
  • Sideway คือ “ตลาดนิ่ง ๆ” ที่ยังพอเดาแนวรับแนวต้านได้ เทรดด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมยังพอได้กำไร

การเทรดในตลาด Choppy ควรทำยังไง?

เอาจริงๆ ผมอยากแนะนำกับเทรดเดอร์มือใหม่ว่าไม่ควรเข้าเทรดถ้าหากตลาดไม่มีเทรนด์ชัดเจน แต่ถ้าหากอยากลองฝึกเทรดกับสภาวะ Choppy Market จริง ก็มีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ครับ

1. ลดขนาด Position Size ลงซะ

  • ตลาดที่มีความผันผวนสูงและไม่มีทิศทางเช่นตลาดแบบ Choppy สิ่งแรกที่ควรทำคือลดขนาดการเทรดในแต่ละครั้งลงซะ เพราะการคาดเดาที่ไม่แน่นอน = ความเสี่ยงสูง และการลดขนาด Lot จะช่วยจำกัดความเสียหายได้เยอะ
  • จำได้ไหมที่บอกไปตอนต้นว่าบางครั้ง ตลาด Choppy ก็มีจังหวะ False Breakout มาหลอกเหมือนกันนะ แล้วถ้ายิ่งมันไปแตะถึง SL ที่ตั้งไว้ ขนาด Lot เล็กก็ทำให้เราเจ็บน้อยลง
จากรูปจะเห็นราคาทำ False Breakout อยู่บ่อยครั้ง หากเราเทรดด้วยขนาด Position ที่ต่ำ ระดับความเสียหายอาจจะไม่รุนแรงเท่าขนาด Position ปกติที่เทรดตามเทรนด์

2. เปลี่ยนแนวคิดการตั้ง SL/TP

  • การตั้ง Stop Loss: ควรตั้ง SL ให้เผื่อระยะ False Breakout มาเล็กน้อย แน่นอนว่าเราจะตั้ง SL นอกกรอบที่มันวิ่งอยู่แล้วและต้องตั้งแบบไม่เลื่อนตามราคา อย่าเสียดายเด็ดขาด!
  • ส่วนการตั้ง Take Profit: อย่าคาดหวังกำไรเป็นกอบเป็นกำกับตลาดแบบนี้ ใช้ RRR 1:1 ดีที่สุด คือตั้งระยะ TP ให้เท่ากับ SL ไปเลย
การตั้ง Stop Loss และ Take Profit ในตลาด Choppy
การตั้งระดับ SLในช่วง Choppy Market ไม่ควรตั้งเหมือนตอนตลาดปกติ ควรเผื่อระยะให้กว้างขึ้นแต่ก็ต้องหนักแน่นไม่เลื่อนตามราคาหาก Breakout ส่วนระดับ TP ให้ตั้งตามระยะ SL เน้นเก็บกินทีละนิด

3. ซื้อแนวรับ ขายแนวต้าน

  • วิธี Back to Basic มักจะใช้ได้ผลเสมอ เราต้องหากรอบที่ราคามันวิ่งอยู่ให้เจอ แล้ว Buy ที่แนวรับ Sell ที่แนวต้าน แต่อย่างเพิ่งรีบเข้าออเดอร์นะ ควรรอจังหวะเมื่อมี “สัญญาณกลับตัว
  • สัญญาณกลับตัวที่สามารถดูได้ง่ายๆ ก็เช่น
    • แท่งเทียนกลับตัว (Pin Bar, Engulfing)
    • Volume พุ่งเมื่อแตะแนวรับ-แนวต้าน (ต้องรอให้มันเลือกทางก่อน)
    • ใช้อินดิเคเตอร์พวก Oscillator เช่น RSI
กลยุทธ์ Buy แนวรับ Sell แนวต้าน
พื้นฐานเบสิคอย่าง Buy ที่แนวรับ – Sell ที่แนวต้าน สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Choppy Market ได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องรอให้มีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจนจะดีที่สุด เช่น การทิ้งไส้ยาว

4. Indicators ประเภท Oscillator ช่วยได้

  • ทำไมต้องใช้อินดี้พวก Oscillator ก็เพราะมันสามารถบอกภาวะ Overbought (ซื้อมากเกินไป) และ Oversold (ขายมากเกินไป) ของตลาดได้ ซึ่งจำเป็นมากๆ สำหรับ Choppy Market
  • มันก็ Make Sence ตรงที่ตลาดแบบ Choppy มันคาดการณ์ได้ยากมาก ตัวช่วยแบบ Oscillator จะทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่า
    • ถ้าอินดิเคเตอร์บอกว่าราคาขึ้นไปสูงมากจน แตะระดับ Overbought ของมัน ก็เตรียมตัวรอ Sell
    • แต่ถ้าราคาลงไปต่ำมากระดับ Oversold ก็เตรียมรอ Buy
การใช้ Oscillator เช่น RSI ในตลาด Choppy
การใช้อินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator เช่น RSI จะช่วยระบุภาวะ ซื้อ-ขายที่มากเกินไปทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าอาจจะเป็นจุดกลับตัวของราคา เช่นในรูปภาพวงกลมคือระดับราคาและ RSI ที่สัมพันธ์กัน

5. อย่าลืม Timeframe ใหญ่

  • การพิจารณา Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เช่น H4, D1 สำหรับการเทรดใน Choppy Market มันจะทำให้มองเห็น “โครงสร้างของราคา” ได้ชัดเจนกว่า ถ้าเราดูแค่ TF เล็ก
  • โดยเฉพาะการโดน Breakout หลอก มันก็จะลดลง แถมได้รู้ด้วยว่าที่เราคิดว่ามันคือภาวะ Choppy Market เนี่ยมันเป็นของจริงหรือเกิดแค่ใน TF เล็ก เพราะถ้าพลาดเทรดสวนเทรนด์ใหญ่ขึ้นมา ต้องมานั่งแก้เกมปวดหัวแน่นอน

วิดีโอเกี่ยวกับการเทรดในตลาด Sideway

 

ในบทความอาจจะแนะนำวิธีการเทรดในตลาดแบบ Sideway/Choppy ไว้แค่ 5 ข้อ แต่ถ้าอยากมีไอเดียการเทรดที่นอกเหนือจากนี้สามารถดูได้ในคลิปนี้ เป็นคลิปแชร์ กลยุทธ์การเทรดสำหรับตลาด Sideways (Ranging Market) ทั้งสำหรับคริปโต Forex และหุ้นเลยครับ

  • Focus นาทีที่ 00:18 ประเภทของตลาด
  • Focus นาทีที่ 02:06 การระบุตลาด Sideways
  • Focus นาทีที่ 04:57 กลยุทธ์การเทรดในตลาด Sideways
  • Focus นาทีที่ 09:19 การใช้ Grid Bot (อันนี้น่าสนใจ)

สรุป

ตลาด Sideway/Choppy ถ้าจะแนะนำจริงๆ ก็ยังไม่อยากให้เข้าเทรดจนติดเป็นนิสัยแต่ถ้าอยากลองหาโอกาสเทรดดีๆ เตรียมตัวในการบริหารเงินมาแล้วก็ทำตามคำแนะนำที่ได้บอกไป 5 ข้อนั้น หวังว่ามันจะทำให้เทรดเดอร์ทำกำไรและผ่านช่วงนี้ของตลาดไปได้ด้วยดี

อย่าลืมว่าสุดท้ายตลาด Forex มันมีอยู่แค่ 3 เทรนด์หลักๆ Up, Down, Sideway แต่นี้แหละครับ คนที่หาจังหวะเทรดในทั้ง 3 เทรนด์นี้ได้ คือเทรดเดอร์มืออาชีพตัวจริง

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

สารบัญบทความ