Swift code คืออะไร? เทรดกับโบรกเกอร์ Forex ต่างประเทศต้องอ่าน!

เทรดเดอร์ Forex ที่ใช้บริการโบรกเกอร์ Forex จากต่างประเทศและมีการฝาก/ถอนในต่างประเทศเท่านั้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเรียนรู้และรู้จัก “Swift Code” เพราะเรื่องเงินทองโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำธุรกรรมกับต่างประเทศ ยิ่งต้องมีข้อมูลความปลอดภัยให้มากที่สุดและในบทความนี้ก็เตรียมข้อมูลมาให้คุณแล้วครับ!


Highlight บทคัดย่อ

  • Swift Code หรือ BIC เป็นรหัสที่ใช้ระบุตัวตนของธนาคารและสาขาที่เข้าร่วมเครือข่าย SWIFT ทั่วโลก มีหน้าที่หลักคือ โอนหรือรับเงินจากต่างประเทศ
  • ตัว Swift Code มีความยาว 8-11 ตัวอักษร ประกอบด้วยรหัสธนาคาร, รหัสประเทศ, รหัสสถานที่ และรหัสสาขา ตัวอย่างของ Swift Code ธนาคารในประเทศไทย…
    • ธนาคารกรุงเทพ (BKKBTHBKXXX)
    • ธนาคารกสิกรไทย (KASITHBKXXX)
  • Swift Code เกี่ยวข้องกับ Forex ในกรณีที่เทรดเดอร์ใช้งานโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ไม่รองรับธนาคารไทย จำเป็นต้องใช้ช่องทาง Wire Transfer แทน ซึ่งต้องใช้ Swift Code
  • ข้อดีของ Swift Code คือมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล รองรับการโอนเงินหลายสกุล มีต้องระวังในเรื่อง ค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าการโอนเงินแบบอื่น, การใช้เวลาดำเนินการที่นาน

Swift code คืออะไร?

  • Swift Code หรือ BIC (Bank Identifier Code) มันคือรหัสประจำธนาคารสากลที่ใช้ระบุธนาคารและสาขาที่เข้าร่วมเครือข่าย SWIFT ทั่วโลก
  • Swift Code ถือว่าเป็นรหัสมาตรฐานสากลที่สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศระหว่าง 2 ธนาคาร ทั้ง…
    • โอนเงินระหว่างประเทศ (International Transfer)
    • รับเงินจากต่างประเทศ
    • ระบุตัวตนธนาคาร, ยืนยันตัวตนผู้รับ-โอนเงินไปในตัว

โครงสร้างของ Swift code

รหัส Swift Code มีความยาว 8 – 11 ตัวอักษร โดยมีโครงสร้างดังนี้ ตัวอย่างรหัส Swift Code คือ KASITHBKXXX (ธนาคารกสิกรไทย – สำนักงานใหญ่)

  1. Bank Code /รหัสธนาคาร 4 ตัวแรก– เป็นตัวย่อของชื่อธนาคาร KASITHBKXXX รหัสธนาคาร = KASI
  2. Country Code /รหัสประเทศ (ตัวที่ 5-6) – ดังนั้น KASITHBKXXX > TH = ประเทศไทย
  3. Location Code /รหัสสถานที่ (ตัวที่ 7-8) – สถานที่ตั้งหลัก(สาขาใหญ่) KASITHBKXXX > BK = กรุงเทพฯ (ต่อให้ธนาคารนั้นอยู่สาขาเชียงใหม่ ก็จะใช้ รหัส BK เหมือนกัน เพราะสาขาใหญ่ตั้งอยู่กรุงเทพฯ)
  4. Branch Code /รหัสสาขา (ตัวที่ 9-11) – KASITHBKXXX ระบุสาขาของธนาคาร (แต่ไม่บังคับให้กรอก)
โครงสร้างของ Swift code และความหมายแต่ละส่วน
จากตัวอย่างในรูปภาพ Swift Code คือ KASITHBK123 เป็นรหัสของธนาคารกสิกรไทยในกรุงเทพฯ สาขาที่ 123 หากเรารับเงินจากต่างประเทศ ก็ต้องบอกรหัสนี้แก่ผู้ที่โอนจากต่างประเทศ

รวม Swift code ของธนาคารในประเทศไทย

ตัวอย่างรหัส Swift Code ของธนาคารในประเทศไทย โดยจะระบุ 8 ตำแหน่ง ไม่ระบุสาขา เผื่อว่าใครกำลังมองหาว่า Swift Code ของธนาคารที่ตัวเองใช้งานอยู่จะมีหน้าตายังไงครับ

  1. ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank): BKKBTHBK
  2. ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank): KASITHBK
  3. ธนาคารกรุงไทย (Krung Thai Bank): KRTHTHBK
  4. ธนาคารไทยพาณิชย์ (Siam Commercial Bank): SICOTHBK
  5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Bank of Ayudhya): AYUDTHBK
  6. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TMBThanachart Bank): TMBKTHBK
  7. ธนาคารออมสิน (Government Savings Bank): GSBATHBK
  8. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (Kiatnakin Phatra Bank): KKPBTHBK
  9. ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB Thai Bank): UBOBTHBK
  10. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (Islamic Bank of Thailand): TIBTTHBK
รวม Swift code ของธนาคารต่างๆ ในประเทศไทย
8 ธนาคารหลักในประเทศไทยที่คนใช้งานมากที่สุด พร้อมกับ Swift code 8 ตำแหน่ง บ่งบอกชื่อธนาคาร, ประเทศ, สถานที่ตั้งหลัก(สาขาใหญ่) ส่วนตัวเลข 3 ตัวสุดท้ายคือสาขา จะมีแตกต่างกันออกไปตามแต่ละจังหวัด

Swift code เกี่ยวกับ Forex ยังไง?

แล้วเรื่อง Swift Code มันเกี่ยวกับการเทรด Forex ยังไง? …ก็เกี่ยวตรงที่เทรดเดอร์ที่ใช้โบรกเกอร์ Forex ต่างประเทศ แต่ไม่มีช่องทางฝาก/ถอนกับ ธนาคารไทย โดยตรง มันจะมีช่องทางที่ชื่อ Wire Transfer อันนี้แหละที่ใช้ Swift Code

ฝาก-ถอนเงินโบรกเกอร์ต่างประเทศ

  • เมื่อต้องการฝากเงินเข้าบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ไม่รองรับธนาคารในประเทศไทย จำเป็นจะต้องใช้ช่องทาง Wire Transfer และต้องกรอก Swift Code ของธนาคารที่โบรกเกอร์ใช้รับเงิน
  • เช่นเดียวกับที่เราต้องการถอนเงินกำไรกลับมายังบัญชีธนาคารในประเทศไทย ก็ต้องใช้ Swift Code ของธนาคารที่คุณใช้ในประเทศไทยนั่นเอง
ตัวอย่างช่องทางฝากเงิน Wire Transfer ของโบรกเกอร์ Forex
ตัวอย่างโบรกเกอร์ Fusion Markets ที่มีช่อง Wire Transfer สำหรับฝาก/ถอนผ่านธนาคารทั่วโลก แถมยังมีสกุลเงินบาทรองรับด้วย เทรดเดอร์คนไทยสามารถฝาก-ถอนได้ผ่านธนาคารที่ใช้งานโดยตรง

การยืนยันตัวตน

  • ตัวเลข Swift Code ไม่ได้ใช้เพื่อยืนยันตัวตนโดยตรงแต่เอาไว้ระบุที่อยู่ธนาคารในธุรกรรมนั้นๆ ซึ่งเราจะต้องยืนยันตัวตนกับธนาคารเพื่อเปิดบัญชีอยู่แล้ว จึงค่อนข้างปลอดภัยเพราะยืนยันตัวตนทางอ้อมไปแล้ว
  • การใช้ Swift Code ยังช่วยสืบหาเส้นทางการเงิน กรณีที่ผิดพลาดในการโอนเงินไปหาผู้รับ เราสามารถตามเรื่องจากเส้นทางการเงินได้

ตัวอย่างโบรกเกอร์ที่รองรับ Wire Transfer

  1. FP Markets
    • ฝากขั้นต่ำ: 100 USD
    • ใบอนุญาต: CySEC, ASIC
    • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก-ถอนผ่าน Wire Transfer
  1. IC Markets
    • ฝากขั้นต่ำ: 500 บาท
    • ใบอนุญาต: CySEC, ASIC
    • Wire Transfer รองรับ 9 สกุลเงิน
  1. AVA Trade
    • ฝากขั้นต่ำ: 100 USD
    • ใบอนุญาต: ASIC, BVI FSC, FSCA
    • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก-ถอนผ่าน Wire Transfer
  1. Fusion Markets
    • ฝากขั้นต่ำ: 10 USD
    • ใบอนุญาต: ASIC, VFSC
    • รองรับ Wire Transfer 8 สกุลเงิน (รวมบาท)
  1. FXPro
    • ฝากขั้นต่ำ: 1,000 USD
    • ใบอนุญาต: FCA, CySEC, FSCA
    • เว็บไซต์ระบุ Wire Transfer เฉพาะตอนถอน ตอนฝากไม่เห็น
โบรกเกอร์ Forex ที่รองรับการฝากถอนผ่าน Wire Transfer
ตัวอย่างโบรกเกอร์ Forex ที่รองรับการฝาก/ถอน เงินผ่านช่องทาง Wire Transfer ที่ต้องใช้ Swift Code ซึ่งบางโบรกเกอร์มีช่องธุรกรรมผ่านธนาคารไทยได้ แต่ยกตัวอย่างมาเผื่อกรณีเทรดเดอร์ที่อยู่ประเทศที่โบรกเกอร์ไม่รองรับธนาคาร ก็สามารถใช้ Wire Transfer ได้

ข้อดี-ข้อควรระวังในการใช้ Swift code

เรามาดูกันบ้างว่าการระบุ Swift Code มีข้อดียังไงและมีตรงไหนที่เทรดเดอร์ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษบ้าง…

ข้อดีของ Swift Code

  1. ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยสูง: Swift Code เป็นระบบที่มีการเข้ารหัสและตรวจสอบข้อมูลอย่างเข้มงวด ลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีทางไซเบอร์ เหมาะกับทำธุรกรรมการเงินมาก
  2. มาตรฐานสากลที่ธนาคารยอมรับ: ธนาคารทั่วโลกต่างใช้ระบบ SWIFT ในการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารต่างประเทศ
  3. รองรับหลายสกุลเงิน: การใช้ Swift Code = เราสามารถโอนเงินไปที่ไหนในโลกนี้ก็ได้ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ USD เท่านั้น
  4. ตรวจสอบสถานะธุรกรรมได้ง่าย: ทุกการทำธุรกรรมผ่านระบบ SWIFT จะมีการบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด ทำให้สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้ง่ายขึ้นภายหลัง

ข้อควรระวังในการใช้ Swift Code

  1. ค่าธรรมเนียมที่สูง: การทำธุรกรรมระหว่างประเทศผ่านธนาคารมักมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงกว่าการโอนเงินแบบใช้กระเป๋า E-Wallet เช่น Skrill, Neteller
  2. ใช้เวลาดำเนินการนาน: ตอนกรอกข้อมูลจะทำเร็วแค่ไหน แต่ตอนโอนเงินข้ามประเทศก็ยังต้องใช้เวลาดำเนินการหลายวันทำการอยู่ดี อย่างต่ำก็ 3-5 วันทำการ
  3. อย่ากรอกข้อมูลผิด: ด้วยรหัสมีความยาว 8-11 ตัว คนที่ไม่เข้าใจหรือประมาท ถ้ากรอกตัวรหัสผิดไปแค่ตัวเดียว = เงินไม่สามารถโอนไปที่ธนาคารปลายทางได้
ข้อดีและข้อควรระวังในการใช้ Swift code
การใช้ Swift code ถือเป็นช่องทางในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส แต่ต้องแลกมาด้วยค่าธรรมเนียมที่สูงและระยะเวลาดำเนินการที่นานกว่าปกติ

วิดีโอเกี่ยวกับ Swift Code

 

เชื่อว่าหลายคนยังไม่เห็นภาพชัดๆ ว่ารับ-โอนเงินระหว่างประเทศแบบใช้ Swift Code ต้องทำยังไง ในวิดีโอนี้ได้สรุปขั้นตอนการใช้ Swift Code สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยระบุถึงความสำคัญของรหัสในการระบุตัวตนธนาคารของผู้รับ ประเทศและสาขา ไปรับชมกันเลยครับ!

  • Focus นาทีที่ 00:14 Swift Code คืออะไร?
  • Focus นาทีที่ 00:32 วิธีใช้ Swift Code ในการ โอนเงิน
  • Focus นาทีที่ 00:54 Log in เข้าบัญชีธนาคารออนไลน์
  • Focus นาทีที่ 01:00 เข้าสู่ขั้นตอน Request โอนเงินต่างประเทศและกรอกรหัส Swift Code
  • Focus นาทีที่ 01:07 กรอกจำนวนเงินที่ต้องการโอน

สรุป

Swift code เป็นรหัสตัวอักษรและตัวเลขไม่กี่หลักที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการฝาก-ถอนเงินสำหรับโบรกเกอร์ที่อยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่มี Swift Code = เงินไปไม่ถึงปลายทาง หากกรอกผิดแม้เพียงตัวเดียวอาจทำให้เงินล่าช้า, ถูกส่งผิดธนาคาร หรือแม้กระทั่งถูกตีกลับได้เลย

ดังนั้นที่อยากจะแนะนำก็คือ บันทึก Swift code ของธนาคารตนเองที่ใช้งานบ่อยและควรใช้ธนาคารเดียวเป็นหลักเพื่อป้องกันการหลงลืม+ผิดพลาดและก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง ควรตรวจสอบ Swift code กับชื่อธนาคารอีกรอบ

อ้างอิง

ทีมงาน : thaiforexbroker.com

สารบัญ