สรุปคะแนน Pepperstone
6.88 / 10
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2010 ในประเทศออสเตรเลีย และได้รับใบอนุญาตระดับท็อปจากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น FCA, ASIC และ BaFin ที่ถือเป็นมาตรฐานสูงสุดในวงการ
โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกรายนี้ มีจุดเด่นจุดด้อยอะไรบ้าง? บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของ Pepperstone ทั้งเรื่องความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียม การฝากถอน และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจริง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณหรือไม่
สรุปภาพรวม Pepperstone คือใคร? ดีไหม?
- ประเภทโบรกเกอร์ คือ A-Book / Non-dealing Desk ส่งคำสั่งไปยัง Liquidity Provider โดยตรง ไม่มีการแทรกแซงจากโบรกเกอร์
- ปีก่อตั้ง 2010
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
- จำนวนคนเข้าเว็บไซต์ต่อเดือน: ประมาณ 149,917 ครั้ง
- ยอดดาวน์โหลดแอปใน Google Play Store: มากกว่า 100,000 ครั้ง
- คะแนนรีวิวบนเว็บใหญ่ๆ ดีมาก – ไม่ว่าจะเป็น Trustpilot หรือ ForexPeaceArmy
- การกำกับดูแลและใบอนุญาต (Regulations) มาจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำระดับโลก คือ FCA, ASIC, CySEC, BaFin, SCB, DFSA และ CMA
- เป็นสมาชิกของ The Financial Commission ลูกค้าขอรับการชดเชยได้สูงสุด 20,000 ยูโร
- ประเภทบัญชี: มีแค่ Razor กับ Standard ซึ่งไม่ต่างกันมากนัก
- Leverage สูงสุด: 1:500
- สามารถเปลี่ยน Leverage ได้เอง สะดวกสำหรับคนที่อยากจัดการความเสี่ยงเอง
- ฝากถอนผ่านธนาคารไทย ได้ แต่หาก ฝากถอนผ่านคริปโต จะฝากได้ แต่ ถอนไม่ได้ ทั้งนี้จะไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมแต่จะมีขั้นต่ำในการฝากถอน ดังนี้
- ขีดจำกัดการฝาก 200 – 500,000 บาท
- ขีดจำกัดการถอน 20 – 15,000 USD
- MT4/5
- cTrader
- ใช้งาน TradingView ได้
- VPS ฟรี – แค่ทำตามเงื่อนไขก็ใช้ได้เลย
ความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของ Pepperstone

มีการแยกเงินลูกค้าอย่างชัดเจน
- Pepperstone ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สากลในการ “แยกเงินของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท” อย่างเคร่งครัดครับ
- หมายความว่า เงินทุนของคุณจะถูกฝากไว้ในบัญชีที่แยกต่างหากกับบัญชีดำเนินงานของโบรกเกอร์ ทำให้มั่นใจได้ว่า หากโบรกเกอร์มีปัญหาด้านการเงิน เงินของคุณก็จะยังปลอดภัยอยู่นะครับ
เป็นสมาชิกของ The Financial Commission
- อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ก็คือ Pepperstone เป็นสมาชิกของ The Financial Commission ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับโลก ที่มีหน้าที่คอยดูแลและให้ความคุ้มครองลูกค้าในกรณีที่มีข้อพิพาทกับโบรกเกอร์
- ลูกค้าสามารถขอรับการชดเชยได้สูงสุดถึง 20,000 ยูโร ผ่านกองทุน Compensation Fund อีกด้วยครับ
ใบอนุญาตระดับท็อปจากหลายประเทศ
- Pepperstone ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง
- ไม่ว่าจะเป็น FCA (สหราชอาณาจักร) ,ASIC (ออสเตรเลีย),CySEC (ไซปรัส) ,BaFin (เยอรมนี) และ รวมถึงใบอนุญาตเพิ่มเติมจาก SCB, DFSA และ CMA
- เป็นการครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วโลก และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจที่สูงมากนะครับ
ก่อตั้งมานาน มีสำนักงานใหญ่ในประเทศที่น่าเชื่อถือ
- Pepperstone ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2010 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบการกำกับดูแลตลาดการเงินที่เข้มงวดมาก
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงค่อนข้างดี
- คะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง ForexPeaceArmy และ Trustpilot ของ Pepperstone นั้น อยู่ในระดับที่ดีมาก นะครับ สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องความโปร่งใสและความเสถียรในการให้บริการ
องค์กรกำกับดูแลตรวจสอบ ( license )

- FCA Financial Conduct Authority (สหราชอาณาจักร)
-
- เลขที่ใบอนุญาต: 684312
- ชื่อจดทะเบียน: Pepperstone Limited
- ที่อยู่: 70 Gracechurch Street, London, EC3V 0HR, UNITED KINGDOM
- เว็บไซต์: pepperstone.com
- ASIC Australian Securities and Investments Commission (ออสเตรเลีย)
-
- เลขที่ใบอนุญาต: 12 147 055 703
- ชื่อจดทะเบียน: PEPPERSTONE GROUP LIMITED
- ที่อยู่: Docklands VIC 3008, Australia
- CySEC Cyprus Securities and Exchange Commission (ไซปรัส)
-
- เลขที่ใบอนุญาต: 388/20
- ชื่อจดทะเบียน: Pepperstone EU Limited
- ที่อยู่: 142 Franklin Roosevelt Avenue, Limassol, Cyprus
- เว็บไซต์: https://pepperstone.com/
- BaFin Bundesanstalt für Finanzdienstleistungsaufsicht (เยอรมนี)
-
- เลขที่ใบอนุญาต: 10151148
- ชื่อจดทะเบียน: Pepperstone GmbH
- ที่อยู่: Neubrückstraße 1, 40213 Düsseldorf, Germany
- SCB Securities Commission of The Bahamas
-
- เลขที่ใบอนุญาต: SIA-F217
- ชื่อจดทะเบียน: Pepperstone Markets Limited
- ที่อยู่: No. 2 Compass Point Studios, West Bay Street, Nassau, Bahamas
- DFSA Dubai Financial Services Authority (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
-
- เลขที่ใบอนุญาต: F004356
- ชื่อจดทะเบียน: Pepperstone Financial Services (DIFC) Limited
- ที่อยู่: Unit PL-CT-00-15-OF-2A, Level 15, Currency Tower 2, DIFC, PO 482087, Dubai, UAE
- CMA Capital Markets Authority of Kenya (เคนยา)
-
- เลขที่ใบอนุญาต: 128
- ชื่อจดทะเบียน: Pepperstone Markets Kenya Limited
- ที่อยู่: P.O. Box 3085-00100, Nairobi, Kenya
- เว็บไซต์: https://pepperstone.com/en-af/
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ประวัติองค์กร และประวัติการดำเนินงาน

ข้อมูลบริษัทและประวัติโดยย่อ
- ชื่อบริษัท: Pepperstone
- ปีที่ก่อตั้ง: 2010
- สถานที่ก่อตั้ง: เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
- สำนักงานใหญ่ปัจจุบัน: 727 Collins St Level 16, Tower One, Docklands VIC 3008, Australia
- จำนวนพนักงาน: 641 คน
- ประเทศที่ให้บริการ: หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
- คติพจน์องค์กร: “ยกระดับเกมการเทรด เพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้น”
- สิ่งที่ใช้ดึงดูดลูกค้า: ความน่าเชื่อถือสูง, ค่าธรรมเนียมต่ำ, มี TradingView ให้ใช้งาน
ประเภทและลักษณะของโบรกเกอร์
- ประเภทการดำเนินงาน: A-book / Non-dealing Desk
- หมายถึง: ส่งคำสั่งไปยัง Liquidity Provider โดยตรง ไม่มีการแทรกแซงจากโบรกเกอร์
- จำนวน Liquidity Provider: ไม่เปิดเผย
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร
- ผู้ก่อตั้ง: Joe Davenport และ Owen Kerr (ชาวออสเตรเลีย)
- CEO ปัจจุบัน: Tamas Szabo
- การปรากฏตัวของ CEO:
- ออกสื่อผ่าน Facebook Page ของ Pepperstone
- ปรากฏในช่อง YouTube ของบริษัท (เช่น คลิป “เงินไหนไปที่ไหน”)
- ลักษณะการบริหาร: เน้นโปร่งใส กล้าออกสื่อ สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง
ระดับความนิยมของ Pepperstone ในไทยและต่างประเทศ

ความนิยมในต่างประเทศ
- จำนวนคนเข้าเว็บไซต์ต่อเดือน (จาก Ubersuggest): ประมาณ 149,917 ครั้ง
- ยอดดาวน์โหลดแอปใน Google Play Store: มากกว่า 100,000 ครั้ง
- คะแนนรีวิว: 4.6 ดาว
- จำนวนรีวิว: 4,390 คน
- โซเชียลมีเดีย (Global)
- Facebook Page: 210,000 Followers
- YouTube Channel: 413,000 Subscribers
- Instagram: 12,300 Followers (บัญชี: @pepperstonefx)
ความนิยมในไทย
แม้ว่า Pepperstone จะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าเข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จากการตรวจสอบพบว่า…
- คลิปภาษาไทยที่เก่าที่สุดบน YouTube ช่อง Pepperstone Asia คือเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2023
- โซเชียลมีเดียในไทย
- ไม่มีเพจ Facebook แยกเฉพาะไทย แต่ใช้เพจหลักโพสต์คอนเทนต์ไทยร่วมด้วย
- ใช้ช่อง Pepperstone Asia แทนช่อง YouTube ไทยโดยเฉพาะ
- ไม่มี Instagram ของไทย แต่อัปเดตผ่าน Pepperstone Asia เช่นกัน
- จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ Pepperstone (URL ภาษาไทย)
- ประมาณ 2,233 ครั้ง/เดือน จากข้อมูล Ubersuggest
ขั้นตอนการสมัคร เปิดบัญชี
- ขั้นตอนที่ 1 เข้าไปที่เว็บไซต์com/th-th และกดปุ่ม “เปิดบัญชีเทรดจริง”
- ขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมล รหัสผ่าน ประเทศที่พำนัก และรายละเอียดทางการเงินเบื้องต้น
- ขั้นตอนที่ 3 ระบบจะพาเข้าสู่หน้าส่วนตัวของลูกค้า ให้เลื่อนลงมาข้างล่างแล้วกด “ถัดไป” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยันตัวตน
- ขั้นตอนที่ 4 สำหรับการยืนยันตัวตน มี 2 ส่วนหลักคือ:
- เอกสาร ใช้ บัตรประชาชน ได้เลย
- Selfie ต้องถ่ายรูปตนเองเพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกับในเอกสาร
- ขั้นตอนที่ 5 หลังจากอัปโหลดเอกสารและถ่าย Selfie แล้ว ระบบจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ
- ขั้นตอนที่ 6 ระบบจะแจ้งข้อความว่า “กำลังตรวจสอบเอกสารของคุณ” ซึ่งหมายความว่าข้อมูลทั้งหมดถูกส่งเรียบร้อยแล้วนะครับ
ระยะเวลาในการยืนยันตัวตน
- จากการทดสอบใช้งานจริง พบว่า ใช้เวลาประมาณ 6 วัน ในการตรวจสอบเอกสารและยืนยันตัวตนให้เสร็จสมบูรณ์
- ซึ่งถือว่า ค่อนข้างนานกว่าค่าเฉลี่ย ของโบรกเกอร์หลายเจ้าในตลาด
รวมรีวิวการใช้งานจริงของ Pepperstone

รีวิวเจาะลึกค่าบริการตามประเภทบัญชี
บัญชี Standard
บัญชี Standard ของ Pepperstone เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการความเรียบง่าย เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม แต่ค่า Spread จะสูงกว่าบัญชี Razor อยู่พอสมควรนะครับ
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด
- ค่า Spread โดยเฉลี่ยของคู่ EURUSD อยู่ที่ 27 USD
- ต้นทุนรวมต่ำสุดในบัญชี Standard คือ SpotCrude ที่ 28 USD
- ต้นทุนรวมสูงสุดในบัญชี Standard คือ BTCUSD ที่ 07 USD
- ทองคำ (XAUUSD) มีต้นทุนอยู่ที่ 2 USD
- Swap ที่ได้มากที่สุด: USDCHF (+8.72)
- Swap ที่เสียมากที่สุด: XAUUSD (-43.05)
บัญชี Razor
บัญชี Razor จะเหมาะกับนักเทรดสายจริงจัง ที่ต้องการต้นทุนการเทรดต่ำที่สุด แม้จะมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเข้ามา แต่ Spread ต่ำมาก ทำให้ต้นทุนรวมยังถูกกว่าครับ
- มีค่าคอมมิชชั่น 7 USD ต่อ Lot
- ค่า Spread โดยเฉลี่ยของคู่ EURUSD อยู่ที่ 27 USD
- ต้นทุนรวมเฉลี่ยของ EURUSD อยู่ที่ 27 USD (รวมค่าคอม)
- ต้นทุนรวมต่ำสุดในบัญชี Razor คือ SpotCrude ที่ 28 USD
- ต้นทุนรวมสูงสุดในบัญชี Razor คือ BTCUSD ที่ 07 USD
- ทองคำ (XAUUSD) มีต้นทุนรวมอยู่ที่ 19 USD (รวมค่าคอม)
- Swap ที่ได้มากที่สุด: USDCHF (+8.72)
- Swap ที่เสียมากที่สุด: XAUUSD (-43.05)
รีวิว ด้านการเทรด เทรดดีไหม

สรุปจากการเทรดในเวลาปกติ (ไม่มีข่าว)
- เปิดออเดอร์ได้ตามปกติ
- ไม่พบอาการรีโควต หรือกราฟค้าง
- ไม่เจอปัญหาเปิดออเดอร์ไม่ได้
สรุปจากการทดสอบช่วงข่าวแรง
- ความเร็วเปิดออเดอร์ก่อนข่าวออก: 52 ms
- ความเร็วเปิดออเดอร์ตอนข่าวออก: 709 ms
- Spread ก่อนข่าว: 10 Point
- Spread ตอนพีคสุด: 26 Point
- ระยะเวลาที่ Spread กลับมาปกติ: 60 วินาที
การเทรด Forex กับ Pepperstone
- ข้อดีในมุมต้นทุนการเทรด
- ต้นทุนการเทรดโดยรวมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโบรกเกอร์ในตลาด
- EURUSD บัญชี Razor มีต้นทุนแค่ 27 USD/Lot ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 10.33 USD/Lot
- Swap บางคู่เป็นบวก เช่น EURUSD (Swap Short = +3.59)
- ข้อดีในมุมตราสาร
- มีคู่เงินให้เลือกหลากหลาย ทั้งคู่หลัก คู่รอง
- มีคู่เงินหายาก เช่น USDTHB ให้เลือกเทรดด้วย
การเทรดทองคำกับ Pepperstone
- Spread + Commission ของทองคำต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด
- ค่าเฉลี่ยตลาดอยู่ที่ 4 USD/Lot
- บัญชี Razor อยู่ที่ 2 USD/Lot
- บัญชี Standard อยู่ที่ 19 USD/Lot
- มี Swap เป็นบวก และดีกว่าค่าเฉลี่ยของโบรกเกอร์อื่นๆ
การเทรดคริปโตกับ Pepperstone
- ข้อดีในมุมต้นทุนการเทรด
- Spread + Commission ของคริปโตไม่ได้ต่ำมาก แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป
- บางคู่มี Swap เป็นบวก
- ข้อจำกัดในมุมตราสาร
- มีเหรียญให้เลือกเทรดไม่มาก
- แต่เหรียญยอดนิยม เช่น BTC, ETH มีให้เทรดครบ
รีวิวจากเทรดเดอร์ทั่วโลก

รีวิวจากเว็บไซต์ ForexPeaceArmy (FPA)
- คะแนนเฉลี่ย 481 จาก 5 (จากผู้รีวิว 387 คน) ปานกลางค่อนไปทางดี
รีวิวจากเว็บไซต์ Trustpilot
- คะแนนเฉลี่ย 4.4 จาก 5 (จากผู้รีวิว 2,623 คน) ถือว่าค่อนข้างดีมาก
ประเด็นปัญหาที่พบจากผู้ใช้งานจริง
ปัญหาด้านกราฟผิดปกติ
- ผู้ใช้รายหนึ่งพบว่า กราฟของ GER40 ร่วงแรงผิดปกติกว่า 200 จุด เฉพาะบนแพลตฟอร์มของ Pepperstone ทำให้ Stop Loss โดนตัด โดยไม่สมเหตุสมผล
- ทางโบรกเกอร์ชี้แจงว่าเกิดจากช่วง Rollover และ ปฏิเสธการคืนเงิน
- ผู้เขียนกำลังพิจารณาร้องเรียนต่อ BaFin ประเทศเยอรมนี
- อีกเคสหนึ่ง พบว่า Spread ขยายขึ้นกว่า 500 จุดในช่วง Rollover แม้ทางโบรกเกอร์จะรับรู้ว่าเกิดจากช่วงเวลานั้น แต่ผู้ใช้งานมองว่าเกินปกติ
อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ได้ดำเนินการคืนเงินให้ภายหลัง
ปัญหาเรื่องการเปิด-ปิดออเดอร์ผิดจุด
- ผู้ใช้รายหนึ่งใช้บอท Night Scalper เทรดคู่ CHFJPY และพบว่า
- บอทตั้งราคาขายไว้ที่ 957
- แต่คำสั่งถูกเปิดที่ 844
- ทำให้เกิดการขาดทุนทันที
- ทาง Pepperstone รับผิดชอบและคืนเงินให้เรียบร้อย
ปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงิน
- ผู้ใช้งานรายหนึ่งรายงานว่าได้ส่งคำร้องขอถอนเงินในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2019
แต่จนถึงวันที่ 1 มีนาคม ยังไม่มีการดำเนินการ - แม้จะส่งเอกสารครบถ้วนตามที่ขอ ทั้งหลักฐานที่อยู่และรูปบัตรเครดิต
แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับที่ชัดเจน - ผู้ใช้งานรู้สึกไม่พอใจที่ฝ่ายสนับสนุนให้คำตอบแบบ “พรุ่งนี้จะดำเนินการให้” ซ้ำๆ
- อย่างไรก็ตาม สุดท้ายปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไขและถอนเงินได้เรียบร้อย
รีวิว Copy Trading และ VPS
รีวิวระบบ Copy Trading

รายละเอียดโดยรวม
- ใช้งานผ่านแอป “CopyTrading by Pepperstone”
- ระดับความง่ายในการใช้งาน: 5.5/10
- มีการแสดงข้อมูลความเสี่ยงของกลยุทธ์
- บัญชีที่ใช้ Copy Trade ต้องเปิดแยกใหม่โดยเฉพาะ ไม่สามารถใช้บัญชีเดิมได้
- สามารถดูอัตราการชนะ/แพ้ และสินค้าที่แต่ละกลยุทธ์ใช้เทรดได้
ข้อดีของระบบ Copy Trade
- อินเทอร์เฟซของแอปทำออกมา “ดูง่าย” และทันสมัย
- มีข้อมูลเชิงลึกของกลยุทธ์ เช่น อัตราชนะ แพ้ และสินทรัพย์ที่เทรด
- แสดงผลชัดเจนว่ากลยุทธ์ไหนเทรดอะไร
ข้อเสียของระบบ Copy Trade
- ใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะผู้ใช้ใหม่
- ไม่สามารถล็อกอินบัญชีที่มีอยู่แล้วได้ ต้องเปิดบัญชีใหม่เฉพาะสำหรับ Copy Trade
- หน้าเว็บหลักหาเนื้อหาเกี่ยวกับ Copy Trade ได้ยาก ต้องค้นหาผ่าน Google ถึงจะเจอ
- การเชื่อมบัญชีทำผ่านแอปเท่านั้น และกลยุทธ์ให้เลือกยังมีน้อย
วิธีใช้งานและรายละเอียดเพิ่มเติม
ดูขั้นตอนการใช้งานได้ที่นี่ https://pepperstone.com/th-th/trading-platforms/social-trading/
รีวิว VPS ฟรี ของ Dooprime
รายละเอียดบริการ VPS ฟรี
- มีบริการ VPS ฟรีให้สำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดขั้นต่ำ
- เงื่อนไขการใช้งาน VPS ฟรี:
- ต้องมีปริมาณการเทรด อย่างน้อย 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่า) ภายใน 60 วัน
- รับได้เพียง 1 เครื่องต่อ 1 บัญชีเทรด
- สเปค VPS ที่ให้บริการ 1 CPU/3 GB RAM/40 GB SSD
- วิธีสมัครใช้งาน VPS กรอกแบบฟอร์มเพื่อขอใช้งานได้ที่ https://pepperstone.com/th-th/platforms/trading-tools/vps-plans/
โบนัสและโปรโมชั่นของ Pepperstone
โปรโมชั่น ใช้งาน TradingView ฟรีกับ Pepperstone
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ สามารถใช้งาน แพ็กเกจ TradingView แบบเสียเงินได้ฟรี เพียงทำตามเงื่อนไขการใช้งานของแต่ละแพ็กเกจตามด้านล่างนี้เลยครับ
แพ็กเกจ | เงื่อนไขรับครั้งแรก | เงื่อนไขต่ออายุ |
---|---|---|
Essential (1 เดือน) | เทรดอย่างน้อย 1 ครั้ง | เทรด 5 ล็อตต่อเดือน |
Essential (3 เดือน) | ฝากขั้นต่ำ 300 USD และเทรดอย่างน้อย 1 ครั้ง | เทรด 12 ล็อตใน 3 เดือน |
Plus (3 เดือน) | ฝากขั้นต่ำ 1,000 USD และเทรดอย่างน้อย 1 ครั้ง | เทรด 15 ล็อตใน 3 เดือน |
Premium (3 เดือน) | ฝากขั้นต่ำ 3,000 USD และเทรดอย่างน้อย 1 ครั้ง | เทรด 35 ล็อตใน 3 เดือน |
โปรโมชั่นของ Pepperstone อาจไม่ใช่แนวแจกเงินสดหรือโบนัสไม่ต้องฝาก แต่เน้นสิทธิประโยชน์ที่ ตอบโจทย์นักเทรดจริงจัง จึงเหมาะกับคนที่ใช้งาน TradingView เป็นประจำ เพราะสามารถประหยัดค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายไตรมาสได้มากยิ่งเทรดเยอะ ยิ่งได้แพ็กเกจสูงขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
แพลตฟอร์มเทรดของ Pepperstone

แพลตฟอร์มเทรดหลักที่รองรับ
- MetaTrader 4 (MT4)
- แพลตฟอร์มยอดนิยมตลอดกาล ใช้งานง่าย
- เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือคนที่ใช้ EA (บอทเทรด)
- MetaTrader 5 (MT5)
- ฟีเจอร์ทันสมัยกว่า MT4 เช่น กราฟหลายประเภท และการเทรดหลายตลาดในบัญชีเดียว
- เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น
- cTrader
- อินเทอร์เฟซสวย ใช้งานง่าย
- มีระบบการจัดการคำสั่งและดูตลาดเชิงลึกที่เหนือกว่า MT4/MT5
- เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความแม่นยำระดับสูง
- TradingView
- ใช้งานร่วมกับบัญชี Pepperstone ได้โดยตรง
- วิเคราะห์กราฟด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย
- เหมาะกับสายเทคนิคอลที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง
แอปพลิเคชันเฉพาะของโบรกเกอร์: Pepperstone Trading App
ข้อมูลทั่วไป
- เป็นแอปเทรดที่ Pepperstone พัฒนาขึ้นเอง
- มีให้ดาวน์โหลดบน iOS และ Android
- จากการทดสอบ ยังไม่พบข้อดีเด่นชัด
- โหลดข้อมูลไม่ขึ้นในบางช่วงเวลา ทั้งที่อินเทอร์เน็ตใช้งานได้ตามปกติ
- เปิดแอปใหม่แล้วก็ยังคงปัญหาเดิม
- ความเร็วของแอปโดยรวมถือว่าช้า
- ไม่เสถียรในการใช้งานจริง
- ไม่แนะนำสำหรับใครทั้งนั้นในตอนนี้
ประเภทบัญชีเทรดของ pepperstone
หัวข้อเปรียบเทียบ | บัญชี Razor | บัญชี Standard |
---|---|---|
ค่าคอมมิชชั่น | มี (3 USD/lot/side) | ไม่มี |
ค่า Spread | ต่ำมาก (เริ่มต้น 0 pip) | สูงกว่า Razor |
ต้นทุนเฉลี่ย (15 สินค้า) | 10.2 USD/lot | 11.55 USD/lot |
สามารถใช้ TradingView ได้ | ได้ | ไม่ได้ |
ตราสารที่เทรดได้ | เหมือนกัน | เหมือนกัน |
Leverage สูงสุด (รายย่อย) | 4:20 | 4:20 |
Leverage สูงสุด (Pro) | 9:20 | 9:20 |
Stop Out (รายย่อย) | 50% | 50% |
Stop Out (Pro) | 20% | 20% |
การเปลี่ยน Leverage ด้วยตนเอง | ได้ | ได้ |
ข้อจำกัดการฝากถอน | ไม่มีข้อจำกัดเฉพาะ | ไม่มีข้อจำกัดเฉพาะ |
การฝากถอนเงิน ง่าย รวดเร็ว หรือมีปัญหาไหม?

รูปภาพช่องเกี่ยวกับข้อมูลและช่องทางการฝากถอน
ช่องทางฝากถอนทั้งหมดที่รองรับ
ช่องทางการฝากเงิน
- ฝากเงินผ่านธนาคารไทย
- การจ่ายด้วย QR, LocalBank transfer/QR
- ฝากเงินผ่านคริปโต
- USDT, BTC, ETH, SOL, USDC (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
- ฝากเงินช่องทางอื่นๆ
- บัตรเครดิต/เดบิต, โอนเงินผ่านธนาคาร, Paypal, Skrill, Neteller
ช่องทางการถอนเงิน
- ถอนเงินผ่านธนาคารไทย
- ประเทศไทย ธนาคารออนไลน์
- ถอนเงินผ่านคริปโต
- ไม่มีช่องทางถอนคริปโต
- ถอนเงินช่องทางอื่นๆ
- โอนเงินระหว่างประเทศ
รีวิวการฝากถอนผ่านธนาคารไทย
การฝากเงินผ่านธนาคารไทย (QR Code)
- ไม่มีค่าธรรมเนียม
- ฝากขั้นต่ำต่อครั้ง: 20 USD
- ฝากสูงสุดต่อครั้ง: 50,000 USD
- ความเร็วในการฝาก: ทันที
- เรทฝากที่ทดสอบ (3596.22 บาท ได้ 100 USD) เรทประมาณ 35.96 บาท/USD
- ช่องทางแนะนำ: การจ่ายด้วย QR (แนะนำที่สุด)
การถอนจริงผ่านธนาคารออนไลน์
- ค่าธรรมเนียม: 0
- ถอนขั้นต่ำต่อครั้ง: 20 USD
- ถอนสูงสุดต่อครั้ง: 15,000 USD
- ความเร็วในการถอน: ประมาณ 1 วัน 5 ชั่วโมง 53 นาที
- เงินที่ได้รับจริง: 3594.28 บาท (จากยอดฝาก 3596.22)
- ผลต่างเรทฝาก-ถอน: -1.94 บาท (-0.05%)
หมายเหตุ ถอนครั้งแรกจะใช้เวลานานและต้องส่งหลักฐานเพิ่มเติมทางอีเมล
ช่องทางการติดต่อ pepperstone
ช่องทางการติดต่อสำหรับคนไทย
Pepperstone มีช่องทางการติดต่อที่รองรับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้การสอบถามข้อมูลหรือแจ้งปัญหาทำได้สะดวกขึ้นครับ โดยช่องทางทั้งหมดมีดังนี้:
- Live Chat ผ่านหน้าเว็บไซต์
- Email: thaisupport@pepperstone.com
- โทรศัพท์: 02-150-0576
จากการทดสอบ ถือว่าใช้งานง่าย เพียงกรอกชื่อและอีเมล แล้วเลือกหัวข้อที่ต้องการติดต่อ ก็สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ
รีวิวการให้บริการและการสนับสนุนลูกค้า
ข้อดี
- มีหลายช่องทางให้ติดต่อ ทั้ง Live Chat, Email และโทรศัพท์
- เจ้าหน้าที่ตอบเร็ว ตอบทันทีในช่องแชท
- มีความตั้งใจ และเป็นมิตรในการให้บริการ
- มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเทรด เช่น เข้าใจศัพท์เทรด และสามารถตอบคำถามเบื้องต้นได้
- เมื่อถามซ้ำ เจ้าหน้าที่ยังสามารถทวนคำตอบให้ชัดเจนขึ้น
ข้อเสีย
- ตอบคำถามเชิงลึก เช่น กฎการเทรด (Arbitrage, Leverage, Stop Out ฯลฯ) ได้ไม่เคลียร์
- หากถามคำถามเยอะ มักขอโทรมาคุยแทนตอบผ่านแชท ซึ่งการโทรคุยก็มักจะ ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด
- เมื่อขอให้สรุปคำตอบผ่านอีเมล เจ้าหน้าที่ ปฏิเสธ บอกว่าไม่มีบริการนี้
- แม้ข้อมูลจะอยู่ในหน้าเว็บ แต่ไม่ส่งลิงก์ให้ลูกค้า ต้องไปหาด้วยตัวเอง
- บางคำตอบให้แบบทั่วไปเกินไป ไม่ได้สรุปเป็นขั้นตอนเหมือนโบรกเกอร์เจ้าอื่น
สรุปข้อดี ข้อเสีย โดยผู้เชี่ยวชาญของ Thaiforexbroker
✅ ข้อดีของ Pepperstone
- ความน่าเชื่อถือสูงมาก มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก เช่น FCA, ASIC และ BaFin
- เป็นสมาชิกของ The Financial Commission เพิ่มความมั่นใจในเรื่องการร้องเรียนและการแก้ไขปัญหา
- ผู้บริหารมีตัวตนชัดเจน ออกสื่อบ่อย ไม่ใช่โบรกเงียบๆ ที่หาตัวจับยาก
- คะแนนรีวิวบนเว็บใหญ่ๆ ดีมาก ไม่ว่าจะเป็น Trustpilot หรือ ForexPeaceArmy
- ค่า Spread + Commission ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด ถือเป็นจุดแข็งที่หลายคนเลือกใช้
- เทรดทองได้ดีมาก เพราะค่าใช้จ่ายต่ำกว่าโบรกเกอร์ทั่วไปอีกด้วย
- บางสินค้ามีค่า Swap เป็นบวก หมายถึงถือข้ามคืนแล้วยังได้กำไรเพิ่ม
- มี VPS ให้ใช้ฟรี แค่ทำตามเงื่อนไขก็ใช้ได้เลย
- ใช้งานร่วมกับ TradingView ได้ เครื่องมือวิเคราะห์กราฟยอดนิยม
- เปลี่ยน Leverage ได้เอง สะดวกสำหรับคนที่อยากจัดการความเสี่ยงเอง
- เรทฝากถอนดีมาก อัตราแลกเปลี่ยนไม่โหดเท่าโบรกอื่นๆ
❌ ข้อเสียของ Pepperstone
- ยืนยันตัวตนช้า จากที่ทดสอบใช้เวลาประมาณ 6 วัน กว่าจะผ่านนะครับ
- หน้าเว็บใช้งานยากเล็กน้อย ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้งานใหม่เท่าไร
- ปัญหากราฟผิดปกติ พบในบางรีวิวบนเว็บ ForexPeaceArmy
- ไม่มี Free-Swap ไม่เหมาะกับคนเทรดตามหลักศาสนาอิสลาม
- ไม่เหมาะกับคริปโตเทรดเดอร์ มีให้เลือกน้อยและต้นทุนค่อนข้างสูง
- ระบบ Copy Trade ที่ใช้งานยาก ไม่เป็นมิตรกับมือใหม่เท่าไร
- แอปเทรดของ Pepperstone เองยังไม่ดี มีรีวิวว่ายังไม่น่าใช้
- บริการซัพพอร์ตยังไม่โอเคนัก ถ้าถามเรื่องยากๆ จะขอโทรมาคุย แต่ก็ไม่ได้คำตอบชัดเจน
- ประเภทบัญชีให้เลือกน้อย มีแค่ Razor กับ Standard ซึ่งไม่ต่างกันมากนัก
- ถอนคริปโตไม่ได้ มีแต่ฝากผ่านคริปโตเท่านั้น
- ถอนเงินค่อนข้างช้า จากที่ทดสอบ ใช้เวลาถึง 1 วัน 5 ชั่วโมง กับอีก 53 นาที
จุดเด่นที่เหนือกว่าโบรกเกอร์อื่น
สิ่งที่ทำให้ Pepperstone น่าสนใจกว่าโบรกเกอร์เจ้าอื่นๆ คือ “ความน่าเชื่อถือ” ที่การันตีด้วยใบอนุญาตระดับท็อป รวมถึงค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Forex หรือทองคำ ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดระยะยาว และเน้นต้นทุนต่ำเป็นหลักนะครับ
บทสรุปควรเลือก Pepperstone หรือไม่?
หากคุณเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์ หรืออยู่ในระดับมืออาชีพ Pepperstone ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ เพราะจุดเด่นของที่นี่คือความน่าเชื่อถือที่สูงมาก มีใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับโลกอย่าง FCA, ASIC และ BaFin อีกทั้งยังมีต้นทุนการเทรดที่ต่ำ ทั้ง Spread และ Commission
เมื่อเทียบกับโบรกที่มีความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน ทำให้เหมาะกับสายเทรดรายวัน หรือใครที่เน้นต้นทุนเป็นหลัก ถ้าคุณต้องการโบรกที่โปร่งใส เสถียร และต้นทุนไม่บานปลาย Pepperstone คืออีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
- Forex Factory. (n.d.). Is Pepperstone a good broker? Retrieved April 12, 2025, from https://www.forexfactory.com/thread/842406-is-pepperstone-a-good-broker
- Investopedia. (n.d.). Pepperstone Review. Retrieved April 12, 2025, from https://www.investopedia.com/pepperstone-review-4587915
- Forex Peace Army. (n.d.). Pepperstone reviews: Is it a legit or scam forex broker? Retrieved April 12, 2025, from https://www.forexpeacearmy.com/forex-reviews/7523/pepperstone-reviewforexpeacearmy.com
- Trustpilot. (n.d.). Pepperstone Reviews. Retrieved April 12, 2025, from https://www.trustpilot.com/review/pepperstone.com