โดยทั่วไปการเทรด Forex เรามักจะจำกัดความเสี่ยงด้วยการใช้ Stop Loss หรือการ MM (Money Management) แต่จะดีกว่าไหม?…ถ้าการจำกัดความเสี่ยงของเรามันคุ้มค่ามากขึ้น ไม่ต้องทนเห็นพอร์ตติดลบและเครื่องมือที่จะช่วยให้เป็นอย่างนั้นได้ก็คือ “Trailing Stop Loss” นั่นเอง
Highlight บทคัดย่อ
- Trailing Stop Loss (TSL) เป็นคำสั่งพิเศษที่เคลื่อนที่อัตโนมัติตามราคาเมื่อราคาเป็นบวก เป้าหมายก็เพื่อล็อกกำไรที่เกิดขึ้นและจำกัดความเสี่ยงไปในตัว
- ความแตกต่างระหว่าง Stop Loss แบบปกติและ Trailing Stop Loss มีหลายประเด็นเช่น…
- ความยืดหยุ่น (TSL มากกว่า)
- การปรับระดับเพื่อล็อคกำไร (TSL ดีกว่า)
- การรองรับบนแพลตฟอร์ม (TSL น้อยกว่า)
- ข้อดีของ TSL คือช่วยล็อกกำไรโดยอัตโนมัติและปล่อยให้กราฟวิ่งเพื่อเก็บกำไรจากเทรนด์ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเฝ้าจอ
- ข้อเสียคือหาระยะห่างที่เหมาะสมค่อนข้างยากและไม่ได้รองรับในทุกแพลตฟอร์ม (โดยเฉพาะ Web Trader)
Stop Loss แบบปกติ ทำงานยังไง?
- คำสั่ง Stop Loss แบบปกติ ก็คือคำสั่งปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อราคาตลาดเคลื่อนมาถึงจุดที่กำหนดไว้ แต่เป้าหมายก็เพื่อจำกัดการขาดทุนไว้แต่เพียงเท่านี้
- ตัวอย่างเช่น หากคุณ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.1000 แล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 1.0950 หมายความว่าเมื่อราคาลดลงถึง 1.0950 ระบบจะปิดออเดอร์ทันทีโดยอัตโนมัติ = ลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากกว่านี้
- ข้อดีของการใช้ Stop Loss แบบปกติคือ…
- คำนวนความเสี่ยงได้ชัดเจนหากราคาวิ่งผิดทาง จะขาดทุนเท่าไหร่?
- ไม่ต้องนั่งเฝ้ากราฟตลอด เพราะมี SL คอยจำกัดความเสี่ยงให้
- ตั้งค่าได้ง่าย เข้าใจไม่ยากและในทุกแพลตฟอร์มเทรดต้องมีคำสั่ง SL ให้
- ข้อเสียของ Stop Loss แบบปกติ
- จุดที่เราตั้ง SL จะอยู่กับที่ = การเทรดยังมีโอกาสที่จะขาดทุนเสมอ
- เสี่ยงโดน Stop Hunt จากรายใหญ่ หากเราตั้ง SL ในจุดที่เป็นระดับจิตวิทยา
- ถ้าอยากให้การเทรดได้กำไรชัวร์ๆ เราต้องเลื่อน SL ไปกั้นหน้าทุนด้วยตัวเอง กรณีราคาวิ่งไปตามทิศทางที่คาดไว้

Trailing Stop Loss คืออะไร?
เทรดเดอร์มักใช้เทคนิค “ตั้ง SL กั้นหน้าทุน” โดยการเลื่อน Stop Loss มาที่จุดเข้าเทรดเมื่อราคาวิ่งไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งเป็นการรับประกันว่าการเทรดครั้งนี้จะไม่ขาดทุนและเป็นแนวคิดเริ่มต้นของ Trailing Stop Loss ด้วยครับ
- Trailing Stop Loss คือคำสั่ง Stop Loss แบบพิเศษที่ขยับตามราคาโดยอัตโนมัติเมื่อราคาวิ่งไปในทิศทางที่ได้กำไร แต่มันจะหยุดเมื่อราคาวิ่งสวนทางหรือกำลังขาดทุนเพื่อล็อกกำไรไว้นั่นเอง
- จุดประสงค์หลักของมันก็อย่างที่บอกไป คือเพื่อล็อกกำไรบางส่วนไว้ โดยยังเปิดโอกาสให้ราคาวิ่งต่อได้โดยไม่ต้องปิดออเดอร์เร็วเกินไป
- ตัวอย่างเช่น คุณ Buy EUR/USD ที่ 1.1000 ตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 50 pips
- ถ้าราคาขึ้นไปที่ 1.1050 = จุด Stop Loss จะขยับตามขึ้นมาอยู่ที่ 1.1000
- ถ้าราคาขึ้นไปถึง 1.1080 = Stop Loss จะขยับมาเป็น 1.1030
- แต่ถ้าราคากลับลงมาแล้วแตะ 1.1030 ระบบจะปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติและได้กำไร 30 pips
- Trailing Stop Loss จะวิ่งไปตามทิศทางที่เป็นกำไรต่อคำสั่งเทรดเท่านั้น เช่น ถ้าเรา Sell แล้วกราฟวิ่งลง TSL ก็จะวิ่งตาม ถ้าราคาขึ้นมันก็หยุด ถ้าคำสั่ง Buy ก็สลับการทำงานแค่นั้นเอง

การตั้งค่า Trailing Stop Loss บน MT4/5
เนื่องจากคำสั่ง Trailing Stop มันมีอยู่ในโปรแกรมเทรด MT4/MT5 อยู่แล้ว แต่จากที่ทดสอบเหมือนจะรองรับแค่บนโปรแกรมที่ต้องดาวน์โหลด+ติดตั้งเท่านั้น เว็บเทรดบนบราวเซอร์ไม่มีรองรับ ดังนั้นการตั้งค่าจะขออิงจากโปรแกรม MT5
1. เปิดโปรแกรม MT5 ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์ ถ้ามีคำสั่งเทรดอยู่ให้เลือกออเดอร์ที่เราต้องการตั้ง TSL และคลิกขวาที่ออเดอร์นั้น

2. เมื่อคลิกขวาแล้วจะเห็นคำสั่ง “Trailing Stop” ให้เลือกคำสั่งนั้น

3. เมื่อเข้าไปในเมนู “Trailing Stop” จะพบว่ามีระยะห่างที่ทางโปรแกรมตั้งไว้หรือเราจะเซ็ตระยะห่างด้วยตัวเองก็กดที่ “กำหนดเอง” เป็นอันเสร็จสิ้น

เปรียบเทียบ Stop Loss vs. Trailing Stop
เราจะเปรียบเทียบการใช้ Stop Loss แบบปกติและแบบ Trailing Stop Loss ในแง่มุมต่างๆ เช่น วัตถุประสงค์, ความยืดหยุ่น, ความเหมาะสม เป็นต้น
ประเด็นเปรียบเทียบ | Stop Loss (SL) | Trailing Stop |
วัตถุประสงค์ | จำกัดการขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ | ล็อคกำไรที่เกิดขึ้นแล้วและจำกัดการขาดทุนไปในตัว |
การปรับตำแหน่ง | ต้องปรับด้วยตัวเอง | เคลื่อนที่อัตโนมัติตามทิศทางทำกำไร |
ความยืดหยุ่น | ยืดหยุ่นน้อยกว่า ต้องคอยตรวจสอบและปรับด้วยตนเอง | ยืดหยุ่นสูง ปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของราคาตลาดโดยอัตโนมัติ |
เหมาะกับใคร? | เทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ RRR เป็นแนวทางหลัก | เทรดเดอร์แบบ trend following ต้องการเก็บกำไรตามแนวโน้มนานขึ้น |
ความเสี่ยงถูก “Stop Out” | ยากกว่าถ้าตั้งในระดับที่ถูกต้อง | ง่ายกว่าเพราะระยะที่ตั้งค่อนข้างใกล้กับจุดเข้า แต่ถ้าวิ่งถูก = กำไรชัวร์ |
การรองรับ (MT4/MT5) | รองรับบนฟีเจอร์คำสั่งเทรด | รองรับในโปรแกรมติดตั้งเท่านั้น (Web Trade, App ไม่รองรับ) |
คำสั่ง SL แบบปกติและแบบ TSL ต่างก็เป็นคำสั่งสำหรับการหยุดขาดทุนเหมือนกันแต่มีเป้าหมายและการใช้งานรวมถึงความยืดหยุ่นที่ต่างกันมาก จึงเหมาะกับเทรดเดอร์คนละแบบ
ข้อดี/ข้อควรระวังในการใช้ Trailing Stop Loss
มาดูกันว่า Trailing Stop Loss นั้นมีจุดเด่นที่เป็นข้อดียังไง? และยังมีจุดไหนบ้างที่เทรดเดอร์ต้องตระหนักเมื่อใช้งานจริง
ข้อดี
- ช่วยล็อกกำไรโดยอัตโนมัติ: เมื่อราคาวิ่งเข้าทาง จุด Stop Loss จะเลื่อนตามขึ้นไป แม้ราคาจะกลับตัวก็ยังปิดออเดอร์พร้อมกำไร
- ปล่อยให้กราฟวิ่งอย่างเต็มที่: โดยเฉพาะช่วงที่ทำเทรนด์ชัดเจน แทบจะปล่อยให้รันจนเทรนด์หมด เก็บกำไรกินแบบเต็มๆ
- ลดความเครียดได้เยอะ: การที่รู้ว่ากำไรที่ได้จะไม่หายไปหมด ช่วยลดความเครียดในการตัดสินใจได้มากอีกทั้งยังไม่ต้องมานั่งจ้องกราฟขึ้น-ลง มีผลต่อจิตใจ
- ไม่ต้องเฝ้ากราฟ: เพราะระบบจะจัดการปรับจุด Stop Loss ให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลามาปรับเอง
ข้อควรระวัง
- ตั้งระยะห่างที่เหมาะสมยาก: ถ้าตั้งระยะที่ใกล้เกินไป จะกลายเป็นมีความเสี่ยงได้ง่ายถ้า TSL ยังไม่พ้นจุดเข้าเทรด ถ้าตั้งห่างเกินไปกลายเป็นว่าต้องใช้เวลานานกว่า TSL จะผ่านจุดเข้าเทรด
- ไม่เหมาะกับตลาด Sideway: ตลาดที่แกว่งตัวไปมาแต่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน Trailing Stop อาจโดนลากตัดบ่อย
- ไม่ได้รองรับทุกแพลตฟอร์ม: ที่ชัดเจนเลยก็คือ Web Trader ไม่มีคำสั่ง Trailing Stop Loss ให้ใช้งานแน่นอน
- ปิดโปรแกรมไม่ได้!: Trailing Stop Loss ที่ตั้งจาก MT5 จำเป็นต้องเปิดโปรแกรมตลอดเวลาซึ่งบางคนอาจไม่สะดวก แนะนำให้ตั้งไว้กับ EA และรัน EA นั้นบน VPS จะปลอดภัยกว่า ปิดโปรแกรมได้ครับ!

วิดีโอเกี่ยวกับ Trailing Stop Loss
วิดีโอนี้เป็นคู่มือแนะนำวิธีการใช้ฟีเจอร์ Trailing Stop บนแพลตฟอร์ม TradingView เพราะในบทความอาจจะยังไม่ได้กล่าวถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือ MT4/5 มากนัก และวิดีโอนี้จะทำให้ผู้อ่านทุกคนเห็นภาพในการตั้งค่าบน Trading View ด้วย
- Focus นาทีที่ 00:07 อธิบายทำความรู้จัก Trailing Stop Loss
- Focus นาทีที่ 00:34 การเปิดใช้งาน Trailing Stop
- Focus นาทีที่ 01:14 การตั้งค่าพารามิเตอร์
- Focus นาทีที่ 02:44 การตรวจสอบราคา Bid และ Offer เพื่อตั้งระยะห่างของ TSL
- Focus นาทีที่ 03:34 ตัวอย่างการใช้งานจริง
สรุป
Trailing Stop Loss เป็นเครื่องมือลับที่เทรดเดอร์หลายคนยังไม่รู้ว่าแพลตฟอร์มที่ตัวเองใช้เทรดอยู่นั้นจะมีรองรับด้วย ตามคุณสมบัติข้อดีและข้อที่ควรระวังของมัน เชื่อเถอะว่าถ้าใช้งาน TSL อย่างจริงๆ จังๆ จะช่วยให้การเทรดของเราง่ายขึ้นเยอะ ไม่อยากให้เทรดเดอร์หลายๆ คนพลาดคำสั่งนี้ไป
หวังว่าบทความนี้จะเพิ่มความตระหนักรู้ในศึกษาเครื่องมือ/แพลตฟอร์มการเทรดของเทรดเดอร์เพราะเครื่องมือเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อการเทรดของเราแบบไม่คาดคิด!
ทีมงาน : thaiforexbroker.com