Sell ที่ก้นเหว – Buy ที่ยอดดอย เชิญทางนี้ ลองมาเปลี่ยนวิธี กัน
นักเทรดที่เทรด Forex มาสักระยะหนึ่ง จะเจอสิ่งที่เป็นสัจจะธรรมของการเทรด นั่นก็คือ สามารถ Sell ได้ตรงจุดที่เป็นก้นเหวพอดี หรือไม่ก็ สามารถ Buy ได้ตรงจุดที่เป็นยอดดอยพอดี แม่นยิ่งกว่าจับวาง พยายามหา Sig จากเซียนมากี่คน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความสามารถนี้ได้ จนถึง ณ.วันนี้ ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ใช่หรือไม่ครับ วันนี้เรามีทางออกให้กับคุณ
ก่อนอื่นมารู้สาเหตุหลักๆ ของการที่ชอบ Sellที่ก้นเหว – Buyที่ยอดดอย
1.ไม่มีระบบเทรด ของตัวเอง
เวลาเทรดแต่ละครั้ง ถ้าคนที่ไม่มีระบบเทรดของตัวเอง เราก็ต้องไปหา Sig จากเซียน ว่าวันนี้จะ Buy หรือ Sell ดี เวลาเซียนบอก Sig มาแล้ว ว่า Buy เราก็ไม่รู้ว่าจะ Buy ที่ราคาเท่าไหร่ หรือถ้าเซียนบอกราคามา เราก็รอให้ถึงราคานั้นไม่ได้ สุดท้ายก็ Sellที่ก้นเหว – Buyที่ยอดดอย
2.ไม่ได้ยึดตามระบบเทรดของตัวเอง
สำหรับคนที่มีระบบเทรดของตัวเองอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ยึดมั่นตามระบบตัวเองมากนัก ก็จะลังเลกับ Sig จากระบบ ทำให้การเข้าออเดอร์ เร็วไป หรือ ช้าไป ทำให้เสียโอกาสในการได้ราคาดีๆ อาจจะไม่ถึงขั้น Sellที่ก้นเหว – Buyที่ยอดดอย แต่ก็พลาดโอกาสทำกำไรสูงสุด
3.ไม่ได้ตั้ง SL เพื่อจำกัดความเสี่ยง
บางคนมีเครื่องมือ หรือระบบเทรด ที่ดีมากอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ให้ความสำคัญในการตั้ง SL (ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง Risk:Reward) เพราะถึงแม้ว่าระบบเทรดจะดีเท่าไหร่ก็ตาม ก็ไม่มีทางถูกต้อง 100% ต้องเผื่อความผิดพลาดไว้บาง และระบบเทรดส่วนใหญ่ เวลาผิดพลาด จะผิดพลาดในช่วงกราฟเปลี่ยน Trend ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการซื้อขาย เนื่องจากจุดนี้แหล่ะ คือจุดที่เปลี่ยนจาก Buyเป็น Sell และ Sellเป็นBuy ถ้าเราไม่ได้ตั้ง SL ไว้ เราก็จะพบกับสถานะการ Sellที่ก้นเหว – Buyที่ยอดดอย ได้
เมื่อเรารู้สาเหตุของปัญหาแล้ว เรามาดูวิธีแก้กันครับ ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า นี่เป็นเพียงแค่ระบบเทรดหนึ่ง สำหรับคนที่ยังหาระบบเทรดดีๆไม่ได้ อาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% แต่ก็สามารถทำให้คุณ หาจุดเข้าในราคาดีๆได้ และที่สำคัญ อย่าลืม ตั้ง SL ทุกครั้ง เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่คุณรับได้ เพราะไม่มีระบบใด 100% อย่างที่ผมบอกครับ
ระบบนี้ ต้องใช้ Indicator ดังนี้
1. Stochastic Oscillator 5,3,3
เป็น Indy ที่บอกสัญญาณของกราฟได้เร็วระดับหนึ่ง เป็นตัวบอก Overbought และ OverSold ได้เช่นเดียวกับ RSI โดยจุดที่บอก
Overboughtคือช่วง 80-100
Oversold คือช่วง 0-20
โดยวิธีดูคือ จะมีเส้นอยู่2เส้น เรียกเส้น %K และเส้น %D เมื่อทั้ง2เส้นนี้ เริ่มตัดกันในจุด Overbought หรือ Oversold แสดงว่าราคากำลังจะกลับตัว
2. NonLagAMA
เป็น Indy ที่Download เพิ่มเข้ามา(Download ได้ตามลิงค์ข้างล่าง) เป็นตัวบอกสัญญาณการ Buy-Sell โดยเส้นจะมี3สี คือ
แดง-แนวโน้มเป็นขาลงหรือ Sell
เหลือง-แนวโน้มเป็น ไม่แน่นอน หรือ Sideway
น้ำเงิน-แนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือ Buy
3. ASCTrend_Sound
เป็นตัวยืนยันTrend (Download ได้ตามลิงค์ข้างล่าง) แต่สัญญาณอาจจะเกิดช้าหน่อย ก็อย่างที่บอก เป็นแค่ตัวยืนยันTrend จึงมาทีหลัง วิธีการดู คือ
เมื่อกราฟขาลง แล้วมีสัญญาณลูกศรสีชมพูกดลง แสดงว่าขาลงแน่นอน
เมื่อกราฟวิ่งขึ้น แล้วมีสัญญาณลูกศรสีฟ้าดันขึ้น แสดงว่าขาขึ้นแน่นอน
4. EMA 200 , EMA 87
เป็นสัญญาณภาพกว้างๆของ Trend วิธีการดูคือ
ใช้เส้น Ema200 เป็นหลัก แล้วดูว่าเส้น Ema87 วิ่งลู่เข้าเพื่อมาตัดกัน หรือลู่ออกบานออกเรื่อยๆ ถ้าเส้นลู่เข้ามาเพื่อตัดกัน แสดงว่ากำลังเปลี่ยนเทรนด์ แต่ถ้าบานออกเรื่อยๆ จะแสดงถึงความเข็มแข็งของเทรนด์เดิม
5. ใช้สำหรับ TF H1 และ TF H4
วิธีการเทรดคือ ดูใน TF H4 เป็นตัวบอก Trend ทั้งสัปดาห์ (จันทร์-ศุกร์) ว่าสัปดาห์นี้ เราจะเทรด Sell เป็นหลัก หรือ Buy เป็นหลัก
เข้าเทรดใน TF H1 เป็นตัวบอก จุดเข้า (24 ชม.) โดยเข้าเทรดตามสัญญาณรายสัปดาห์หรือ TF H4
โดยดูว่าเป็นแนวโน้มขาลงจาก
NonLagAMA เป็นสีแดงวิ่งลง -> แสดงแน้วโน้มขาลงStochastic Oscillator เข้าสู่โซนOverbought หรือซื้อเยอะเกินไป ให้เตรียม Sell ASCTrend_Sound เป็นลูกศรสีชมพู ยืนยันTrend ขาลง และใช้ EMA200,EMA87 เป็นแนวโน้มประกอบการตัดสินใจ
จะเข้า Sell เมื่อ เส้น Stochastic ตัดกัน หรือ อยู่ในโซนOverbought
โดยดูว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นจาก
NonLagAMA เป็นสีน้ำเงินวิ่งขึ้น -> แสดงแน้วโน้มขาขึ้น Stochastic Oscillator เข้าสู่โซน Oversold หรือขายเยอะเกินไป ให้เตรียม Buy ASCTrend_Sound เป็นลูกศรสีฟ้า ยืนยันTrend ขาขึ้น ใช้ EMA200,EMA87 เป็นแนวโน้มประกอบการตัดสินใจ
จะเข้า Buy เมื่อ เส้น Stochastic ตัดกัน หรือ อยู่ในโซน Oversold
ให้สัญญาณทุกตัวเข้าเงื่อนไขเดียวกันอย่าลืมกำหนด SL ด้วยครับ โดยการใส่ SL ให้ดูจากแนวนับแนวต้านหรือ Risk:Reward เพราะทุกระบบมักจะผิดพลาดช่วงTrendกลับตัว พบกันใหม่ ตอนต่อไปครับ
ทีมงาน : thaiforexbroker.com