เรียนรู้ชาร์ตเพื่อเทรดกับขาใหญ่ ตอน 2
ช่วงที่สอง Manipulation
ต้องไม่ลืมว่าทุกๆ transaction ที่เกิดขึ้นจะมีฝ่ายตรงข้ามเสมอ ดังนั้นถ้าขาใหญ่ต้องการจะ เปิด position พวกเขาทำด้วยด้วยการสะสมเพราะจำนวนออเดอร์ที่เปิดมีวอลลูมเยอะ ช่วงสะสมนี้ก็จะเป็นช่วง consolidation
ส่วนที่เป็น market manipulation หรือปั่นตลาดหรืออาจเรียกเป็น stop hunt, หรือ false breakout หรือ false push หรือ trapping move หรือ searching for liquidity ก็จะเกิดขึ้นตอนจบของช่วง accumulation ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่จะบอกว่าขาใหญ่จะทำอะไร สะสม positions ด้านไหน จะเป็น long positions หรือ short positions
เมื่อ stop hunting หรือ false breakout ไปทาง high ของพื้นที่ที่เป็น accumulation น่าจะหมายความว่า ขาใหญ่ได้เปิด short positions ตั้งแต่ช่วงเกิด accumulation จนเกิด stop hunt และเทรนที่ไปทางที่ขาใหญ่เปิดสะสม positions น่าจะเริ่ม
หรือเมื่อ stop hunting หรือ false breakout ไปทาง low ของพื้นที่ที่เป็น accumulation น่าจะหมายความว่า ขาใหญ่ได้เปิด long positions ตั้งแต่ช่วงเกิด accumulation จนเกิด stop hunt และเทรนที่ไปทางที่ขาใหญ่เปิดสะสม positions น่าจะเริ่ม
เพราะจำนวน positions ที่ขาใหญ่เปิดมีวอลลูมเยอะ จึงจำเป็นที่พวกเขาจะทำแบบนี้หรือเรียกได้ว่าสร้างตลาดเอง และดึงดูดให้เกิด buying pressure เมื่อพวกเขาต้องการจะเปิด sell และดึงดูดให้เกิด selling pressure เมื่อพวกเขาต้องการจะเปิด buy เพราะกลยุทธ์การเทรดรายย่อยส่วนมากก็จะดูข้อมูลที่เกิดขึ้นและโต้ตอบเป็นหลัก (reactive trading strategies) เมื่อราคาขึ้นแบบที่เกิด stop hunting เช่นราคาขึ้น กลยุทธ์เทรดพวกนี้หรืออีเอก็จะให้สัญญาณเทรดไปทาง Buy หรือราคาลงก็จะให้สัญญาณเทรดไปทาง Sell เพราะกลยุทธ์การเทรดพวกนี้จะโต้ตอบข้อมูลที่ขาใหญ่กำลังทำ ดังนั้นเมื่อตลาดขึ้นก็จะดึงดูดให้เกิด buying pressure และเมื่อราคาลงก็จะดึงดูดให้เกิด selling pressure ดังนั้นวีธีการ stop hunting หรือ false breakout จึงเป็นวิธีการที่ขาใหญ่ จะดึงรายย่อยให้เปิด buy ก่อนที่ราคาจะลงและให้เปิด sell ก่อนที่ราคาจะขึ้น
เทรดกับขาใหญ่
เพราะกลยุทธ์การเทรดแบบที่อิงข้อมูลที่เกิดจากการโต้ตอบที่อธิบายด้านบนมักจะได้ยินว่า ตลาดวิ่งสวนทันทีเมื่อเปิดออเดอร์เข้าเทรด แม้ถ้าเข้าใจตั้งแต่เรื่อง accumulation ผ่านช่วง consolidation และทำให้เกิด stop hunting เกิดขึ้น ท่านจะพบว่าท่านได้ข้อมูลสำคัญที่ตลาดกำลังบอกว่าขาใหญ่เทรดอย่างไร กำไรเทรดอะไรอยู่ ช่วงเวลาปั่นราคาหรือ market manipulation ที่ไม่นานนี้ที่ตอนที่เกิด stop hunting นี้ได้บอกว่าขาใหญ่น่าจะสะสม positions พวกเขาทางไหนอยู่ และบอกว่าทิศทางที่พวกเขาจะดันราคาไปน่าจะไปทางไหน
ช่วงสุดท้าย Distribution หรือ Market Trend
หลังจากที่ขาใหญ่ได้สะสม positions ผ่านช่วงเวลา consolidation (ช่วง Accumulation) แล้วขาใหญ่ก็สร้าง การหลอกหรือ stop hunting หรือ false push หรือ false breakout เพื่อพวกเขาจะได้เข้า positions ที่พวกเขาต้องการได้หมดที่พวกเขาได้สะสมมาตั้งแต่ช่วงแรก (ช่วง Manipulation) ดังนั้นเมื่อเราสามารถเข้าใจทิศทางที่พวกขาใหญ่ปั่นตลาด เราก็จะสามารถเข้าใจว่าทิศทางไหนที่พวกเขาต้องการดันราคาไป นี่เป็นส่วนสุดท้ายที่เกิดต่อเนื่องหลังจากสองช่วงแรก ก็จะเรียกเป็น distribution เห็นเป็นช่วงตลาดทำเทรนต่อไป
ดังนั้นพอมาถึงตรงนี้จะเห็นว่าเรื่องเทรนของตลาดหรือ market trend เกิดขึ้นหลังจากที่ขาใหญ่ได้สะสม Positions ผ่านช่วง consolidation หรือถ้ามองเรื่อง price action ก็จะเห็นว่าราคาวิ่งอยู่ในกรอบไม่ไปไหน วิ่งขึ้นลงแถว high/low จนกว่าจะจบลงด้วย stop hunting หรือ false breakout หรือ false push แล้วแต่จะเรียก
จากที่อธิบายมาจะเห็นว่า 2 ช่วงแรกสำคัญสุด ว่าขาใหญ่จะเทรดไปทางไหน เพราะขาใหญ่ไม่ได้เข้าหรือออกจากการเทรดได้บ่อยแบบรายย่อย เพราะขาใหญ่เทรดด้วยจำนวนเยอะไม่ว่าการเข้าหรือการออกจากตลาด ออเดอร์ก็ทำงานแบบเดียวกันคือต้องการออเดอร์ตรงข้ามเสมอ เช่นถ้าใหญ่จะออกด้วยการปิดทำกำไร คำสั่งปิดจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีออเดอร์ตรงข้ามมากพอ เช่นเมื่อเปิด long positions ได้กำไร ถ้าจะปิดเท่ากับเปิดคำสั่ง sell market order หลักการออเดอร์ทำงานจะเกิดเป็น trading transaction ได้ก็ต่อเมื่อมีออเดอร์จากฝั่งตรงข้ามราคานั้นๆ พร้อมด้วยจำนวนวอลลูมที่พอจะปิด
ทั้ง 3 ช่วงที่ยกมาประกอบกันตั้งแต่ช่วงแรกที่ราคาเกิด consolidation หรือวิ่งอยู่ในกรอบ เป็นช่วงที่ขาใหญ่สามารถทยอยเปิด positions สะสมมาเรื่อยๆ จะเป็นช่วงหลังจากที่ราคาวิ่งมาได้สักระยะที่เป็นผลจากทั้ง 3 ช่วงก่อนนี้ที่เกิดขึ้นมาก่อน และจะเห็นว่าตลาดส่วนมากก็อยู่ในช่วงนี้เป็นหลัก เพราะหลักการเทรดของขาใหญ่จะเปิดหรือจะขยับราคาก็ต่อเมื่อมีออเดอร์ฝั่งตรงข้ามมากพอและเมื่อราคาวิ่งไปทางที่พวกเขาเทรด ต้องมีฝ่ายตรงข้ามที่เปิดกับพวกเขาเป็นฝ่ายเสีย จะเห็นว่าขบวนการสะสม positions คือการให้รายย่อยเข้าตลาดตามจำนวนวอลลูลที่พวกเขาต้องการ แต่เราจะรู้ว่าพวกเขาถือ positions ทางไหนก็ต่อเมื่อเกิด stop hunting/false breakout ในช่วง Manipulation ที่เมื่อเกิดขึ้นไม่นานก็จะตามด้วยช่วงทำเทรนหรือไปต่อทางที่ขาใหญ่เปิดสะสม positions มาช่วง 2 หรือช่วงปั่นราคาถือว่าเป็นช่วงของช่วง accumulation เพราะเมื่อเกิด stop hunting ไม่นานก็จะตามมาด้วยช่วง 3 ก็กลายเป็นช่วงทำเทรนแล้วราคาก็วิ่งไป โอกาสเทรดตามเทรนหลังจากที่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ เช่นดูเรื่อง impulsive move ประกอบที่บอกว่าขาใหญ่เข้าเทรดตามเทรนก็จะได้เทรดตอนที่ราคาย่อตัวลงมา ตรงที่ราคาเบรคตอนที่ราคาทำ impulsive move ราคาก็วิ่งเป็นวัฏจักรแบบนี้ พอถึงจุดขาใหญ่ก็ออกหมดเริ่มขบวนการ consolidation แล้วตามด้วย 2 ช่วงก็จะเกิดเป็นรอบๆ ไปแบบนี้
ทีมงาน : thaiforexbroker.com