ASIC : Broker รวมโบรกเกอร์ Forex จากประเทศออสเตรเลีย

รวมโบรกเกอร์ forex ประเทสออสเตรเลีย

ASIC : Broker

ASIC  :  Australian Securities & Investments Commission   คือ องค์กรที่คอยจัดการ ดูแล ควบคุม โบรกเกอร์ Forex ในประเทศออสเตรเลีย ให้อยู่ในมาตรฐาน ยับยั้งการทุจริตหลอกลวงจากโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันเป็นองค์กรที่มีการพูดถึงกันมากในวงการการเงินและ Forex เพราะมีโบรกเกอร์ Forex ทั้งใหม่และเก่ายื่นขอจดทะเบียนกับทาง ASIC ค่อนข้างเยอะมาก ชื่อและชั้นของ  ASIC นั้น ถือว่า เชื่อถือได้ครับ มั่นคง ชัวร์ ที่สำคัญ โบรกเกอร์ Forex ที่ต้องการได้รับใบอนุญาต ASIC จะต้องมีเงินคำประกันกับ ASIC อย่างน้อง 1 ล้านดอลล่าเพื่อที่จะดำเนินกิจการโบรกเกอร์ forex ในประเทศออสเตรเลียได้  ส่วนตัว ก็ ใช้บริการ โบรกสังกัด  ASIC  อยู่ ครับ 3 โบรก

เอาละครับมาดูกันว่า โบรกไหนบ้างครับที่สังกัด  ASIC  ที่ แน่ ๆ โบรกสัญชาติออสเตรเลีย นี่เชื่อขนมกินได้เลย ตอนนี้จะพูดถึงเพียง 3  โบรกก่อน คือ โบรกที่ผมใช้เทรดอยู่ 2 โบรก และโบรกที่สมัครแล้ว แต่ยังไม่มีเงินฝากเทรด  ( ช่วงนี้ โดน  USD/JPY  ลาก )  

นี่เลยครับ   Pepperstone , 8EIGHTCAP , IC Markets  ( สมัคร และ เทรด แล้ว กะ Pepperstone  IC Markets ) ส่วน 8EIGHTCAP พึ่งสมัคร  กำลังจะหาเงินมาฝาก เทรด  แต่กลุ่มโบรกสัญชาติออสเตรเลียนี้ จะไม่ค่อยมี  Promotion  หรือ  Bonus  หรือไปจนถึง ไม่มีเลย และไม่สนใจพวกบัญชี Micro  หรือบัญชี  Cent  เอาซะเลย  ถ้า สาย  Run  EA  ทุน น้อย ๆ  100 , 200 , 300 $  เนี่ย ถอยเถอะครับ เลี่ยงไป สังกัด Cysec เลย  หรือ แนว ๆ ชอบ หา โบนัสมาเทรด ก็ จบข่าวครับ ไม่มี แถม ให้  Leverage  สูงสุด 1:500  เอ๊ง …  ขา  Overtrade  ก็อาจจะไม่สะใจ แถมฝากขั้นต่ำก็ ไม่น้อยนะครับ  เหมือน ๆ จะ ระบุ  200 $  ขึ้นไป ในครั้งแรก

ภาพข้างล่างนี่ คือ คุณสมบัติอย่างคร่าว ๆ ของ สามโบรกเกอร์ สัญชาติ ออสเตรเลีย ครับ

ตามนั้น นะครับ  ดีนะครับ ทั้งสามโบรกนี้ สามารถฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้  จริง ๆ  Pepperstone กะ  IC Markets พึ่งจะให้บริการฝาก ถอน ผ่านธนาคารไทย เมื่อปีที่แล้ว นี่เอง  ส่วน  8EIGHTCAP  นั้น มาเปิดสาขาในบ้านเราก็ มีบริการ นี้เลย ครับ ( ยังไม่เคยฝากเลย )

มาดู แต่ละโบรกอย่างค่อนข้างละเอียดกันนะครับ  เริ่มที่  Pepperstone  ก่อน นะครับ

รายละเอียด  Pepperstone 

Pepperstone ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยทีมงานผู้บริหารที่มีประสบการณ์หลายปีในวงการฟอเร็กซ์ บริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงมีสำนักงานย่อยอยู่ที่เมืองดัลลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน Pepperstone ได้รับใบอนุญาต Australian Financial Services License AFSL Asic414530 ซึ่งมี Australian Securities and Investment Commission (ASIC) เป็นผู้ออกใบอนุญาตและกำกับดูแล Pepperstone ได้แยกบัญชีของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท ซึ่งมีการนำเงินของลูกค้าแยกเก็บไว้ในสถาบันการเงินต่าง ๆ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย (National Australia Bank) ซึ่งมีความมั่นคงสูง  มั่นใจได้ครับ เทรด กะ โบรกนี้

เห็นไหมครับ Rate  ขั้นต่ำ  4  ดาว กะ 5 ดาวทั้งนั้น  เสีย นิดเดียว  โปรโมชั่น  เพียง  3  ดาว และนี่ ครับ คือ โปรโมชั่นของเขาละ  ลด 20%  สำหรับ  VPS  มาดูว่า มีดี อย่างไร มีเสียแบบไหน

Pepperstone  ข้อดี

  • ค่า spread ระดับต่ำ (เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ)
  • ค่า spread พวก CFD เช่น ทอง(XAU/USD) ระดับต่ำมาก (เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ) – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเทรดพวก CFD เช่น ทองคำ, เงิน เป็นต้น
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงินและถอนเงินจากโบรกเกอร์ Pepperstone
  • ระบบส่งคำสั่งไว
  • ปลอดภัย – เมื่อท่านได้นำเงินเข้าบัญชีเทรดกับ Pepperstone เงินลงทุนของท่านจะถูกนำไปฝากไว้ในบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งแยกเก็บเอาไว้ที่ National Australia Bank ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศออสเตรเลีย Pepperstone จะไม่สามารถนำเงินของลูกค้ามาใช้เพื่อการดำเนินธุรกิจใดๆได้ เนื่องจากบัญชีเหล่านี้ได้ถูกเก็บไว้เป็นบัญชีทรัสต์สำหรับลูกค้าและแยกออกจากบัญชีของบริษัท
  • กราฟราคาไม่มีการลากทิ้งไส้ยาวๆเกินจากราคาตลาดเยอะ (ไม่โกงกราฟ)
  • มีเจ้าหน้าที่ support เป็นคนไทย (หากมีปัญหา สามารถติดต่อสื่อสารด้วยภาษาไทยได้)
  • มีเจ้าหน้าที่ support เป็นคนไทย สามารถติดต่อผ่านทาง Line และ Facebook
  • มีบริการ Live chat ภาษาไทย (วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 00 – 19.00 น.)
  • มีคืนเงิน rebate ทุกวันสำหรับคนไทยทุกบัญชี เฉพาะเทรด currency เท่านั้น (Rate : เทรด 1 lot ได้คืน $1 โดยไม่จำเป็นต้องเทรดครบ 1 lot)
  • สามารถใช้ EA ได้
  • โปรแกรมเทรด Metatrader 4 (MT4), Metatrader 5 (MT5), Webtrader, cTrader, cTrader WebTrader, cTrader cAlgo, cTrader Mobile, MAM / PAMM, เทรดผ่าน API

Pepperstone  ข้อเสีย

  • การฝาก-ถอนเงิน ตอนนี้รองรับผ่านธนาคารไทยเพียง 1 ธนาคาร คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (Smartway System – SCB Easynet)
  • การถอนเงินใช้เวลาประมาณ 1-3 วันทำการ
  • ไม่มีโบนัสจากการฝากเงินและการเทรด
  • ไม่มี VPS ฟรี
  • เงินฝากขั้นต่ำ $200 AUD หรือเทียบเท่า
  • การฝากเงิน-ถอนเงิน ยังคงมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยในบางช่องทาง

ช่องทางในการฝากเงิน-ถอนเงิน Pepperstone มีทั้งหมด 5 ช่องทาง 

  1. PayPal– หากฝากมาเท่าไหร่จะต้องถอนออกเท่าจำนวนที่ฝากมาให้ครบก่อน (ไม่มีค่าธรรมเนียม) ถึงจะสามารถถอนส่วนต่างออกทางช่องทางอื่นได้
    หรือจะถอนออกทาง PayPal ก็ได้ค่ะ ตอนนี้ฟรีค่าธรรมเนียม 
    – ระยะเวลาในการฝากเข้า เงินจะเข้าทันที กรณีถอนเงิน โดยประมาณ 7 วันทำการ 
    *** บัตรที่ไม่สามารถเชื่อมโยงได้ บัตรธนาคารทหารไทย ธนาคารกสิกร และธนาคารกรุงศรี (Visa) 
  2. Neteller –การฝากเงินเข้าทันที (ไม่มีค่าธรรมเนียม) สมัคร คลิก
    การถอนออกจาก Pepperstone ค่าธรรมเนียมครั้งละ $1/ครั้งระยะเวลา 24-48 ชม. 
  3. Skrill–การฝากเงินเข้าทันที (ไม่มีค่าธรรมเนียม)สมัคร คลิก
    การถอนออกจาก Pepperstone ค่าธรรมเนียมครั้งละ $1/ครั้งระยะเวลา 24-48 ชม. 
  4. Bankwire –การถอน ค่าธรรมเนียมครั้งละ ขั้นต่ำ $20 แนะนำให้ถอนออกจากพอร์ตที่มีสกุลเงินหลักเป็นAUD 
  5. ฝากถอนผ่านLocal Bank transfer ซึ่งเป็นช่องทางการฝากและถอนเงินที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วที่สุดผ่านทาง SCB Easynet ซึ่งฝากเงินเข้าทันที
    ถอนเงินได้ภายใน 2-3 วัน เงินทุนและกำไรถอนได้พร้อมกันไม่มีจำนวนเงินจำกัดทุกสกุลเงิน
    ไม่มีติดเงื่อนไขการฝากถอนเหมือนช่องทางอื่น 

มีบัญชีเทรดทั้งหมด 4 บัญชี ได้แก่

  1. บัญชีแบบ Standard STP
    –  สเปรดแบบ Interbank เริ่มตั้งแต่ 1.0 pips
    –  ประมวลผลแบบ STP และสภาพคล่องจากจากธนาคาร 22 แห่งและ ECN’s
    –  มีการป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ*, ระบบการจัดการความเสี่ยงแบบอัตโนมัติ
  2. บัญชี Razor บัญชีเทรดฟอเร็กซ์แบบ Raw Spread
       –  สเปรด EURUSD โดยเฉลี่ย 0.0 – 0.8 pips
          –  เลเวอเรจที่สามารถเลือกได้ สูงสุด 500:1
          –  จำนวนเงินเริ่มต้นสำหรับเปิดบัญชี $200 AUD หรือเทียบเท่า
          –  ค่าคอมมิชชั่น ECN AU$3.5 ต่อการเทรด 100k
  3. บัญชีอิสลาม
    –  ชนิดของสเปรด Straight Through Processing | ไม่มีสว๊อป
    –  ค่าเฉลี่ยสเปรดของ EURUSD 1.0 – 1.2 pips
    – ยอดเงินขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชี $200USD หรือเทียบเท่า
  4. บัญชี Active Traders
    – มีผู้จัดการส่วนตัว
    – มีบัญชีลูกค้าแยกเป็นส่วนตัวกับธนาคารออสเตรเลีย
    – มีบริการ VPS ให้
    – มีปริมาณการเทรด 200 lots ต่อเดือนขึ้นไป สามารถขอสมัครได้
    – ได้รับ Rebate จากการเทรดสูงสุด 1.4 ดอลลาร์ต่อล็อต

รายละเอียด IC Markets 

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นที่นครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2007 ให้บริการการค้าในตลาด Forex , Futuresและ CFD บริษัทจดทะเบียนในชื่อ International Capital Markets Pty Ltd., Australia ,Regulation: ASIC (license # 335692) ซึ่งปัจจุบันเป็นโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นโบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วตัดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก

เป็นโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องและความมั่นคงสูง สเปรตน้อย การฝากเงินเข้าต่ำสุด 200$ ขึ้นไป มี Signal Trader จากผู้เชี่ยวชาญ โบรกเกอร์ IC Markets มีจุดเด่นอยู่ที่บัญชี True ECN เพราะสเปรต 0 pips และก็มีค่าคอมน้อยมากเมื่อเทียบกับโบรกอื่นๆ ในการออกคำสั่งซื้อขายแต่ล่ะครั้งเร็วและไม่มี re-quotes เป็นโบรกเกอร์ที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ของเว็บไซต์ forexpeacearmy(อิงตามความคิดเห็นของลูกค้าแต่ล่ะราย) และปัจจุบันสามารถฝากถอนเงินผ่านธนาคารประเทศไทยได้แล้ว  ส่วนตัวผม ใช้ บัญชี ECN  ครับ  ยอมเสียค่าคอมนิดแต่เทรดลื่นครับ

เห็นไหมครับ Rate  ขั้นต่ำ  4  ดาว กะ 5 ดาวทั้งนั้น  เสีย นิดเดียว  โปรโมชั่น  เพียง  3  ดาวคือ โปรโมชั่น  ก็  Free VPS  ถ้า เทรดได้ ขั้นต่ำ  15 lots ต่อเดือน 

ข้อดีโบรกเกอร์ IC Markets
  • สเปรตเริ่มต้นที่ -3 pips(บัญชี cTrader)
  • Maximum Leverage 1:500
  • ไม่มี re-quotes
  • มีแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
  • เป็นโบรกเกอร์ที่มีความมั่นคงสูงอยู่ภายใต้การควบคุมของ ASIC
  • คำสั่งซื้อขายรวดเร็ว
  • มีการวิเคราะห์ Fundamental และ Technical ให้ฟรี
  • มี VPS
  • คนไทยสามารถฝากถอนเงินผ่าน Neteller, Skrill, Paypal, Webmoney และระบบ internet bank ธนาคารในประเทศไทย
  • มีช่องทางการฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทย
ข้อเสียโบรกเกอร์ IC Markets
  • ไม่มีบัญชี Micro เป็นธรรมดาของ โบรก สัญชาติ นี้ครับ   สาย  EA  เนี่ย  ไปที่ อื่นเถอะ 
การฝาก-ถอน  IC Markets

วิธีฝากถอนเงินโบรกเกอร์ ICMarkets สำหรับลูกค้าไทยมีด้วยกันอยู่ประมาณ 5 วิธีครับ

  • ฝาก-ถอนเงินผ่านธนาคารไทยโดยมี 5 ธนาคารคือ กรุงเทพ, กสิกร, กรุงศรี, SCB, KTB
    ฝากเงินสูงสุด 500000 บาทขึ้นอยู่กับ limit ของธนาคาร
    ฝากเงินต่ำสุด ฝากขั้นต่ำครั้งแรก USD 200 ครั้งถัดไปต่ำสุดผ่าน Internet Banking อยู่ที่ 300 บาทครับ
  • ฝาก-ถอน ผ่าน Neteller (เลือกจุดประสงค์การโอนเงินเป็น Gambling นะครับ เพราะ Neteller จัดหมวดหมู่การเทรดฟอเร็กซ์ให้เป็น Gambling)
  • ฝาก-ถอนผ่าน Skrill
  • ฝากถอนผ่าน Fund by Wire Transfer/Bank Transfer/TT(ไม่แนะนำเพราะอาจจะโดนธนาคารถามเยอะว่าโอนเงินไปทำอะไร)
  • Paypal (Paypal Balance only for Thai) ฝากเงินเข้ากระเป๋าเงินของ Paypal ก่อนแล้วจึงฝากเข้าพอร์ตเทรดอีกที
  • Webmoney

เงื่อนไขในการฝากถอนเงิน ICMarkets

  • ฝากเงินทางไหนต้องถอนเงินทางนั้น
  • ฝากเงินครั้งแรกขั้นต่ำ 200$ ส่วนฝากครั้งต่อไปเท่าไหร่ก็ได้ จริง ๆ เคยฝาก 50 $  ก็ได้นะ
  • ถอนเงินขั้นต่ำเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีจำนวนเงินถอนขั้นต่ำ
  • ถ้าฝากเงินเข้ามาหลายๆ ช่องทางเช่น Neteller Skrill Paypal ต้องถอนเงินออกตามช่องทางดังกล่าวตามจำนวนที่ฝากเงินเข้ามา ส่วนกำไรที่เกิดขึ้นสามารถถอนทางไหนก็ได้ที่ฝากเงินเข้ามา

IC Markets ถอนเงินผ่านธนาคารไทยสูงสุด 50,000 บาท/Transection หมายความว่าถ้าจะถอน 200,000 ก็ต้องถอน 4 ครั้ง (แนะนำให้ถอน 48,000 บาทต่อ Transcetion เพราะว่าเรจถอนอาจจะเปลียนทำให้เกิน 50,000 บาททำให้การถอนมีความล่าช้าได้
IC Markets ถอนเงินผ่านธนาคารไทยต่ำสุด 1$

คำสั่งการถอน หรือ Withdrawal Request นั้นทาง IC Markets มีการตัดคิวที่เวลาตอนเที่ยงวันตามเวลาซิดนีย์ ออสเตรเลีย (หรือ 8 โมงตามเวลาประเทศไทย ในกรณีที่เวลาห่างกัน 4 ชม. อาจมีการเปลี่ยนแปลงตาม Daylight Saving Period) นั้นหมายความว่า คำสั่งการถอนที่มีเข้ามาก่อนเที่ยงที่ซิดนีย์จะได้รับการ Process โดยฝ่ายบัญชีภายในวันนั้น เช่นเดียวกับวิธีการถอนวิธีอื่นๆ ซึ่งหลังจากได้รับการ Process แล้วระยะเวลาที่ใช้สำหรับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารในไทยคือ 1-2 ชั่วโมง (อาจจะนานกว่านี้ ถ้าหากปริมาณของคิวมีจำนวนมาก แต่ไม่เกิน 24 ชม)
การถอนนั้นไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ซึ่งต้องถอนเข้าบัญชีภายใต้ชื่อของเจ้าของบัญชีเทรดเองเท่านั้น และต้องกลับเข้าบัญชีธนาคารที่มีการใช้ในการฝากเข้ามาที่ IC Markets แล้วเท่านั้น
สำหรับยอดการถอนสูงสุดต่อหนึ่งธุรกรรม คือ 50,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)

ส่วนตัวแนะนำ  ECN  เลยครับ  ลื่น ตลอด 

มาดู โบรกสุดท้ายครับ  8EIGHTCAP

รายละเอียด 8EIGHTCAP

Eightcap คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิตอล จากประเทศออสเตรเลีย โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 โดยการรวมตัวการของกลุ่มเทรดเดอร์และผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีสาระสนเทศ โบรกเกอร์ Eightcap เป็นอีกหนึ่งในโบรกเกอร์ที่น่าจับตามอง และมีความมั่นคงสูงโดยได้รับการควบคุมและกำกับดูแลจาก Australian Securities and Investments Commission หรือ ASIC จดทะเบียนเลขที่ 391441

นอกจากนี้ EightCap มีการจัดเก็บเงินทุนของลูกค้าทั้งหมดผ่านระบบบัญชีประเภทแยกกับธนาคารแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย (The national Australia bank)

Broker Eightcap โดยรวมแล้วเป็นโบรกเกอร์ที่มีความมั่นคงสูง เพราะอยู่ภายใต้การควบคุมของ ASIC ฝากเงินสะดวกสบายผ่านธนาคารไทยผ่านธนาคาร SCB KBank KTB Krungsri BBL และ TMB มีผู้ดูแลและแชท Support เป็นคนไทย สเปรดโบรกเกอร์ Eightcap บัญชี Standard อยู่ในระดับกลางๆ และ บัญชี Raw จะต่ำกว่า

อ้าว ดู ๆ ดาวเยอะกว่า สองโบรกแรก อีก  แปลก  สงสัย มาเกทับ ในบ้านเราแน่

ข้อดี Eightcap

  • เป็นโบรกเกอร์ที่ควบคุมและกำกับดูแลโดย ASIC ประเทศออสเตรเลีย
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:500
  • ไม่มี Re-quotes
  • ฝาก – ถอนเงินสะดวกสบายผ่านธนาคารไทย 6 แห่ง ได้แก่ SCB KBank KTB Krungsri BBL และ TMB (ฝากเงินเข้าทันที และถอนเงินภายใน 24 ชั่วโมงทำการ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม)
  • มีผู้ดูแลบัญชีคนไทย
  • สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip สำหรับบัญชีเทรดแบบ Raw และ 1.0 pip สำหรับบัญชีเทรดแบบ Standard
  • ฝากเงินขั้นต่ำ 100 AUD และครั้งถัดไปไม่จำกัดจำนวน
  • มีแชท Support เจ้าหน้าที่ชาวไทยตั้งแต่เวลา 9:00 – 18.00
  • มีเว็ปไซต์และระบบสมาชิก Client Portal เป็นภาษาไทย
  • มีการจัดเก็บเงินทุนของลูกค้าทั้งหมดผ่านระบบบัญชีประเภทแยกกับธนาคารแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย (The national Australia bank)
  • ดำเนินคำสั่งซื้อขายอย่างรวดเร็ว
  • Line Official : @eightcapth
  • Email : th.support@eightcap.com

ข้อเสีย Eightcap

  • มีประเภทบัญชีให้เลือกค่อนข้างน้อย คือ บัญชี Standard และ บัญชี Raw

การฝากถอนเงิน Eightcap

วิธีฝากถอนเงินของโบรกเกอร์ Eightcap ที่สะดวกที่สุดสำหรับคนไทยคือ Internet Bank ของธนาคารไทย 6 แห่ง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกร ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรี ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารทหารไทย สำหรับช่องทางอื่น ๆ เช่น Skrill บัตรเดบิต บัตรเครดิต การถอนเงินผ่านทางธนาคารระหว่างประเทศ UnionPay และ Poli การฝากเงินถ้าฝากเงินทางไหนต้องถอนเงินออกช่องทางเดิมก่อน ส่วนกำไรถอนออกทางช่องไหนก็ได้

ประเภทบัญชีเทรด Eightcap

โบรกเกอร์ Eightcap มีประเภทบัญชีเทรดอยู่ 2 ประเภทคือ Standard และ Raw  

ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่าง หาเงินฝากครับ  …  พบกันใหม่ ตอนต่อไป

ทีมงาน : thaiforexbroker.com