มากกว่าแค่ trading pressure

มากกว่าแค่ trading pressure

               วิธีการเทรดแบบหา overbought หรือ oversold ผ่านทางอินดิเคเตอร์น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ยังทำให้อินดิเคเตอร์เป็นที่นิยม หรือแม้แต่เทรดเดอร์ที่เทรดแนวต่างๆ รวมทั้ง price action ก็ใช้ประกอบการหา trade setup เพื่อจะเข้าเทรด overbough/oversold บอกถึง market sentiment ของคู่เงินนั้นๆ ว่าวิ่งทางเดียวนานไปหรือมีแต่เทรดเดอร์เทรดทางเดียว ออเดอร์ที่ออกมาเลยจะไปแต่ทางเดียว แต่ตรงกันข้ามเป็นโอกาสที่จะเห็นขาใหญ่เข้าเทรดเพื่อสวนออเดอร์พวกนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ market sentiment ถึงจุดที่เรียกว่า overbough/oversold คือเทรดเดอร์ก็จะเทรดไปทางใดทางหนึ่งเป็นหลักแล้ว ขาใหญ่เริ่มมองเห็นพื้นที่ๆ ได้เงื่อนไขการเข้าเทรดคือออเดอร์ตรงข้ามที่มากพอ และเมื่อพวกเขาดันราคาสวนต้องมีเทรดเดอรที่เสีย

               การดู overbought/oversold สามารถดูผ่านอินดิเคเตอร์ต่างๆ ได้ เข่น CCI RSI MACD และ STOCHASTIC เป็นต้น เมื่อท่านรู้การอ่าน price structure เพื่อประกอบการเข้าเทรดท่านจะมัวมามองหาแค่ trading pressure เมื่อราคาถึง overbought/oversold ไม่เพียงพอ ท่านจำเป็นต้องอ่านออกว่าขาใหญ่เข้าเทรดยังค่อยเทรดตาม overbought/oversold ผ่านทางอินเดิเคเตอร์สามารถทำให้ท่านรู้ว่าโอกาสน่าจะเกิดเมื่อไรและที่ไหน แต่การจะเข้าเมื่อไรท่านจะมาอ่านแค่ trading pressure เช่นจาก price action อย่าง pin bar หรือ engulfing bar ยังไม่พอเพราะท่านต้องมอง price structure ให้ออกว่า trading pressure พวกนี้เป็นผลจากการเข้าเทรดของขาใหญ่หรือเปล่าก่อน

               ที่เลข 1 ถ้าท่านเทรดด้วย indicator เป็นตัวนำ อินดิเคเตอร์ CCI ราคาต่ำกว่า -100 เข้าเขต oversold มีโอกาสที่ราคาจะเด้งกลับ ราคาก็เด้งกลับจริงๆ แต่เหตุการณ์แบบนี้แล้วไม่เด้งก็บ่อยเราจะเห็นเป็นประจำ เพราะอินดิเคเตอร์อ่านและประมวลผลจากข้อมูลที่จบไปแล้ว เมื่อเรามองย้อนหลังสิ่งหนึ่งที่ท่านจะเห็นคือ อินดิเคเตอร์ไม่เคยผิดพลาด เพราะอินดิเคเตอร์ repaint หรือเปลี่ยนแปลงใหม่ตามราคาที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อท่านดูย้อนหลัง

               การเทรดจะมาดูแค่ overbought/oversold แล้ว trading pressure ไม่พอเพราะรายย่อยไม่ได้เทรดดด้วยทุนที่เยอะแบบขาใหญ่ ไม่มีออเดอร์มากพอที่จะดันราคาไปทางที่ต้องการได้ แต่ trading pressure ช่วยให้เราเห็นว่าจุดไหนที่ขาใหญ่เข้าเทรดหรือปิดทำกำไรได้ ท่านจะพบว่าการเข้าเทรดที่เลข 1 เป็นผลจากการเข้าเทรดของขาใหญ่ เพราะราคาสามารถทำ higher high หรือเป็น Impulsive move ตอนเปลี่ยนเทรนจะมีแต่ขาใหญ่ที่สามารถทำได้ แต่พอมาเลข 2 ท่านจะพบว่าเป็นการเทรดที่ง่าย เพราะข้อมูลเปิดเผยจากเลช 1 จะเห็นว่า buying pressure จะต้องออกไปจากเลข 1 เพราะมีข้อมูลเปิดเผยเพิ่มเติมว่าขาใหญ่เข้าเทรดนำหน้าไปก่อนด้วย Impulsive move ที่เกิดตอนเข้าเทรดเลข 1

               ดูที่เลข 3 ก็จะเห็นว่าเทรดง่ายขึ้นเพราะ trading pressure เป็นผลต่อเนื่องจากราคาทำ higher high เข้าเทรดตอนย่อตัวราคาทำ higher low หรือจุดที่เป็น swap level หรือ flipping level

การเทรดที่เลข 2 จะดีกว่าเลข 1 เพราะอย่างที่อธิบายด้านบนการเทรดที่เลข 2 ไม่ได้ดูแค่เรื่อง trading pressure ที่สำคัญคือ price action เปิดเผยว่าราคาได้เด้งขึ้นไปอาจมองเป็น head and shoulder เป็น chart pattern ที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่จำเป็นต้องเห็นก่อน trading pressure คือร่องรอยการเข้าเทรดจริงไม่ใช่การเปิดทำกำไร หรือจะออกมาในรูป impulsive move หรือ momentum move ที่สามารถเอาชนะพื้นที่ตรงข้ามที่ใกล้ที่สุดได้ เพราะถ้าจะเป็น impulsive move ก็จะเห็นว่ามีการเอาชนะพื้นที่ตรงข้ามอย่างชัดเจน และจะเห็นว่ามี trapped traders ในโครงสร้างตรงนั้นด้วย

               ดู trading pressure 2 เป็นรูปหางบาร์ยาวๆ สิ่งที่ทำให้ราคาลงไม่ใช่ trading pressure ที่เห็นตอนราคาทำ overbough ตามที่รูปอินดิเตอร์บอก สิ่งที่ราคาบอกก่อนที่อินดิเคเตอร์จะเกิดคือ ราคาสามารถเอาชนะพื้นที่ demand ด้านช้ายได้ สิ่งที่ทำให้ราคาลงคือข้อมูลที่เปลี่ยนไป ทำให้เทรดเดอร์ที่รอเข้าเปลี่ยนการรอเข้า ทำให้เทรดเดอร์ที่ติดอยู่ในตลาดโดยเฉพาะที่ติดลบหรือ trapped traders ต้องจัดการออเดอร์ที่อยู่ในตลาดเพราะข้อมูลเปลี่ยนไป

               จากที่อธิบายมา จะเห็นว่าการแค่จะมอง trading pressure ในรูปของแท่งเทียน เช่น Pin bar, engulfing bar ที่เกิด support/resisistance, demand/supply หรือ key levels  จึงบอกว่ามากกว่าแค่ trading pressure  เพราะแม้ท่านจะใช้อินดิเคเตอร์เป็นตัวช่วยในการบอก overbought/oversold ได้ เพราะเป็นสัญญาณแรกที่เมื่อมองจากอินดิเคเตอร์ราคาน่าจะมีการเปลี่ยนเทรน ท่านอาจจะได้ยินหรือถูกบอกว่าให้หาอะไรที่ยืนยันก่อนว่าราคาจะเปลี่ยนเทรนจริง ดังนั้นแม้ trading pressure ที่เกิดขึ้นเมื่อเกิด overbought/oversold ยังไม่เพียงพอที่จะเทรด เพราะแม้ว่าการเทรดของขาใหญ่ต้องการออเดอร์ตรงข้ามที่มากพอ แม้สถานะ overbought/oversold จะทำให้ตรงนี้เกิดขึ้น แต่ท่านต้องเห็นสิ่งที่เป็น impulsive move ประกอบด้วยเป็นสำคัญ เพราะเป็นร่องรอยที่เปิดเผยว่าขาใหญเข้าเทรดจริง

               การอ่านปริบทของ price structure ที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับ trading pressure คือสิ่งสำคัญเมื่อมองหาโอกาสการเทรด การจะมองแค่ trading pressure ที่ key levels ยังไม่เพียงพอ

ทีมงาน : thaiforexbroker.com