Buy high, sell low หลักการเทรด Forex

ทำไมยัง Buy high, sell low

                หลักการเทรดForex เทรดเดอร์ต่างต้องการbuy low, sell highแต่บ่อยครั้งที่เราเมื่อเปิดเทรดกลับพบว่าสิ่งที่เราทำเป็นbuy high, sell lowหรืออย่างหลักการเทรดต่างๆ  ต่างก็พยายามแนะให้เทรดpullback หรือตอนราคาทำเทรนหรือเกิดimpulsive moveเทรดตอนราคาลงมาย่อตัวเทสและจบหรือcorrective move 

                หลักการในการเทรดsupply/demandก็เช่นกันหรือsupport/resistanceจะไม่แนะให้เทรด breakoutตอนราคายืนยันหรือสร้างจุดอ้างอิงพวกนี้ แต่นอกจากความรู้ในการเทรดแล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเรื่อง trading psychologyของตัวเทรดเดอร์เอง ท่านจะพบบ่อยๆว่าหลักการเทรดต่างๆแนะให้เทรดแบบrule-basedทำเมื่อได้เงื่อนไข ตัดอารมณ์ออกไปหรือemotionlessและโฟกัสสิ่งที่เห็นเท่านั้นหรือ objective analysisเมื่อเรารู้ต่างๆพวกนี้ทำไมยังเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าbuy high,sell lowประจำ

                เรื่องนี้หลักๆเป็นเรื่องจิตวิยาหรือtrading psychologyของเทรดเดอร์ล้วนๆจุดแรกที่ให้สังเกตคือเป็นธรรมชาติของคนที่มักจะมองสิ่งที่คนอื่นเขาทำกันเป็นไปแนวทางหรือกำหนดสิ่งที่ตัวเองจะทำ(social proof)เช่น เมื่อเราขับรถไปเห็นรถคันข้างหน้าเราเริ่มเปลี่ยนเลนเราก็อยากเปลี่ยนบ้างหรือถ้าเราเห็นคนอื่นเปิดbuyแล้วราคาไปทางนั้นๆและไปเยอะก็ทำให้เราอยากเปิดbuyตามหรือในทางเปิดsellก็เหมือนกัน

                หรือพอมาดูชาร์ตที่เราเทรดเห็นคนอื่นมีแต่ทรดทางนั้นเราก็อยากเทรดบ้าง ถ้ามองบนชาร์ตจะเห็นมีบาร์ยาวๆตามด้วยmomentumและswingsยิ่งถ้าราคาวิ่งไปทางหนึ่งทางใดชัดเจนเทรดเดอร์ก็จะหันมาแต่หาโอกาสเทรดด้านนั้น–ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์แต่จุดที่พอเปิดเทรดกลับกลายเป็นbuy highหรือsell lowเป็นการเปิดbuyที่ราคาสูงกว่าและเปิดsellที่ราคาต่ำกว่ากลับเป็นว่าลักษณะการเทรดตามสภาพจิตแบบนี้ความเป็นไปได้น้อยลง

                อีกเรื่องหนึ่งที่จะมองคือ กลัวไม่ได้ กลัวไม่ทัน เพราะโอกาสจะไม่มีอีกเพราะหายากหรือน้อย (scarcity) ตัวอย่างเช่น โดยธรรมชาติของคนเราจะต้องการสิ่งที่มีน้อยหรือขาดแคลน เช่นทอง ยิ่งมีน้อยยิ่งมีมูลค่าเยอะหรือมีค่ามากพอที่จะครอบครอง เราไม่เพียงแค่ต้องการเท่านั้นเราจะพบว่าธรรมชาติของคนเราจะหาเหตุผลว่าทำไมเราต้องการมันด้วย ดังนั้น อะไรก็ตามที่มีน้อยหรือหายากมักจะเป็นที่ต้องการกว่าสิ่งที่หาง่ายและมีเยอะ

                 เช่นเดียวกัน เราจะรีบเปิด buy ที่ราคา 1.1500  เพราะเรากลัวว่าอีกไม่นานมันจะขึ้นเป็น 1.1600 1.16500 หรือมากกว่านั้น เพราะเห็นมีแต่คนอื่นๆ ต้องการ เราต้องเปิด buy ตอนนี้ให้ได้ เพราะราคานี้อาจไม่มีโอกาสอีกต่อไป หรือกลัวตกรถ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเมื่อเราเห็นตลาดกำลังขึ้น ทำให้เรารู้สึกว่าจำเป็นต้องรีบเข้าเทรดเดี๋ยวตกรถ

                ท่านจะพบว่าลักษณะราคาที่วิ่งแบบนี้ทำswing highs,swing lowsบอกการพัฒนาการของเทรดว่ากำลังเกิดพอท่านเห็นก็มักมีbiasในการวิเคราะห์ข้อมูลไปทางเปิดbuyเป็นหลักถ้าไม่เปิดเทรดช่วงนี้เดี๋ยวไปต่อไกลเดี๋ยวพลาดโอกาสต้องเปิดตอนนี้ หรือแถวนี้ให้ได้(aggressive buyers)อย่างในกรอบด้านบนแต่สุดท้ายพอเปิดกลับกลายเป็นว่าราคาไปต่อนิดเดียวกลับวิ่งสวนสิ่งที่เราคาดการณ์เป็นหลักกลายเป็นเราติดแถวยอดดอย  

                จาก 2 หัวข้อที่ยกมาท่านจะพบว่าเป็นแรงกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิด buy high หรือ sell low จากกรณีนี้ท่านจะเห็นว่าตัวเราต่างหากที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เรา buy high, sell low เพราะการเทรดมาจากจิตสภาพตามที่ยกมา

                แล้วจะหยุด buy high, sell low หันมา buy low, sell high ได้อย่างไร

                อย่างแรกเลยคือต้องรู้ทันอารมณ์พวกนี้ว่าทำไมเกิดขึ้น และกระตุ้นให้เราอยากเทรด การจะเปลี่ยนแปลงอารมณ์พวกนี้ได้นั้นจำเป็น  จำเป็นต้องเข้าใจตลาดทำงาน ออเดอร์ทำงาน และพฤติกรรมของเทรดเดอร์ที่มาจากสภพจิตต่างๆ ตลาดฟอเรกเป็นตลาดที่ปล่อยให้เทรดเดอร์ทำกำไรได้ทั้งจากราคาขึ้นและราคาลง การทำกำไรจากตลาดฟอเรก อีกฝ่ายหนึ่งกำไรต้องมีอีกฝ่ายก็ต้องเสียเพราะตลาดฟอเรกเป็นตลาด over-the-counter (OTC) ถ้ามีแต่เทรดเดอร์หันมาเทรดทางใดทางหนึ่ง

                 สิ่งที่ขาดคือออเดอร์จากฝั่งตรงข้า ก็เลยทำให้ราคาวิ่งหาออเดอร์ฝั่งตรงข้าม(liquidity)กลุ่มเทรดเดอร์ที่ได้ประโยชน์คือกลุ่มที่เทรดตอนเริ่มเทรนยิ่งราคาวิ่งไปเยอะพวกเขายิ่งได้กำไรเยอะเพราะเทรดเดอร์ที่อยู่ตรงข้ามเริ่มสูญเสียเยอะขาใหญ่ไม่ว่าจะเทรดหรือจัดการออเดอร์ทิ้งที่พวกเขาต้องการอย่างแรกคือ ออเดอร์ฝั่งตรงข้ามที่มากพอท่านจะพบว่าจากเรื่องmarket psychologyที่ยกมาด้านบนกลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ขาใหญ่เข้าเทรดได้ง่ายเป็นการเทรดเข้าไปหากับดักที่ขาใหญ่ต้องการเลยมักจะพบว่าอารมณ์แบบนั้นพอเปิดเทรด กลับเป็นว่าราคาวิ่งไปอีกทางกลายเป็น Buy high, sell low เลย

                ดังนั้นการอ่านชาร์ตอ่านปริบทจึงจำเป็น นอกจากท่านจะเข้าใจตลาด ออเดอร์ทำงานและพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดจากเทรดเดอร์ ทางที่ 1 ท่านจะเห็นว่าหลังจากราคาเทรด supply 3 รอบแล้ว เบรกขึ้นไป ทำให้เกิดอารมณ์กลัวพลาด กลัวไม่ได้เทรด เดี๋ยวตกรถตกเรือ กลายเป็นว่าพอเปิด buy แล้วราคาก็ reject และลงมาเป็นหลักเพราะเรื่องออเดอร์ทำงาน ขาใหญ่ต้องการจะเปิด sell แต่เพราะต้องการ buy orders ที่มากพอและพวกเขาเห็นว่ามี stop orders ตรงพื้นที่นั้น

                เลยต้องทำให้ stop orders ในกรอบสีแดงทำงานเพื่อจะได้เข้าและมีออเดอร์ตรงข้ามที่มากพอ เมื่อเข้าใจการทำงานของออเดอร์ ที่มาออเดอร์ และวิธีการเทรดของขาใหญ่ จะทำให้ช่วยให้ท่านคิดให้รอบครอบก่อนวิเคราะห์และเทรด ก็จะหยุดพฤติกรรม buy high, sell low ได้ และเริ่มหันมาเทรดแบบขาใหญ่ buy low, sell high เป็น ด้วยเพราะความเข้าใจหลักการพวกนี้ และดู price action ประกอบเมื่อเปิดเทรด

ทีมงาน : thaiforexbroker.com